หยางเฟยถึงกับกำหมัดในมือแน่น หน้าตาก่ำไปด้วยความโกรธแค้น จ้องมองศิษย์ใหม่ผู้จองหองกำลังทุบตีลูกน้องผู้จงรักภักดีของตน ตัวมันแทบจะทนไม่ไหวที่จะพุ่งทะยานออกไปทุบตีศิษย์ใหม่ผู้นี้ เหตุที่ตัวมันเองทำไม่ได้เพราะอันดับในทำเนียบ จงเหรินป้าได้แต่ส่ายศีรษะไปมา หันไปสั่งการคนของตน ไม่นานก็หันกลับมาใช้มือขวาแตะไปที่บ่าขวาของหยางเฟย
“ เจ้าไม่ต้องห่วงน้องชาย ข้าสั่งคนของข้าแล้ว หลังจากนี้ข้าจะให้คนของข้าขึ้นไปจัดการไอ้หนูนั่น ”
“ จริงรึพี่ชายเหรินป้า ”
“ แน่นอน เจ้าคอยดูเถอะว่าคนของข้าจะจัดการไอ้หนูนั่นอย่างไร ”
กลุ่มของจางเฉินก็เริ่มที่จะมีการเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ส่งผู้ใดลงประลองวัดฝีมือ เพียงแค่ดูการต่อสู้บนลานประลองก็พอจะเดาทางออกได้ ส่วนกลุ่มต่างๆยังไม่มีผู้ใดทำสิ่งใด หญิงสาวที่เติบโตมากับเนี่ยฟงจ้องมองดูฉากการต่อสู้บนลานประลองอย่างไม่วางตา ทันทีที่มีการแบกห่ามศิษย์ชายลงจากลานประลอง เสียงตะโกนโห่ร้องจากด้านล่างก็ดังขึ้น ศิษย์ชายผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหม่ หน้าตาโหดเหี้ยม นิ้วชี้มือขวาถูกชี้มาที่เนี่ยฟง หลังจากนั้นก็นำมันมาวาดผ่านลำคอตัวเอง พร้อมกับแลบลิ้นออกมา
เนี่ยฟงเองก็หาได้สนใจยกมือขวาขึ้นห้ามแล้วเอ่ยวาจาออกมา
“ ต่อไปพวกเจ้าไม่ต้องแนะนำตัวแล้ว ข้าไม่อยากฟัง ”
เมื่อกล่าวจบเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ศิษย์ชายผู้นั้นถึงกับสบถออกมา
“ ไอ้ลูกหมา บังอาจนัก ”
เสียงโบกสะบัดมือด้านหน้า มีดสั้นก็มาอยู่ในมือศิษย์ชายผู้นั้นพร้อมกับพุ่งเข้าหา เสียงจ้วงแทงและฟาดฟันของมีดสั้นได้ยินแล้วปวดฟันยิ่ง เป็นเนี่ยฟงเองที่แสยะยิ้มออกมาหาได้หวาดกลัว หลบหลีกโยกตัวไปมา ไม่นานก็พบโอกาสเนี่ยฟงโยกตัวหลบมีดสั้นที่จ้วงแทงมาไปทางซ้าย พร้อมกับเอี่ยวตัวต่อยหมัดขวาออกไป เปรี้ยง แทนที่จะปะทะใบหน้ากลายเป็นปะทะกับลำตัวของอสรพิษดำหินผา สัตว์อสูรของศิษย์ชายด้านหน้า เนี่ยฟงหาได้สนใจกระโดดขึ้นเตะเท้าขวาออกไป เปรี้ยง แต่ทว่าถูกกันด้วยแขนทั้งสองข้างอย่างทันท่วงที
เนี่ยฟงกระโดดถอยออกมาเพื่อหลบพิษที่อสรพิษดำพ่นออกมา แทบจะไม่มีโอกาสให้พักหายใจศิษย์ชายด้านหน้าก็พุ่งเข้าหาเนี่ยฟงอีกครั้ง เปรี้ยง เท้าขวาของศิษย์ชายด้านหน้าเตะเท้าขวาเข้าที่ลำตัวของเนี่ยฟง ทว่าเนี่ยฟงยกแขนขึ้นมาสกัดกันเอาไว้ก่อน ทำให้กระเด็นออกไปทางขวา แขนซ้ายปวดชาไม่นานก็หายไป ทั้งคู่ต่างแสยะยิ้มจ้องมองกันอย่างไม่วางตา สามลมหายใจต่อมาทั้งคู่ก็พุ่งเข้าปะทะกัน เนี่ยฟงยังคงไม่เรียกใช้อาวุธ ใช้เพียงหมัดล้วนๆปะทะกับมีดสั้น โดยใช้วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดเล็ก สร้างเป็นเกราะสายฟ้าเอาไว้
ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ไม่นานอสรพิษดำหินผาก็กลายเป็นแสงพุ่งหายเข้าไปในตัวของศิษย์ชายด้านหน้า หลังจากใช้ลำตัวรับหมัดขวาของเนี่ยฟง ที่มุดเข้ามาประชิดตัว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง หลังจากที่สัตว์อสูรถูกจัดการศิษย์ชายด้านหน้าก็ถูกเนี่ยฟงทุบตี ทั่วร่างมีแต่รอยช้ำจากการโดนต่อยและเตะ เปรี้ยง หลังจากเตะเท้าขวาของเนี่ยฟงเข้าที่ใบหน้าอย่างถนัดถนี่ ศิษย์ชายด้านหน้าก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นลานประลอง
เสียงเฮ เสียงโห่ร้องเสียงดังสนั่น เหตุเพราะคนที่เนี่ยฟงจัดการไปอยู่ในอันดับที่สูงกว่านั้นเอง ทำให้เนี่ยฟงกระโดดมาอยู่ที่อันดับที่ยี่สิบสี่ จงเหรินป้าโกรธจนตัวสั่นที่ลูกน้องของตนถูกจัดการลงอย่างน่าสมเพช หยางเฟยแทบควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ หากไม่มีจงเหรินป้าฉุดรั้งเอาไว้ หลังจากนั้นไม่นานก็มีขึ้นมาอีกสามคน ทำให้เนี่ยฟงตอนนี้อยู่ที่อันดับสิบแปดของทำเนียบการต่อสู้ รออีกหนึ่งเค่อเมื่อไม่มีผู้ใดขึ้นมาอีกเนี่ยฟงก็เดินลงลานประลองไป หยางเวยเดินเข้ามาหาเนี่ยฟงอย่าอารมดี
“ เจ้ามันคือตัวโชคดีนี้เอง ”
“ เหอะ เจ้าคงร่ำรวยไม่น้อยสินะ คุณชายหยางเวย ”
“ พอได้นิดหน่อยขอรับ คุณชายเนี่ยฟง ”
ทั้งสองหัวเราะกันออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินออกมาด้านข้าง หยางเวยกล่าวขอบคุณเนี่ยฟงเป็นการใหญ่ ส่งเม็ดยาจำนวนหลายหมื่นเม็ดให้เนี่ยฟง เนี่ยฟงรับมาเพียงห้าพันเม็ดเท่านั้นแล้วส่งคืนหยางเวยไป ในระหว่างนั้นหยางเวยก็เล่าถึง กลุ่มต่างๆเริ่มเคลื่อนไหวอย่างไร เวลาค่อยๆไหลผ่านจนถึงเที่ยงเนี่ยฟงก็ไม่มีใครท้าทาย ทั้งสองจึงเดินไปหาอะไรทานร้านค้าด้านนอกของลานประลอง ที่ถูกจัดทำโดยคนของราชสำนัก ทั้งสองเลือกทานร้านบะหมี่เพราะส่วนใหญ่คนอื่นเข้าร้านอื่น ๆจนเต็ม หลังจากจัดการบะหมี่ไปคนละสองชามทั้งสองก็เดินเข้าไปด้านในบริเวณลานประลอง
ศิษย์สำนักสามคนยืนขวางเนี่ยฟงและหยางเวยเอาไว้ แน่นอนว่าทั้งหมดที่อยู่บริเวณลานประลองก็ต้องเห็น ศิษย์ทั้งสามหาใช่ใครที่ไหนนั้นก็คือ จงเหรินป้า หยางเฟย ส่วนอีกคนหยางเวยกระซิบบอกเนี่ยฟงว่าคือเทียนสือคงศิษย์อันดับที่สิบเอ็ดในทำเนียบการประลอง คงเป็นคนของจงเหรินป้า ทั้งสองฝั่งไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพียงแค่ยืนจ้องมองกันเท่านั้น แน่นอนว่าเนี่ยฟงหาได้สนใจเดินหนีออกไปอีกทาง
“ บัดซบไอ้บ้าเนี่ยฟง ข้ากลัวแทบตาย ”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่เอาน่าหยางเวย เมื่อครู่เจ้ายังบอกข้าว่าเป็นตัวนำโชคไม่ใช่รึ ”
“ เจ้ามันเป็นทั้งตัวโชคดีและโชคร้าย อีกอย่างข้ามีบางอย่างจะสอบถามเจ้า ”
“ มีสิ่งใดรึ ”
“ เจ้าเรียนรู้เรื่องของอักขระศักดิ์สิทธิ์ ด้วยใช้หรือไม่ ”
“ ใช่ ”
“ เช่นนั้นเจ้าคงสลักมันลงสิ่งของได้หรือไม่ ”
“ เจ้าอยากให้ข้าทำสิ่งใด ”
“ ข้าอยากได้อาวุธที่ลงสลักอักขระศักดิ์สิทธิ์สักชิ้น ”
“ เจ้าใช้อาวุธใด ”
หยางเวยนำมีดออกมาเล่มหนึ่งแปลกประหลาดมันมีขนาดยาวเกือบเท่ากับดาบ ด้านบนมีรอยหยักไปมา ใบมีดมีรอยขีดยาวทั้งสองข้าง
“ มันคืออาวุธที่ข้าสร้างมันขึ้นมากับพ่อขอข้า พ่อข้ามีอาชีพเป็นช่างตีดาบ รูปร่างมันแปลกประหลาดพอสมควร ”
เนี่ยฟงรับมีดจากหยางเวยขึ้นมาดูพร้อมกับควงมันไปมา หลังจากนั้นก็มอบคืนให้หยางเวย
“ จบการประลองเมื่อไหร่ข้าจะสลักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ให้กับมีดของเจ้า แน่นอนอย่าบอกใครไปละ ข้าไม่อยากเจอเรื่องปวดหัวเพิ่มอีก ”
“ แน่นอนขอรับคุณชายเนี่ยฟง ”