มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 82
ทันทีที่ระฆังดังเริ่มการประลอง ชายหนุ่มผู้หนึ่งก็โบกสะบัดมือขวาอย่างรวดเร็ว วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงขนาดใหญ่ก็ปรากฏ ทันใดนั้นก็มีแรงกดทับระดับสีส้มขั้นกลางแผ่ออกมาจากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่พอแค่นั้นยังมีสัตว์อสูรเป็นนกตัวใหญ่ส่วนหางมีไฟลุกไหม้ มันค่อยพ่นลูกไฟใส่ผู้คนที่อยู่ในวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่ลงไปนอนกับพื้น มีหลายคนเจ็บปวดเพราะลูกไฟตะโกนกล่าวยอมแพ้อย่างรวดเร็ว การประลองรอบนี้เป็นการประลองที่รวดเร็วที่สุดและมีผู้ ชนะเพียงคนเดียวนั้นคือชายหนุ่มผู้มีนามว่าเผิงเตา จากสํา นักอักขระเต่าดํา เสียงตะโกนโห่ร้องดังสนั้นเป็นเช่นเดิมหยาง เวยและโจวหมิงรีบขึ้นไปบนลานประลองแบกร่างของเชียวหม่าลงมา สภาพบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย
ผู้อาวุโสหญิงที่มาด้วยรีบรักษาอาการบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนหยางเวยพุ่งขึ้นไปบนลานประลองต่อเป็นคนที่สาม ไม่นานอีกยี่สิบสามคนก็พุ่งทะยานขึ้นมา หลายคนจดจ้องไปที่ศิษย์สํานักอักขระเต่าดําอย่างไม่วางตา ทันทีที่เสียงระฆังดังเริ่มการประลอง ศิษย์สํานักอักขระเต่าดําก็ต้องกล่าวยอมแพ้อย่างรวดเร็ว มีศิษย์สํานักอื่น ๆพุ่งเข้าหาพร้อมอาวุธในมือสิบกว่าคนหยางเวยสวมใส่สนับในมือพร้อมกับพุ่งเข้าไปจัดการชายหนุ่มด้านหน้าต่อยหมัดขวาออกไปที่ใบหน้าอย่างถนัดถนี่เปรี้ยงชายหนุ่มผู้นั้นถึงกับกระเด็นออกไป ปราณพิษเริ่มทํา งานของมันอย่างรวดเร็วชายผู้นั้นนอนแน่นิ่งไปกับพื้น
หยางเวยประดุจพยัคฆ์ในฝูงแกะ พุ่งไปที่ใดมีแต่คนต้องลงไปนอนกับพื้น เสียงหมัดปะทะใบหน้าเสียงดังสนั่นผู้คนด้านล่างต่างส่งเสียงเฮลั่น หลายคู่ที่ประลองกันดุเดือดไม่น้อยสัตว์อสูรต่างร้องคํารามพุ่งเข้าหาศัตรูด้านหน้าตามคําสั่งของผู้เป็นนายเปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ในเมื่อหนึ่งต่อหนึ่งสู้ไม่ไหว มีหลายคนรวมกลุ่มกับพุ่งเข้าปะทะ แน่นอนว่าหยาง เวยก็เป็นหนึ่งในนั้น รับมือสองต่อหนึ่งเด็กหนุ่มหาได้มีความหวาดกลัวแต่อย่างใด หมัดทั้งสองต่อยออกไปอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง พิษที่แฝงมากับลมปราณทํางานอีกครั้ง ฉากการต่อสู้อันดุเดือดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เหล่าศิษย์สํานักในที่พักต่างจ้องมองการต่อสู้อย่างไม่วางตามี หลายคนกําหมัดในมือแน่น
ปราณดาบและกระบี่ปลิวว่อนตอนนี้บนลานประลองหลงเหลือเพียงไม่กี่คนแล้วฝ่ามือสีม่วงพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรพร้อมกับพิษที่แฝงมากับลมปราณ ฝุ่นควันสีม่วงลอยฟังไปทั่วลานประลอง หลายคนรีบสกัดจุดห้ามพิษร้ายเข้าสู่ร่างแต่ก็ไม่ทันกาล ถูกชายหนุ่มผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาจัดการจนลงไปนอนกับพื้นเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ปราณดาบขนาดใหญ่พัดพาควันสีม่วงหายออกไปจากลานประลองหลงเหลือเพียงสามคนที่ยืนอยู่เป็นหยางเวยจากสํานักพยัคฆ์สายลม ชายหนุ่ มผู้ถือดาบขนาดใหญ่ฮันฉานลู่จากสํานักผาสวรรค์ อีกผู้หนึ่งเป็นชายหนุ่มรูปงามถือดาบเช่นกันนามว่า ซ่งจวินซื้อ จากสํานักอินทรีทอง
หนางเวยรีบส่งขวดยาแก้พิษให้แก่ศิษย์สํานักต่างๆ เสียงเฮยังดังดังกระหึมอย่างต่อเนื่องในรอบที่สี่ องค์ชายสี่จากราชสํานักเขตสายลมร่วมลงประลองเพราะฉีเจิงกวนจากสํานักกิเลนไฟลงประลองในรอบนี้ ส่วนสํานักพยัคฆ์สายลมส่งอชิงห
นานขึ้นประลอง ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้นศิษย์สํานักอักขระเต่าดําก็ถูกจัดการก่อนที่จะได้ใช้ทักษะใดๆออกมาองค์ชายสี่และฉีเจิงกวน ทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่วางตาดาบในมือของทั้งสองใช้ฟาดฟันออกมา ปราณดาบสีขาวสองเล่มและปราณดาบสีแดงปะทะกันเสียงดังสนั่นเปรี้ยง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เครั้ง ทั้งสองหาได้สนใจผู้คนรอบข้างทั้งสองเพียงแต่ต้องการชําระหนี้แค้นเมื่อครั้งอดีตเท่านั้น ทั้งสองฟาดฟันดาบในมือด้วยกําลังถึงหกส่วนหวังจัดการศัตรูคู่แค้นด้านหน้า
อู่ชิงหนานเรียกพยัคฆ์ตัวหนึ่งออกมาตัวสีขาวมีปีกขนาดใหญ่ด้านหลัง หางมีไฟลุกไหม้ ทั้งสองพุ่งทะยานออกไปด้านหน้าดาบในมือปรากฏออกมาอย่างรวด เร็วฟาดฟันออกไปปราณดาบสีขาวพุ่งเข้าหาชายหนุ่มผู้หนึ่ง ตามด้วยลูกไฟขนาดใหญ่เปรี้ยง ตุม สัตว์อสูรหลายตัวพุ่งเข้า หากัน เสียงคํารามดังสนั่นเคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เสียงดาบปะ ทะกันของอีกด้านของลานประลององค์ชายสีโหมก ระหน่ําฟาดฟันดาบในมือฉีเจิงกวนต้องถอยออกมาพร้อมกับ ยกดาบในมือเข้าสกัดกั้นในระหว่างนั้นทั้งสองต้องแยกออก จากกันเพราะมีปราณทวนสีขาวพุ่งเข้าหาทั้งสองเปรียง
ทั้งสองหันไปมองทิศทางที่ปราณดาบพุ่งออกมาพอเห็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยกยิ้มอย่างเจ้าเลห์ คนของสํานักพยัคฆ์สายลมจดจําได้ดีว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นใคร เด็กหนุ่มผู้นั้นคือเด็กที่มากับชายชราที่พ่ายแพ้แก่เนี่ยฟงในวันประลอง องค์ชายสี่และฉีเจิงกวนพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มผู้นั้นทันที ปราณดาบสีขาวและแดงพุ่งเข้าหา ปราณทวนสีขาวหลายสิบปราณพุ่งเข้าปะทะด้วยเช่นกัน เปรี้ยงเปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ตอนนี้บนลานประลองเหลือเพียงหกคน สองคนกําลังโจรที่อู่ชิงหนานอยู่ ปราณดาบสองเล่มพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว ปราณดาบสีขาวขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าปะทะเปรี้ยง เปรี้ยง ลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาชายหนุ่มผู้หนึ่ง ในจังหวะที่กระโดดหลบลูกไฟ ปราณดาบสีขาวก็พุ่งเข้าปะทะ เปรี้ยง
ในส่วนขององค์ชายสี่และฉีเจิงกวนก็หาได้ร่วมมือกันโดยแท้จริง หากครั้งใดมีโอกาสทั้งสองจะคอยทําร้ายกันอยู่เสมอ แน่นอนว่าทําให้เด็กหนุ่มผู้นั้นยกยิ้มขึ้น
“ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าพวกท่านมีความแค้นกันอย่างไร แต่ หากอยากเข้ารอบข้ามีแผนบางอย่าง”
เป็นฉีเจิงกวนแสยะยิ้มกล่าวตอบรับ
“ รีบกล่าวมาเถอะ อย่าเสียเวลา ”
“ ทําไมพวกเราไม่ร่วมมือกันละ ตอนนี้ที่นี่มีเหลือเพียง หกคน หากเราจัดการอีกสามคนที่เหลือเราทั้งสามก็จะผ่านเข้ารอบสบายๆ
องค์ชายสี่ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
“ บัดซบพวกเจ้าคิดสิ่งใด ”
สิ้นเสียงกล่าวก็ฟาดฟันดาบออกไป เป็นฉีเจิงกวนและเด็กห นุ่มผู้นั้นพยักหน้าให้แก่กันอย่างลับๆเด็กหนุ่มผู้นั้นค่อยๆถอย มาอยู่ใกล้อีกสามคนที่กําลังเข้าปะทะกันปราณดาบสีแดงยัง คงเข้าปะทะกับปราณทวนสีขาวดังลั่นเปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยงเสียงเฮเสียงโห่ร้องยังคงดังกระหึมอย่างต่อเนื่องปราณทวนสี
ขาวพุ่งออกมาสกัดกั้นปราณดาบสองเล่ม เปรี้ยง ฉีเจิงกวนพุ่ง เข้าประชิดเด็กหนุ่มผู้นั้น
“ เรามาทําตามแผนที่ตกลงกันไว้เถอะ”
ชายหนุ่มผู้นั้นกําลังจะกล่าวบางอย่าง ฉีเจิงกวนก็เตะเท้าขวาออกไปอย่างรวดเร็วเปรี้ยง ชายหนุ่มผู้นั้นกระเด็นไปทางด้านหลัง จังหวะต่อมาก็พุ่งเข้าหาองค์ชายสีฟาดฟันดาบออกไปปราณดาบสีแดงพุ่งทะยานออกไป องค์ชายสี่ถีบเท้าซ้ายกระโดดหลบออกไปทางขวามือ ช่วงสุดท้ายของการประลองหลายคนจ้องมองการต่อสู้ของทั้งหกอย่างไม่วางตา
อู่ชิงหนานจัดการคนผู้หนึ่งเสร็จก็พุ่งเข้าหาอีกคนแต่ทว่าถูกปราณดาบสีแดงพุ่งเข้ามาปะทะร่างเสียก่อน เปรี้ยง ส่วนชายหนุ่มอีกคนก็ถูกปราณทวนสีขาวจ้วงแทงที่ท้องตกลานประลอง เสียงเฮดังลั่น บนลานประลองหลงเหลือเพียงสามคนองค์ชายสี่แห่งราชสํานักสายลม ฉีเจิงกวนสํานักกิเลนไฟหม่าจือตันสํานักเจ็ดดาว หยางเวยและโจวหมิงเช่นเดิมที่ขึ้นไปประคองอู่ชิงหนานออกมา