มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ – ตอนที่ 20 บอสออคในโรงยิม(2)

เนื้อหาภารกิจเปลี่ยนไปแล้ว ข้อความไม่ได้บอกให้พวกเขาเตรียมรับมือกับการบุกจู่โจมของออคกลุ่มเล็ก

 

-หัวหน้าออคตัดสินใจทำ ‘สงครามเต็มรูปแบบ’ เหล่าออคจะทำการไล่ล่าผู้รอดชีวิตด้วยเป้าหมายกำจัดทิ้ง

 

ดูเหมือนว่าระดับความยากจะเพิ่มขึ้นอีกขั้น

 

เรื่องที่พวกเขาจะออกจากมหาลัยไม่ได้ถ้าหากไม่ฆ่าบอสมอนสเตอร์นั้นไม่เปลี่ยนไป พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับกองทัพออคและฆ่าราชาของมันให้ได้

 

“ไม่มีทางเลี่ยงแล้ว เราต้องฆ่าบอสเพื่อออกจากมหาลัย”

 

แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้ข่าวอันน่าสิ้นหวัง

 

“เฮ้ โอ้ ชั้นเห็นมันตอนที่อยู่ในยิม พวกมันมีอยู่เยอะเลย”

 

ตามที่เขาเห็น จำนวนของออคนั้นมีอยู่ประมาณหนึ่งร้อยตัว

 

แน่นอนว่าพวกเขาฆ่าออคนักล่าไปหลายสิบตัวแล้ว จำนวนพวกมันดูจะลดลงไปบ้าง

 

ถึงอย่างนั้นมันก็ไร้เหตุผลในการต่อสู้เต็มรูปแบบกับออคทุกตัว ต่อให้มีจำนวนนักศึกษาเท่ากับจำนวนออค ชีวิตประจำวันของพวกเขาก็ไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ที่ต่อสู้อย่างสนุกสนาน

 

-‘เอฟเฟคโทษย้อนกลับ’ เกิดขึ้นจากทีมที่ไม่สมบูรณ์

 

[รายการโทษ]

 

1) สมาชิกผู้น่าสงสาร

 

-ประเภท : โทษแท้จริง

 

-เงื่อนไข : มีมากกว่า 10 คนที่ต่ำกว่าเลเวล 5

 

-เอฟเฟคข้างเคียง : ความเร็วการเคลื่อนไหวลดลง  (-30%), พลังโจมตีลดลง (-5%)

 

2) ผู้มาใหม่ไร้ประโยชน์

 

-ประเภท : โทษแท้จริง

 

-เงื่อนไข : มีมากกว่า 10 คนที่ไม่มีบันทึกการฆ่ามอนสเตอร์

 

-เอฟเฟคข้างเคียง : พลังโจมตีลดลง (-10%), ได้รับทองลดลง (-10%)

 

3) หมดกำลังใจ (ขั้นสอง)

 

-ประเภท : โทษแท้จริง

 

-เงื่อนไข : ไม่มีกำลังใจในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง

 

-เอฟเฟคข้างเคียง : โอกาส ‘สภาวะยุ่งเหยิง’ เพิ่มขึ้น (+10%)

 

คนที่เยอะสร้างเอฟเฟคผิดปกติได้ในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ดีเสมอไปที่จะรวมตัวกันเพราะเอฟเฟคข้างเคียง

 

เห็นได้ชัดว่าแค่ถืออาวุธนั้นไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป และมันยังเป็นตัวถ่วงอีกด้วย

 

ซองอูคิดว่าเขาบุ่มบ่ามเกินไปหน่อย เขาอยากจะหาคนร่วมมือด้วย ไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตคน แต่ถ้าหากเขาหาคนที่ช่วยไม่ได้แล้วล่ะก็…

 

“ชั้นจะสู้คนเดียว”

 

“อะไรนะ? ซองอู?”

 

“นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ? พูดอะไรของนาย?”

 

ซองอูตอบคำถามด้วยความหนักแน่น

 

“ชั้นจะสู้กับพวกออคคนเดียว”

 

ไม่ใช่แค่เพื่อนของเขา แต่คนอื่นข้างในรถบัสเองก็ไม่เห็นด้วย

 

“นายพูดว่าไงนะ? ชั้นหูฝาดใช่ไหม?”

 

“ต่อให้นายเป็นนักสู้อัจฉริยะ นายก็ไม่…”

 

“เจ้านั่นบ้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ? นายรู้ไหม? ถ้าเกิดถูกมองว่าเป็นฮีโร่ มันจะเชื่อว่าตัวเองเป็นฮีโร่จริง ๆ”

 

“ให้ตายเถอะ! ชั้นเชื่อใจใครไม่ได้เลย”

 

คนจากสภานักศึกษารวมแดซองและจินซอกเองก็เริ่มล้อเลียนเขา

 

“เจ้าบ้าสติแตก คิดจะขุดหลุมฝังตัวเองซะแล้ว”

 

“จินซอก ไอ้บ้านั่นโชคดีจริง ๆ ชั้นคงรู้สึกดีถ้ามันตาย”

 

“ใช่ พี่พูดถูก ไอ้เวรนั่น ถึงวันสุดท้ายของมันแล้ว”

 

แต่ซองอูไม่ได้เปลี่ยนความคิด

 

“ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ให้ชั้นฆ่าออคแล้วช่วยพวกนายออกจากมหาลัย”

 

จีซูยืนขึ้นดึงแขนเขาเพราะทนไม่ไหวอีกแล้ว

 

“ซองอู พูดอะไรของนายน่ะ? มันไม่ได้มีออคแค่สองสามตัวนะ ต่อให้พวกเราสู้ด้วยกัน มันก็ยังยาก…”

“จีซู จำเรื่องที่เธอพูดที่ชั้นหนึ่งก่อนขึ้นไปล่าบอสที่ดาดฟ้าได้ไหม?”

 

“…อะไรนะ?”

 

“เธอพูดว่าต่อให้เอาคนพวกนี้ไปสู้ก็ไร้ประโยชน์ เธอพูดว่าพวกมันเลวร้ายยิ่งกว่าโครงกระดูกน่ะ”

 

“ชั้นจำได้ แต่…”

 

“เธอเห็นธาตุแท้ของพวกมันแล้ว จีซู เธอน่ะช่วยชั้นได้นะ แต่ครั้งนี้มันอันตรายเกินไปหน่อย ชั้นตัดสินใจเพราะคิดมาดีแล้ว”

 

จากที่จีซูมองซองอู ซองอูนั้นต่อสู้หลังจากคิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน หรือก็คือเขาจะเลือกต่อสู้ในตอนที่เอาชนะได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เจ็บตัวหรือเสียหาย

 

‘แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกัน’

 

จีซูคิดในใจ

 

จีซูคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้ในครั้งนี้เพราะไม่มีใครคิดว่าโครงกระดูกไม่ถึงสิบตัวจะจัดการออคนับร้อยตัวได้ แค่จินตนาการยังเป็นไปไม่ได้เลย

 

แต่ซองอูยืนกรานและทำตามแผนของตัวเอง

 

***

 

ผู้รอดชีวิตหนีไปยังอาคารใกล้เคียง จากนั้นจึงมองดูสนามกีฬาที่ซองอูรอฝูงออคผ่านหน้าต่าง

 

“ไร้สาระสิ้นดี มันจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ ใช่ไหม?”

 

“เขาไม่ได้มีแผนลับหรอกเหรอ?”

 

มีซากศพกระจัดกระจายไปทั่วสนาม ทั้งออค กอบลิน และมนุษย์…เลือดที่นองรอบ ๆ ร่างไร้วิญญาณเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ แต่ผู้รอดชีวิตสนใจเพียงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับซองอูผู้ยืนอยู่กลางสนามราวกับคนบ้า

 

บรืน–

 

รถบัสขับเข้าใกล้สนามกีฬา จีซู ฮันโฮ และคยองซูอยู่ข้างในรถ

 

“เขาบ้าไปแล้ว…”

 

“ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้น เราขับไปรับเขาได้จากตรงนี้”

 

แม้แต่พวกเขาก็คิดว่าซองอูจะคว้าน้ำเหลวในการต่อสู้นี้ ถึงซองอูจะแสดงความสามารถในการต่อสู้อย่างยอดเยี่ยมมาก็ตาม…การต่อสู้นี้มันหนักหนาเกินไปสำหรับเขา

 

ซองอูตัวสั่นด้วยความกลัวเช่นกัน หัวใจเขาเต้นแรง เหงื่อเย็นไหลจากแผ่นหลัง เขากลั้นหายใจมองไปทางโรงยิม

 

“ฟู่ว! ตามแผนแล้วเราต้องชนะ”

 

เขาเห็นฝูงออควิ่งออกมาจากโรงยิม

 

‘พวกมันจะต้องเป็นกำลังหลัก’

 

มันไม่มีการจัดลำดับกองทัพที่จะออกมาก่อนหรือหลังในสงครามเต็มรูปแบบ แต่เขารู้สึกว่าพวกออคนั้นแข็งแกร่งเหมือนกับนักรบกระหายเลือด

 

โฮกก!

 

ออคผมแดงที่อยู่หน้าสุดกู่ร้อง ออคมากกว่าร้อยตัวร้องคำรามเสียงดังจนอาคารเรียนสั่น

 

“เสียงดังชะมัด นั่นมันหัวหน้าออคใช่ไหม?”

 

ถึงมันจะดูเหมือนบอส แต่ก็ไม่มีข้อความบ่งบอกว่าบอสปรากฏตัวโผล่ขึ้นมา

 

ไม่นานออคตัวนั้นก็หันมาเจอซองอู มันยกขวานขึ้นชี้ไปที่เขา ออคทุกตัวจ้องมองเขา

 

“…”

 

ฝูงออคเคลื่อนตัวเข้าหาเขา พวกมันเคลื่อนไหวไม่เร็วนัก แต่ซองอูรู้ว่าถึงระยะหนึ่งแล้วพวกมันจะพุ่งใส่เขาเหมือนฝูงกระทิงแน่นอน

 

“เราต้องไปแล้ว”

 

ซองอูเดินไปขึ้นบันไดบนจุดสูงสุดของอัฒจันทร์

 

“สู้ตรงนี้แหละ”

 

‘เราจะได้เปรียบกว่าถ้าสู้ในที่แคบ’

 

ออคนั้นมีจำนวนมากกว่าปาร์ตี้ซองอูหลายเท่า การต่อสู้ในที่โล่งกว้างนั้นไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะทำให้มันสับสนโดยการล่อไปยังที่แคบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขายืนอยู่กลางสนาม จากนั้นจึงมาที่นี่ทีหลังในตอนที่ออคเจอเขาแล้ว

 

ซองอูปลุกโครงกระดูกกอบลินสองตัวจากซากกอบลินที่อยู่ใกล้ ๆ

 

กลุก กลัก–

 

ตอนนี้เขามีกอบลินเก้าตัวยืนอยู่ด้านหน้า ออคค่อย ๆ เข้าใกล้มากขึ้น พวกมันมองดูท่าทีของซองอู มันไม่มีอะไรน่าสงสัย

 

“สนุกดีนะที่มีพวกแก ต่อให้เป็นเถ้าถ่านไปก็อย่าลืมชั้นล่ะ”

 

ซองอูพูดกับโครงกระดูก

 

ในไม่ช้าออคก็ได้เข้ามาถึงในสนาม พวกมันมาถึงราว 30 ถึง 40 ตัว

 

ซองอูได้เจอกับมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มาพร้อมกับขวานเล่มใหญ่…

 

“ไปตายซะ…”

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง–

 

พวกมันเดินเข้าหาปาร์ตี้ซองอู

 

แต่เขายังมั่นใจในวิธีการที่ตัวเองเลือก เขายังเชื่อว่ามันเป็นไปได้

 

‘ขั้นบันไดมันแคบ พวกมันมีได้ทีละสามตัวเท่านั้น’

 

ในที่สุด เมื่อออคก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกมา ซองอูยกมือขึ้นใช้ ‘ความบ้าคลั่งแห่งความป่าเถื่อน’ จากกำไลข้อมือ

 

-ความบ้าคลั่งแห่งความป่าเถื่อนถูกใช้งาน!

 

* พลังโจมตีของ ‘ประเภท-กอบลิน’ เพิ่มขึ้น (+10%), ความเร็วการโจมตีเพิ่มขึ้น (+20%) เป็นเวลา 10 นาที

 

โครงกระดูกทั้งเก้าตัวตาแดงขึ้นมาพร้อมกัน

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์

มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์

Status: Ongoing
มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งในมหาลัยในขณะที่จู่ ๆ ก็มีข้อความและการ์ดภารกิจโผล่ขึ้นมาในกลางอากาศ ขณะที่ทุกคนกำลังลุกลี้ลุกลนกับเหตุการณ์ประหลาด แสงสว่างทั้งหมดกลับมืดมิดลง ห้องเรียนถูกปกคลุมไปด้วยความมืดสนิท ทุกคนตื่นตระหนกและหวาดกลัวที่จะหยิบการ์ดภารกิจ แต่ไม่ใช่กับซองอู เขารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเราต้องหยิบการ์ดเพื่อเอาชีวิตรอด เขาจึงเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์ ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีภารกิจแนะนำปรากฏขึ้นมา ทั้งมหาลัยได้จมสู่ความยุ่งเหยิง จู่ ๆ ก็มีกอบลินโผล่ขึ้นมาเต็มไปหมดเพื่อฆ่าคน ผู้รอดชีวิตต่างปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วได้ยาก แต่ซองอูได้ฆ่ากอบลินฝูงหนึ่งไปด้วยพลังของสกิลเนโครแมนเซอร์และเริ่มทำภารกิจที่เขาได้มา ซองอูเพิ่มพลังของตัวเองเช่นเดียวกับจำนวนพวกพ้อง เขาถูกรายล้อมไปด้วยพลังแห่งความตายที่ภักดีต่อเขาเช่นเดียวกับพรรคพวกที่เชื่อใจได้ แต่เขาก็ถูกท้าทายโดยคนเลวร้ายมากมายและระบบที่ขู่ว่าจะทำให้มนุษยชาติเสื่อมทรามลง บนโลกที่กำลังพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน เนโครแมนเซอร์คนหนึ่งได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้วยพลังของเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset