ศิษย์สำนักหนึ่งร้อยคนในอันดับทำเนียบสามารถนำศิษย์ในพรรคติดตามไปด้วยไม่เกินคนละห้าคน ประกาศถูกติดตั้งด้านหน้าของหอภารกิจ ศิษย์สำนักมากมายต่างจับกลุ่มกัน มีเพียงเนี่ยฟงเท่านั้นที่ปฏิเสธเข้ากลุ่มใดมีเพียงหยางเวยเท่านั้นที่ติดตามไปด้วย นั้นเพราะทุกครั้งที่หยางเวยต่อสู้ ลมปราณที่ออกมาจะมีพิษร้าย เคยร่วมกลุ่มกับศิษย์สำนักคนอื่นแล้ว ได้รับพิษตามไปด้วยต้องค่อยรักษากันอีก เนี่ยฟงจึงหลีกเลี่ยงไม่เข้ากลุ่มกับผู้ใด แน่นอนว่าหยางเวยนับถือในตัวเนี่ยฟงไม่น้อยเช่นกัน โดยทั้งสองจะแบ่งหน้าที่ให้หยางเวยเป็นคนไปหาข่าวเกี่ยวกับกลุ่มต่างๆ ส่วนเนี่ยฟงจะศึกษาเกี่ยวกับสัตว์อสูรที่อยู่ในป่า
เวลาค่อยๆล่วงเลยไปอย่างช้าๆ ไม่นานก็ถึงเวลาออกเดินทาง ป่าที่ใช้ในการล่าอสูรในครั้งนี้ อยู่ติดกับเขตดินแดนแห่งไฟ เพียงแต่ว่าจะถูกล้อมไปด้วยอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ กั้นเป็นเขตแดน ทุกปีเขตแห่งสายลมจะได้มีสิทธิ์เข้าไปในป่า จากการได้อันดับที่ดีในการประลองสำนักระหว่างเขตดินแดนทั้งแปด ได้แก่ สายลม ดิน น้ำ ไฟ ป่า ทะเลทราย ทะเล และเมฆหมอก โดยตั้งชื่อตามสภาพที่ตั้งเป็นหลัก โดยแต่ละแห่งจะมีที่สำหรับฝึกศิษย์ในสำนักประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าที่นี่จะถูกกันให้ล่าปีละครั้ง ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ด้านในไม่ถูกทำลายลงไป อีกทั้งด้านในยังมีสุสานโบราณมากมาย เพราะเดิมที่แห่งนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่ในอดีต
เขตดินแดนแห่งสายลม ได้นำสำนักใหญ่ในเขต เข้ารวมกลุ่มจัดเป็นงานล่าอสูรขึ้น เพื่อฝึกศิษย์ระดับหัวกะทิให้เก่งกาจยิ่งขึ้น โดยมีสามสำนักใหญ่ สำนักพยัคฆ์สายลม สำนักกิเลนไฟ และราชสำนัก โดยแต่ละแห่งสามารถส่งตัวแทนได้ไม่เกินห้าร้อยคน โดยสามารถอยู่ด้านใน หนึ่งเดือน จะมีป้ายที่สลักอักขระศักดิ์สิทธิ์สำหรับเข้าด้านใน ป้ายอยู่คนอยู่ ป้ายหายคนตาย เพราะจะไม่สามารถออกมาจากป่าแห่งนั้นได้ ป้ายของใครของมัน ครบกำหนดหนึ่งเดือนป้ายจะดีดตัวเจ้าของออกมาด้านนอกสามารถเข้าไปด้านในเป็นกลุ่มได้โดยกลุ่มหนึ่งไม่เกินหกคน
การเดินทางโดยรถม้าขนาดใหญ่มากกว่าสามสิบคัน เป็นขบวนใหญ่ เมื่อมาถึงก็พบกับลานกว้างขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีช่องเขาที่ถูกฝ่าเป็นทาง ตรงกลางเนี่ยฟงสังเกตเห็นเป็นม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ปิดทางเข้า ด้านข้างมีเวทีขนาดใหญ่ ถัดออกไปเป็นกระโจมสำหรับเจ้าสำนักและผู้อาวุโสได้นั่ง ทันทีที่ลงจากรถม้า ทั้งหมดก็ถูกเรียกให้ไปต่อแถวรอทางด้านซ้ายมือยี่สิบแถว ไม่นานก็มีการแจ้งป้ายอักขระศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นไม่ถึงสองเค่อ ขบวนของราชสำนักก็เดินทางมาถึง มีขบวนของทหารเดินนำหน้าและปิดท้าย คนของราชสำนักก็มาต่อแถวอยู่ตรงกลาง เวลาไล่เลี่ยกันไม่นานขบวนของสำนักกิเลนไฟก็มาถึง ทั้งหมดได้เข้ามาต่อแถวถัดจากแถวของราชสำนักไม่นานเจ้าสำนักจางหลิงก็เดินขึ้นเวทีด้านข้าง
“ ข้าในนามของตัวแทนสำนักทั้งสาม ในเขตดินแดนสายลม ยินดีดีต้อนรับทุกท่านที่เข้าร่วมงานล่าอสูรในครั้งนี้ รายละเอียดทั้งหมดพวกเจ้าคงรับรู้อยู่แล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ข้าขอเปิดงานงานอสูรในครั้งนี้ ขอให้พวกเจ้าโชคดี ”
เมื่อกล่าวจบเจ้าสำนักจางหลิงก็โบกสะบัดมือขวา ปราณสีแดงพุ่งออกจากมือขวาไม่นานก็เกิดวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ ชั่วน้ำเดือดก็จางหายไป มองเป็นม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา ศิษย์สำนักทั้งสามรีบพุ่งทะยานเข้าไปด้านใน มีเพียงกลุ่มใหญ่ๆยังไม่มีใครเคลื่อนไหวใดๆ ผ่านไปอีกสองเค่อเนี่ยฟงและหยางเวยก็เดินเข้าไปด้านใน ทันทีที่เดินเข้ามาผ่านม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ ทั้งคู่ก็โผล่ที่หนึ่ง รอบด้านมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ
เนี่ยฟงรีบคว้าหยางเวยพุ่งทะยานออกไปด้านซ้าย เปรี้ยง กิ่งไม้แหลมถูกขว้างเข้าหาปักบริเวณที่ทั้งสองยืนอยู่พอดี สัตว์อสูรลิงขนขาวจำนวนสี่ตัวระดับสีม่วงขั้นกลาง ทั้งคู่ถูกวาปมาโผล่บริเวณที่สัตว์อสูรลิงขนขาวกำลังกินผลไม้อยู่
“ บัดซบโดยแท้ เนี่ยฟงขอบใจเจ้ามาก ”
“ ช่างเถอะ รีบจัดการพวกมันเถอะ ”
“ ได้ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง ”
เมื่อกล่าวจบหยางเวยก็พุ่งทะยานออกไปทันที หยางเวยใช้ทักษะท่าเท้าหลบหลีกกิ่งไม้ที่ถูกขว้างเข้ามา ทันทีที่เข้าประชิดตัวสัตว์อสูรลิงขนขาวได้ตัวหนึ่ง หยางเวยก็ซัดฝ่ามือออกไปบริเวณลำตัว ปราณฝ่ามือสีม่วงพุ่งออกไป เปรี้ยง ปะทะกับลำตัวสัตว์อสูรลิงตัวนั้นร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด พิษค่อยๆกัดเข้าไปในเนื้อ หยางเวยหาได้สนใจพุ่งออกไปจัดการกับสัตว์อสูรลิงขนขาวที่เหลืออีกสามตัว พวกมันร้องคำรามเช่นกันแต่มีความโกรธแค้นแฝงอยู่ หยางเวยยังคงใช้วิธีจัดการเช่นเดียวกับตัวแรก พุ่งเข้าประชิดและซัดฝ่ามือที่แฝงลมปราณพิษเข้าจัดการ หลังจากจัดการเสร็จสิ้นทั้งสองก็ได้ยินเสียงตบมือดังขึ้น
เมื่อหันไปมองทางเสียงตบมือ ก็พบกับชายหนุ่มสี่คนเดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ ทั้งสี่แต่งตัวด้วยชุดของสำนักกิเลนไฟ ชายผู้หนึ่งเดินออกมาพร้อมกับสบถเสียงดัง
“ บัดซบแท้ มีมาแค่สองคนเองรึ ข้าคิดว่าจะมีมามากกว่านี้อีก ”
“ ไม่เอาน่าเปาซือ เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าจัดการพวกมันทั้งสองก็แล้วกัน ”
“ ขอบใจศิษย์พี่เฉินเจียงมากขอรับ ”
“ ถางลู่ เคอเฉียง ถอยออกมาให้เปาซือจัดการ ”
“ ขอรับ ”
หลังจากที่ทั้งสี่คุยกันระหว่างทางที่เดินเข้ามา เนี่ยฟงรับรู้ได้ว่าทั้งสี่กำลังคุยกันเรื่องอะไร เนี่ยฟงค่อยๆเดินเข้าไปกระซิบบางอย่างกับหยางเวย
“ หยางเวย ข้าว่าพวกมันไม่ได้มาดีแน่ เจ้าพร้อมหรือไม่ ”
“ แน่นอนข้ารอเวลานี้มานานแล้ว เมื่อครู่ข้าเพียงแค่ออกกำลังกายเท่านั้น ”
“ เหอะ ทำเป็นปากดี เมื่อครู่เกือบตายไปแล้ว ช่างเถอะ เจ้าคอยรับมือไอ้บ้าที่เดินเข้ามาก็แล้วกัน ส่วนที่เหลือข้าจัดการเอง ”
“ ได้ขอรับคุณชายเนี่ยฟง ”
เมื่อหยางเวยกล่าวตอบรับ เนี่ยฟงก็ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความหวาดกลัว วิ่งหนีออกไปทิ้งไว้ให้หยางเวยยืนด้วยความงุนงง ศิษย์สำนักกิเลนไฟทั้งสี่คน เมื่อเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาดังลั่น
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ศิษย์พี่เฉินเจียงดูไอ้บ้านั้นมันวิ่งหนีหายไปแล้ว บัดซบแท้ศิษย์สำนักพยัคฆ์สายลมดีแต่ชื่อเสียงจริง ”
“ ช่างเถอะเปาซือ เจ้ารีบจัดการมันซะ แล้วรีบไปจัดการไอ้บ้านั้นด้วย ”
“ ขอรับ ”
หยางเวยไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป จึงยกมือขวาขึ้นมาแล้วกวักเรียกชายหนุ่มด้านหน้า
“ เจ้าจะเข้ามาให้ข้าทุบตี หรือจะให้ข้าเข้าไปทุบตีเจ้า ”
“ ให้เจ้าเข้ามาให้ทุบตีข้า บัดซบไอ้ลูกหมา กล้าเล่นลิ้น ”
เปรี้ยง