อรุณทอแสงยามเช้า เสียงนกร้องขับขานแว่วดังแต่ไกล ศิษย์สำนักมากมายหลายพันมุ่งหน้ามาที่ลานประลอง เนี่ยฟงเดินทอดน่องช้าๆออกจากบ้านพัก ชั่วน้ำเดือดก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นหยางเวยที่กำลังวิ่งเข้ามา ทั้งสองเดินมาที่ลานประลองพร้อมกัน ตลอดทางมีศิษย์สำนักจ้องมองทั้งสองอย่างไม่วางตา เมื่อมาถึงด้านหน้าลานประลอง มีหลายคนที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม เป็นหยางเวยเองที่กล่าวแจ้งต่อเนี่ยฟงว่ามีกลุ่มของผู้ใดบ้าง
กลุ่มของจางเฉินอันดับสิบในทำเนียบ กลุ่มของหยางเฟยที่รวมอยู่กับจงเหรินป้าอันดับหกในทำเนียบ ระหว่างที่หยางเวยกำลังแจ้งแต่ละกลุ่มว่ามีผู้ใด ด้านหลังก็แหวกเป็นทางเดิน กลุ่มของเจ้าสำนักและบรรดาผู้อาวุโสเดินข้ามาที่ลานประลอง เจ้าสำนักพุ่งทะยานขึ้นมาที่ลานประลอง
” พวกเจ้าคงเตรียมตัวกันอย่างดีสำหรับการประลองในครั้งนี้ กฎการประลองพวกเจ้าหลายคนรับรู้แล้วแต่ยังมีศิษย์ใหม่หลายคนที่ยังไม่รู้ข้าจะขอชี้แจ้งให้ทราบ ห้ามมีการสังหารกันในลานประลอง ผู้ที่ถูกกล่าวท้าทายมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้เช่นกัน ส่วนของรางวัลอันดับที่ห้าสิบเอ็ดลงไปจะได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังปราณจำนวนหนึ่งร้อยเม็ด อันดับที่สี่สิบเอ็ดลงไปจะได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังปราณจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบเม็ด อันดับที่สามสิบเอ็ดลงไปจะได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังปราณจำนวนสองร้อยเม็ด อันดับที่ยี่สิบเอ็ดลงไปจะได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังปราณจำนวนสองร้อยห้าเม็ด อันดับที่สิบเอ็ดลงไปจะได้รับรางวัลเป็นเม็ดยาพลังปราณจำนวนสองร้อยห้าสิบเม็ด ส่วนสิบอันดับแรกจะได้เม็ดยาพลังปราณจำนวนสามร้อยเม็ด “
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นเจ้าสำนักก็โบกสะบัดมือขวา สิ่งของมากมายก็ปรากฏออกมา ดาบ กระบี่ หอก ทวน ชุดเกราะ รองเท้า ถุงมือ รวมไปถึงสมุนไพรหลากหลายชนิด
” สิบอันดับแรกจะมีโอกาสเลือกสิ่งของเหล่านี้ได้คนละหนึ่งชิ้น “
เสียงโห่ร้องดังสนั่นไปทั่วทั้งลานประลอง
” พวกเจ้าคงรอคอยกันนานแล้ว เช่นนั้นข้าขอเปิดงานการประลอง “
เมื่อกล่าวจบท่านเจ้าสำนักก็พุ่งทะยานลงมาที่ด้านล่าง เดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ที่จัดเตรียมไว้ให้ ด้านหลังมีผู้อาวุโสของสำนักนั่งอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสเถียนอู่ซวง ผู้อาวุโสเสิ่นเย่ ผู้อาวุโสพานเฉิง ไม่นานก็มีศิษย์สำนักผู้หนึ่งกระโดดขึ้นมาบนลานประลอง รูปร่างสูงใหญ่ มัดผมหางม้า เมื่อขึ้นมาบนลานประลองก็เอ่ยวาจาเสียงดัง
” ข้ามีนามว่าหัวจ้าวหมิง ข้าขอท้าประลองเนี่ยฟงอันดับสามสิบของทำเนียบการต่อสู้ “
สิ้นเสียงของหัวจ้าวหมิง ผู้คนด้านล่างก็โห่ร้องออกมาเสียงดัง ทางเดินด้านหน้าเนี่ยฟงถูกแหวกออกเป็นทาง หยางเวยที่ยืนอยู่ด้านข้างเนี่ยฟงถึงกับส่ายศีรษะไปมา
” ข้าคิดว่าหยางเฟยคงต้องจัดการเจ้าเป็นแน่ แต่ไม่คิดว่ามันจะลงมือรวดเร็วถึงเพียงนี้ “
” ช่างเถอะ ในเมื่อคิดท้าทายข้า ก็ต้องรบผลที่ตามมาด้วยเช่นกัน อีกอย่างที่นี่มีรับพนันหรือไม่หยางเวย “
” คิดว่าคงมี เจ้าต้องการสิ่งใดรึ “
” ข้าอยากให้เจ้าลงพนันฝั่งข้า ทุกครั้งที่ลงพนันให้เพิ่มจำนวนเป็นสองเท่า “
เมื่อกว่าจบเนี่ยฟงโบกสะบัดมือขวาโยนขวดยาสีขาวนวลให้แก่หยางเวย
” ในนั้นมียาเพิ่มพลังปราณสามร้อยเม็ด เจ้าสามารถนำมันไปแทงพนันได้ “
” เจ้าวางใจเถอะ “
เมื่อหยางเวยกล่าวตอบรับ เนี่ยฟงก็เดินขึ้นลานประลอง หัวจ้าวหมิงที่ยืนแสยะยิ้มเห็นว่าเนี่ยฟงขึ้นมาบนลานประลองแล้วก็โบกสะบัดมือขวา หอกปลายแหลมก็มาอยู่ในมือขวา ด้านข้างมีสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายมนุษย์ตรงส่วนบน ส่วนล่างลำตัวเป็นม้าสีแดงถืออาวุธหอกเช่นเดียวกับหัวจ้าวหมิง เนี่ยฟงเพียงแค่โบกสะบัดมือขวานำดาบสีดำไร้คมออกมาถือไว้เช่นกัน
ชั่วน้ำเดือดก็ได้ยินเสียงเริ่มการประลองจากเจ้าสำนัก หัวจ้าวหมิงและสัตว์อสูรคู่กายพุ่งทะยานออกมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เคร้ง ดาบสีดำถูกตวัดจากล่างขึ้นบนเพื่อป้องกันหอกปลายแหลมที่ถูกจ้วงแทงเข้ามาด้านหน้า เนี่ยฟงโยกตัวหลบหลีกไปทางซ้ายและขวาหอกปลายแหลมทั้งสองจ้วงแทงเข้ามาประดุจพายุ
เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง วูป หอกปลายแหลมของหัวจ้าวหมิงวาดผ่านศีรษะของเนี่ยฟงไปอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงก้มตัวหลบพร้อมกับฟาดฟันดาบสีดำไร้คมออกไป ปราณสีฟ้าพุ่งทะยานเข้าหาหัวจ้าวหมิงอย่างรวดเร็ว สัตว์อสูรรีบกระโดดเข้ามาสกัดพร้อมกับฟาดฟันหอกในมือเข้าปะทะ เปรี้ยง ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย แต่ยังไม่ทันที่ฝุ่นควันจะจางหายไปเนี่ยฟงก็เปลี่ยนมาถือดาบในมือซ้ายพุ่งเข้าหาพร้อมง้างหมัดขวาต่อยเข้าที่ลำตัวของสัตว์อสูร เปรี้ยง สัตว์อสูรของหัวจ้าวหมิงกระเด็นออกไปด้านหลัง
” บัดซบ “
เสียงสบถดังมาจากหัวจ้าวหมิงที่จ้องมองสัตว์อสูรของตนกระเด็นออกไป ช่วงจังหวะที่หัวจ้าวหมิงหันไปมองที่สัตว์อสูรเมื่อหันมาอีกทีก็เห็นหมัดขวาพุ่งเข้ามาที่ใบหน้า เปรี้ยง เนี่ยฟงต่อยหมัดขวาเข้าที่ใบหน้าของหัวจ้าวหมิงอย่างถนัดถนี่ จมูกยุบลง ฟันด้านหน้าหลุดร่วงหัวจ้าวหมิงไม่ทันที่จะเอ่ยสิ่งใดต่อก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นลานประลอง สัตว์อสูรกลายเป็นแสงพุ่งเข้าสู่ร่างของหัวจ้าวหมิง ผู้คนด้านล่างต่างโห่ร้อง หยางเวยถึงกับยืนนิ่งข้าง เพราะลงพนันตามที่เนี่ยฟงบอกตอนนี้ได้เม็ดยามาถึงหกร้อยเม็ด ศิษย์สำนักสองคนขึ้นมาแบกร่างของหัวจ้าวหมิงลงจากลานประลองอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงยังไม่คิดที่จะลงไปจากลานประลองเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง
” คงไม่มีเพียงแค่หัวจ้าวหมิงใช่หรือไม่ที่คิดจัดการข้า เช่นนั้นพวกเจ้าก็ขึ้นมาบนลานประลองเถอะ “