การประลองยังคงดุเดือดเช่นเดิม มีเพียงสองคนเท่านั้นที่แยกตัวออกมา นั้นคือหยางเวยและเนี่ยฟง หยางเวยตอนนี้ถือว่าร่ำรวยเม็ดยาที่สุดในสำนักแล้ว มีเม็ดยาเกือบแสนเม็ด เนี่ยฟงหลังจากลงจากลานประลองก็เดินแยกตัวออกมาพบกับหยางเวย เช่นเดิมเนี่ยฟงรับเม็ดยามาจากหยางเวยเพียงแค่ห้าพันเม็ด ไม่นานก็มีเสียงเฮดังสนั่น บนลานประลองมีผู้สาวผู้หนึ่งขึ้นท้าประลอง เนี่ยฟงจดจำคนผู้นี้ได้อเพราะเธอคือซูหนิง การต่อสู้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ซูหนิงเรียกใช้สัตว์อสูรเข้าร่วมต่อสู้ด้วยนั้นเอง
“ เจ้าต้องรู้จักนางหรือไม่ หยางเวย ”
“ แน่นอน นางเป็นศิษย์ใหม่ที่มีความสามารถมาก ตอนนี้พลังปราณของนางอยู่ในระดับสีม่วงขั้นกลางแล้ว ถือว่าโดดเด่นไม่น้อย นางก็มาจากหมู่บ้านเดียวกับเจ้าไม่ใช่รึ ”
“ ใช่ ในอดีตเราสนิทกันมาก แต่หลังจากการคัดเลือกพรสวรรค์ในวันนั้น ข้าก็ไม่เจอนางอีกเลย ”
“ ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดเจ้าถึงได้พรสวรรค์เพียงแค่สีขาว ทั้งที่ตอนนี้เจ้ามีความสามารถอีกทั้งยังฝึกยุทธได้อีกด้วย เจ้าไปเจออะไรในป่ามรณะกันแน่ ”
“ เรื่องนั้นข้าคงบอกเจ้าไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าไม่อยากเป็นแบบข้าหรอก ”
“ ว่าแต่เจ้าจะลงประลองอีกหรือไม่เนี่ยฟง ”
“ เหอะ เจ้ายังคิดที่จะพนันอีกรึ ”
“ ไม่เอาน่า ตอนนี้เพียงแค่ข้าเดินเข้าไปที่รับแทงพนัน พวกนั้นก็ไล่ข้าออกมาแล้ว เจ้านี้มันตัวโชคดีของข้าจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
ในขณะที่หยางเวยกำลังหัวเราะอยู่ ก็มีศิษย์ชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาทั้งสอง หยางเวยที่กำลังหัวเราะอยู่ก็หยุดหัวเราะนิ่งค้าง เนี่ยฟงจงหันไปมอง
“ มีสิ่งใดรึ หนางเวย ”
“ มีใครบางคนกำลังเดินมาหาพวกเรา ”
เมื่อเนี่ยฟงหันไปมองก็พบกับศิษย์สำนักผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหล่า
“ พวกเจ้าคือ ศิษย์ใหม่เนี่ยฟงและหยางเวยใช่หรือไม่ ข้ามีนามว่าหวังหลิน ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าทั้งสอง ”
“ เชิญศิษย์พี่หวังหลินกล่าวมาเถอะขอรับ ”
“ ข้าต้องการให้เจ้าศิษย์น้องเนี่ยฟง เข้ามารวมกลุ่มกับพวกข้า ”
“ เพื่อสิ่งใดขอรับ ”
“ อีกสามเดือนจะมีงานล่าอสูรของสำนักเรา เจ้าสนใจเข้ารวมกลุ่มกับพวกข้าหรือไม่ ”
เนี่ยฟงครุ่นคิดอยู่นานสุดท้ายก็กล่าวตอบหวังหลิน
“ ต้องขออภัยขอรับศิษย์พี่ ข้าและเพื่อนของข้าจะไปด้วยกันสองคนขอรับ เพราะหากข้ารวมกลุ่มกับท่าน เพื่อนข้าคนนี้คงหมดโอกาสที่จะเข้างานล่าสัตว์อสูรแล้วขอรับ ”
หยางเวยถึงกับหันหน้าเนี่ยฟงด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับหวังหลินที่ตกใจด้วยเช่นกัน
“ ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาหากเจ้าต้องการรวมกลุ่ม สามารถแจ้งต่อข้าได้ ”
“ แน่นอนขอรับ ”
หลังจากนั้นไม่นานหวังหลินก็เดินจากไป
“ ไอ้บ้าเนี่ยฟงทำไมถึงไม่เข้ารวมกลุ่มกับศิษย์พี่หวังหลิน ”
“ ข้ายังไม่อยากรวมกลุ่มกับผู้ใด ”
“ หรือเราจะตั้งกลุ่มกันเองเนี่ยฟง ”
“ ข้าว่าอีกสามเดือนเจ้าจัดการเม็ดยาที่ได้มาให้หมดเถอะ อย่าคิดรวมกลุ่มเลย ตอนนี้ระดับพลังเจ้าน้อยนิด เข้าไปในงานล่าอสูรเจ้าได้ตายแน่ ”
“ ได้ อีกสามเดือนข้าจะไปถึงระดับสีม่วงขั้นกลางได้แน่นอน ”
ผ่านไปอีกสองชั่วยามการประลองก็เสร็จสิ้น อันดับหนึ่งถึงสิบมีเพียงเนี่ยฟงเท่านั้นที่เข้ามาแทนที่ในอันดับที่หก ส่วนที่เหลือมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซูหนิงได้อันดับที่สี่สิบสองในทำเนียบการต่อสู้ เนี่ยฟงเลือกถุงมือผ้าไหมมาคู่หนึ่ง จากรางวัลพิเศษ ทันทีที่เจ้าสำนักประกาศว่าเนี่ยฟงเป็นศิษย์ส่วนตัวนั่น ผู้คนต่างโห่ร้องเสียงดังลั่น แน่นอนเพราะความสามารถของเนี่ยฟง ทำให้หลายคนเกิดความสงสัย ในขณะนั้นเอง ก็มีผู้อาวุโสสองคนร่วงลงมาจากฟ้า เจ้าสำนักโบกสะบัดมือขวา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงก็ปรากฏออกมา กลายเป็นแหขนาดใหญ่ รองรับผู้อาวุโสทั้งสอง
ผู้คนมากมายด้านล่างโห่ร้องด้วยความตื่นตกใจ ผู้อาวุโสเถียนอู่ซวงรีบเข้ามาดูอาการอย่างเร่งรีบ หลังจากตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นผู้อาวุโสลู่ซวงและผู้อาวุโสลู่ช๋วน ทั้งสองได้รับบาดเจ็บหนัก แทบจะสิ้นลมในไม่ช้า ทันทีที่ได้สติขึ้นมา ผู้อาวุโสลู่ซวงก็เอ่ยบางอย่างออกมา
“ รีบแจ้งเจ้าสำนัก ในงานล่าอสูรที่กำลังจะเกิดขึ้น สำนักกิเลนไฟจะลงมือจัดการศิษย์สำนักเรา ข้าทั้งสองแอบสืบข่าวนี้มาได้ มันร่วมมือกับสำนักเจ็ดดาวในเขตดินแดงแห่งไฟ ข้าทั้งสองถูกคนจากสำนักเจ็ดดาวลอบทำร้าย ”
หลังจากกล่าวแจ้งข้อความเสร็จ ทั้งสองก็สิ้นลมหายใจ เจ้าสำนักรีบสั่งจบการประลองจัดอันดับทันที เรียกประชุมเหล่าผู้อาวุโสด่วน พิธีศพของผู้อาวุโสทั้งสองถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ด้านหลังเขาที่เป็นเขตสุสาน ผู้อาวุโสที่สิ้นชีพจะถูกจัดฝังรวมกันไว้ที่นี่ ข่าวการเสียชีวิตของผู้อาวุโสทั้งสองถูกแจ้งไปทางราชสำนัก เพราะในงานล่าอสูรก็ยังมีคนของราชสำนักเข้าไปด้วย บุตรหลานของขุนนางทั้งหลายต่างเข้าศึกษาที่ในวังทั้งสิ้น
ผู้ฝึกสอนเป็นเหล่าทหารฝีมือดีและเหล่าแม่ทัพ เพราะแต่ละคนมีความรู้ทั้งบุ๋นและบู๊ แตกฉานวิชาหลายขนาด อีกทั้งยังมีบรรดาหมอหลวง คอยหมุนเวียนเข้ามาสอนการปรุงยาอีก ทันทีที่ทางราชสำนักได้จดหมาย ก็สั่งปิดประชุมด้วยเช่นกัน
เวลายังคงหนุนไปอย่างรวดเร็ว สองเดือนผ่านมาเนี่ยฟงจัดการออกไปทำภารกิจกับหยางเวยด้านนอกบ่อยๆ เนี่ยฟงฝึกวิชาต่อสู้กับหยางเวยเป็นประจำ อีกทั้งยังช่วยสอนสมุนไพรที่มีพิษให้แก่หยางเวยด้วยเข่นกัน ทักษะการต่อสู้ของหยางเวยอยู่ในระดับหลอมรวมหมดแล้ว อีกทั้งระดับพลังปราณก็มาอยู่ที่สีม่วงขั้นสี่แล้ว ระดับพลังปราณเนี่ยฟงเพิ่มขึ้นมาเพียงหนึ่งระดับ อยู่ที่ระดับสีน้ำตาลขั้นเก้า ท่าเท้าเหยียบนภา อยู่ในขั้นระดับหลอมรวม ส่วนวิชาอื่นๆอยู่ที่ระดับเชี่ยวชาญหมดแล้ว
แน่นอนในระหว่างนี้บรรดากลุ่มมากมายก็เข้ามาสนิทกับเนี่ยฟงและหยางเวยไม่น้อยเช่นกัน ส่วนเจ้าสำนักก็เรียกตัวเนี่ยฟงเข้าพบอยู่บ่อยครั้ง เมื่อกลับมาจากการทำภารกิจ เนี่ยฟงได้คัมภีร์และหนังสือเกี่ยวกับอักขระศักดิ์สิทธิ์มาศึกษาไม่น้อยเช่นกัน ก่อนถึงงานล่าอสูรหนึ่งเดือน เนี่ยฟงใช้เวลาที่เหลืออยู่ในบ้านพักและห้องฝึก โดยการเรียนรู้อักขระศักดิ์สิทธิ์ และปรุงยาเพิ่มเติมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้นในงานล่าอสูร เพราะทุกคนในสำนักต่างรับรู้กันหมดแล้วว่า ภายในงานล่าอสูรที่จะเกิดขึ้น จะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง