ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1478 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (3) / ตอนที่ 1479 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (4)

ตอนที่ 1478 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (3)

 

 

ผลของหญ้าอสรพิษวิญญาณทำให้เร่งการฝึกพลังฌาน

 

 

ตัวอย่างเช่น ถ้าการฝึกพลังจากผู้ฝึกฌานขั้นราชันปราชญ์ระดับต่ำไปเป็นระดับกลาง นางต้องใช้เวลาสามเดือนแต่ถ้ามีหญ้าอสรพิษวิญญาณแค่ครึ่งเดือนก็เพียงพอ! ไม่ใช่แค่นั้น ถ้าสกัดน้ำจากหญ้าอสรพิษวิญญาณก็จะช่วยให้ผ่านช่วงคอขวดแล้วสามารถเลื่อนระดับได้ทันที!

 

 

แน่นอนว่าหญ้าอสรพิษวิญญาณนี้สามารถกินได้เพียงสองเดือนครั้งเท่านั้น แล้วฤทธิ์ยาก็อยู่ได้แค่ครึ่งเดือน! ถ้ากินต่อเนื่องอีกครั้งตรงครึ่งเดือนที่เหลือก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงในทางตรงกันข้าม

 

 

ส่วนน้ำสกัดก็ต้องใช้หญ้าอสรพิษวิญญาณจำนวนมหาศาล ทั้งชีวิตคนคนหนึ่งสามารถดื่มได้เพียงขวดเดียว หากดื่มมากกว่านั้นจะส่งผลให้พัฒนาได้ยากขึ้นในอนาคต

 

 

“นี่เป็นของดี” เสี่ยวโม่เองก็เห็นหญ้าอสรพิษหยกเหมือนกัน

 

 

“แม่นางอวิ๋น” แพทย์คนเดียวภายในกลุ่มเล็กๆ อย่างฉีเซ่ามีความรู้เรื่องสมุนไพรเพียงคร่าวๆ เท่านั้น เมื่อเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงเดินไปเก็บหญ้าอสรพิษหยก เขาก็แปลกใจ

 

 

“นี่คือหญ้าอสรพิษหยก ถึงแม้ว่าจะช่วยเพิ่มพลังฌานแต่ก็เพิ่มได้เพียงเล็กน้อย สำหรับระดับพวกเรา มันไม่ค่อยมีประโยชน์”

 

 

ตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงอ่อนแอ แต่หลังจากเห็นความแข็งแกร่งของอวิ๋นอี้ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกอวิ๋นลั่วเฟิงอีก การที่นางมีผู้คุ้มกันแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วนางจะอ่อนแอได้อย่างไร

 

 

“หญ้าอสรพิษหยกนี่อาจจะไร้ประโยชน์สำหรับพวกเจ้าแต่มันมีประโยชน์มากสำหรับข้า”

 

 

อาจจะเป็นเพราะนางได้หญ้าอสรพิษหยกมาจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เลยตอบคำถามของฉีเซ่าอย่างมีความสุข ดวงตาเขาเป็นประกายสงสัยดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าหญ้าอสรพิษจะมีประโยชน์กับนางอย่างไร

 

 

 

 

ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงคอยเก็บสมุนไพรตามทาง พรรคอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมา พวกเขาแสดงสีหน้าดูไม่ได้เมื่อเดินทางมาถึงไม่ใช่แค่สมบัติถูกเอาไปแม้แต่สมุนไพรสักต้นพวกเขาก็ไม่เจอ! ไม่ต้องเสียเวลาคิดพวกเขาก็รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเก็บทุกอย่างไปหมดแล้ว!

 

 

แต่ว่าทุกคนก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของอวิ๋นอี้และเหยี่ยวนภาดี ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ามีปัญหากับอวิ๋นลั่วเฟิง พวกเขาเดินทางต่อแล้วคอยสาปแช่งนางไปตลอดทางที่เดินตามหลัง

 

 

“สตรีผู้นี้จะเลวร้ายเกินไปแล้ว นางไม่เหลือสมุนไพรสักต้นไว้ให้เรา!”

 

 

“ถ้ายอดฝีมือทั้งหมดของสำนักมา ข้าก็อยากจะรู้นักว่านางจะยังทำตัวโอหังได้แบบนี้หรือไม่!” เมื่อได้ยินคำสาปแช่งซูจวิ้นก็เงียบขรึม แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มเยาะก่อนพูดว่า “น้องรอง เจ้าสังเกตเห็นสมุนไพรที่นางเก็บไปหรือเปล่า”

 

 

“ท่านหมายถึงหญ้าอสรพิษหยกหรือ” ซูลั่วเฉินหรี่ตาแล้วถาม

 

 

“ใช่แล้ว” ซูจวิ้นพยักหน้า “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่แพทย์แต่พวกเราก็อ่านตำราแพทย์มาหลายเล่ม หญ้าอสรพิษหยกไม่มีผลต่อผู้ฝึกฌานระดับพวกเราแต่กลับมีประโยชน์กับนาง!”

 

 

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของซูจวิน “ก็หมายความว่าสตรีผู้นี้อ่อนแอมาก แล้วก็น่าจะอยู่ต่ำกว่าขั้นนภา!”

 

 

“พรูด!” ซูลั่วเฉินพ่นน้ำออกมาจากปากอย่างห้ามไม่ได้ “ท่านพี่ ท่านล้อข้าเล่นหรือ ความแข็งแกร่งของนางอยู่ต่ำกว่าขั้นนภา ไม่ถึงแม้แต่ขั้นเซียนหรือปราชญ์เลยหรือ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1479 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (4)

 

 

ในแผ่นดิที่อวิ๋นลั่วเฟิงเคยอยู่นั้น ผู้ฝึกฌานขั้นนภาถือว่าแข็งแกร่งแล้ว เพราะในแผ่นดินหลงเซียว ผู้ฝึกฌานที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนเท่านั้น

 

 

แต่ว่า…

 

 

ที่นี่คือแคว้นเจ็ดเมืองที่มีอัจฉริยะและยอดฝีมือมากมายอยู่รวมกัน ผู้ฝึกฌานขั้นนภาคือขั้นต่ำสุดที่มี! แม้แต่คนรับใช้ธรรมดาตามพรรคใหญ่ก็เป็นผู้ฝึกฌานขั้นนภาแล้ว!

 

 

“หญ้าอสรพิษหยกมีผลแค่กับผู้ฝึกฌานขั้นนภาหรือต่ำกว่า ต่อให้พวกมันอายุมากก็ยังไม่มีผลกับพวกเรา”

 

 

ซูจวิ้นขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดังนั้นแล้วให้ผู้อาวุโสล่อผู้คุ้มกันคนนั้นออกไป ก็จะเป็นเรื่องง่ายที่พวกเราจะสังหารอวิ๋นลั่วเฟิง”

 

 

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเขาไม่ทำเอง…

 

 

ด้วยความแข็งแกร่งของผู้คุ้มกันคนนั้น การลงมือด้วยตัวเองไม่ใช่การรนหาที่ตายหรอกหรือ งานที่อันตรายแบบนี้ก็ให้ผู้อาวุโสทำไปเถอะ เขาแค่รอจัดการอวิ๋นลั่วเฟิงก็พอ

 

 

“ท่านพี่” ซูลั่วเฉินรู้สึกตื่นเต้น “ท่านอย่าเพิ่งสังหารนางทันทีนะขอรับ ยกนางให้ข้าแล้วข้าจะทำให้นางใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในนรก!”

 

 

ซูจวิ้นส่งเสียงเหอะแล้วแสดงสีหน้าเคร่งเครียด “การให้นางอยู่มิสู้ตายจะใจดีกับนางมากเกินไป ผู้ฝึกฌานขยะขั้นนภากล้ามีเรื่องกับข้างั้นหรือ อย่างน้อยข้าเป็นถึงผู้ฝึกฌานขั้นราชันปราชญ์ แล้วขยะอย่างนางจะมาเทียบกับข้าได้อย่างไร”

 

 

“ท่านพี่” ซูลั่วเฉินนึกอะไรบางอย่างแล้วพูดต่อ “ผู้คุ้มกันข้างกายนางทรงพลังมาก หรือว่านางจะมาจากพรรคใหญ่สักพรรคหนึ่ง”

 

 

“เป็นไปไม่ได้! พรรคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองวิญญาณคือตระกูลจวิน ข้าเคยเจอแม่นางหลิงเอ๋อร์จากตระกูลจวินมาก่อน ดังนั้นต้องไม่ใช่นางแน่ๆ” ซูจวิ้นส่ายหน้า “ยิ่งไปกว่านั้นข้าจะกำจัดทุกคน แล้วตอนนั้นต่อให้นางมีเบื้องหลังที่น่ากลัวขนาดไหน พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าใครทำ”

 

 

แน่นอนว่าที่เขากล้าพูดอย่างนี้ก็เพราะพรรคอื่นๆ ได้มุ่งหน้าไปตามทางแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้นก่อนจะจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“แล้วแม่นางหลินล่ะ” ซูลั่วเฉินถามอย่างลังเล

 

 

ซูจวิ้นทำสีหน้ามั่นใจมาก “เสี่ยวไป๋รักข้า ข้าเชื่อว่านางไม่มีทางหักหลังข้า ตอนนี้นางแค่กำลังโกรธ แต่จะมีสักวันที่นางรู้ว่าคนที่นางรักก็คือข้า” อีกอย่างเขาคิดว่ามีแค่เขาเท่านั้นที่คู่ควรกับเสี่ยวไป๋

 

 

 

 

ที่ใดก็ตามที่อวิ๋นลั่วเฟิงเดินผ่าน แม้แต่สมุนไพรทั่วไปสักต้นก็ไม่เหลือ สำหรับนาง สมุนไพรทุกต้นสามารถยกให้เผ่าหนูได้ แล้วนางก็ไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้อาหารเสียเปล่า

 

 

เพราะฉะนั้นคนที่ตามนางมาไม่มีโอกาสได้เก็บสมุนไพรสักต้นเดียว พวกเขาทุกคนจึงส่งเสียงไม่พอใจ

 

 

“นั่นคือ…ผลไม้วิญญาณ?”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเหม่อมอง แล้วทันใดนั้นนางก็หยุด สายตาของนางจ้องกลีบดอกสีเลือดหมูที่กำลังเปล่งแสงจางๆ บนยอดเขา

 

 

ผลไม้ถูกปกคลุมด้วยกลีบดอกสีเลือดหมูแล้วกลิ่นอายที่ปล่อยออกมาก็ทำให้จิตวิญญาณของทุกคนสั่น

 

 

“เดี๋ยวก่อนนะ…”

 

 

ทันทีที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังจะก้าวเท้าไปข้างหน้า นางก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแล้วเดินถอยหลังออกมา นางถอนสายตาออกจากผลไม้วิญญาณแล้วหันไปหาต้นไม้สีเขียวดั่งหยกที่อยู่ข้างๆ

 

 

เสี่ยวโม่ขมวดคิ้วแล้วพูดกับอวิ๋นลั่วเฟิงผ่านการสื่อสารทางจิต “นี่คือต้นไม้แห่งชีวิตของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์! แต่ทำไมต้นไม้นี้ถึงมาปรากฏที่นี่”

 

 

มีข่าวลือว่าต้นไม้แห่งชีวิตสามารถออกผลไม้แห่งชีวิตได้ แล้วเมื่อกินมันเข้าไปก็จะยืดอายุคนที่กินไปอีกร้อยปี

 

 

ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือผลไม้แห่งชีวิตนี้ต่างจากน้ำสกัดของหญ้าอสรพิษวิญญาณเพราะไม่มีผลเสียจากการกินมันทุกร้อยปี

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

Author:
อวิ๋นลั่วเฟิง นักเรียนแพทย์หัวกะทิได้ย้อนอดีตกลับไปอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่สุดสำรวย สตรีผู้มีชื่อฉาวคาวกระฉ่อนว่าเป็นเพียงสวะของสกุล ซ้ำร้ายยังหน้าหนาไปฉุดหนุ่มรูปงามทั้งที่ตนมีคู่หมั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท เรื่องน่าอับอายนี้เป็นเหตุให้นางโดนถอนหมั้นจนตัดสินใจปลิดชีวิตตนไปด้วยความเจ็บปวด ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉายาคุณหนูสวะนั้นหรือเป็นเพียงคำลวง แพทย์หญิงอัจฉริยะต่างหากที่เป็นของจริง! ไหนจะมี ‘ชายปริศนา’ ที่โผล่มาบอกให้นาง ‘รับผิดชอบ’ เขา ทั้งยังคอยติดตามอยู่ข้างกายไม่ห่างพร้อมประกาศว่า “ใครหน้าไหนที่จะมาทำร้ายสตรีของข้าก็ดาหน้ากันเข้ามา แต่จงจำไว้ว่ามันจะไม่มีวันได้มีชีวิตกลับไป!” เช่นนี้แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงจะรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรดีเล่า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset