ชดใช้หนี้ (1)
หูหลีมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างลังเลแล้วสุดท้ายก็หยิบสมุนไพรแล้วหันไปหาชายชรา “ท่านพ่อ รอสักครู่ข้าจะไปต้มยาให้ท่าน”
จากนั้นเขาก็เดินจากไป
“คุณชายและแม่นางอวิ๋น” ชายชราพูดแล้วทิ้งสายตาไปที่ทั้งคู่ “ถ้าพวกท่านไม่คิดมาก คืนนี้ก็พักที่บ้านข้าเถอะ”
อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้าน้อยๆ สำหรับผู้ฝึกฌานแล้ว แม้ต้องนั่งอยู่นั่งคืนก็ไม่เป็นปัญหา…
…
เช้าวันต่อมา
เสียงดังมาจากนอกห้องผุพังภายในพื้นที่เสื่อมโทรม
ชายหนุ่มตะโกนอย่างโอหัง “หูเหวินอู่ หูหลี เจ้าเตรียมเงินไว้หรือยัง ถ้าเจ้าใช้หนี้ข้าไม่ได้ เจ้ก็าต้องเอาชีวิตมาให้ข้า!”
เอี๊ยด!
ประตูไม้พุพังถูกผลักให้เปิดออกโดยมือมีอายุคู่หนึ่ง แล้วชายชราก็โซเซออกมาโดยมีบุตรชายเขาช่วยพยุง เสียงไม้เท้าเขากระทบพื้นเหมือนค้อนกำลังตีเข้าหัวใจของผู้คน
“หูโย่วอู่ เจ้ารู้ดีว่าตัวเองทำอะไร!” ชายชราจ้องหน้าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเย็นชา เสียงเขาแหบแห้งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
หูโย่วอู่หัวเราะ “ข้าทำอะไรงั้นหรือ เหตุใดข้าไม่เคยรู้มาก่อน แล้วเจ้าล่ะ คนทั้งเมืองลั่วฮวาต่างก็รู้กันว่าคนไข้ตายเพราะการรักษาของเจ้า ชื่อเสียงของเจ้าถูกทำลายแล้ว ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!”
ตอนนั้นหูโย่วอู่ก็ยกมือที่มือกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นซึ่งมีรอยนิ้วมือสีแดงอยู่บนนั้นชัดเจน
“เจ้ายืมเงินข้าไปสิบล้านตำลึง เจ้าจะคืนเงินให้ข้าเมื่อไหร่” รอยยิ้มเสียดสีปรากฏบนใบหน้าเขาเขามองหูเหวินอู่อย่างยั่วโมโห
หูเหวินอู่ตอนที่เจ้าถูกไล่ออกจากตระกูลหู เจ้าก็ควรเก็บไม้เก็บมือออกจากวงการแพทย์และหลบอยู่ในมุมมืดไปทั้งชีวิต แต่เจ้ากลับไม่ยอมทิ้งชื่อเสียงแล้วรักษาคนไข้ต่อ
เจ้ายั่วยุข้าเพราะทำแบบนี้!
ตอนนี้เจ้าก็แค่ต้องทุกข์ทรมานจากการกระทำของตัวเอง แล้วเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตเจ้าก็โทษใครไม่ได้!
ชายชราชี้หน้าน้องชายเขา และร่างชราของเขาก็สั่นอย่างแค้นเคือง หลังจากที่เมื่อวานนี้เขารู้ความจริง พอเขาเห็นใบหน้าไม่อายของหูโย่วอู่เขาก็อยากเดินเข้าไปตบหน้าจริงๆ
หวืด!
ตอนนั้นเองก็มีลมแรงพัดผ่านพวกเขา หูโย่วอู่ไม่ได้จับกระดาษไว้แน่นนัก ทำให้กระดาษปลิวหลุดมือไป หูโย่วอู่ตกใจแล้วรีบกระโดดไปจับใบสัญญากู้ยืม แต่ทันใดนั้นใบสัญญากู้ยืมก็ปลิวไปตกบนมือใหญ่เข้าเสียก่อน
เจ้าของมือคือชายหนุ่มสวมชุดสีดำท่าทางเย็นชา ดวงตาสีนิลของเขาดูลึกลับจนคนยากที่จะรับรู้อารมณ์ในใจเขาได้ ชายหนุ่มจับใบสัญญากู้ยืมแล้วยื่นให้เด็กสาวชุดขาวที่ยืนอยู่ข้างเขา แล้วจากนั้น…
เด็กสาวยกก็มือขึ้ นแล้วใบสัญญากู้ยืมก็ขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เศษกระดาษปลิวว่อนไปทั่ว
นางเลิกคิ้วแล้วจ้องหน้าที่ซีดเผือดของหูโย่วอู่ก่อนพูดอย่างเฉยชาว่า “ในเมื่อเจ้าพูดว่าหูเหวินอู่ติดหนี้เจ้า เจ้าก็ควรเอาใบสัญญากู้ยืมออกมา ถ้าเจ้าไม่มีใบสัญญากู้ยืมแล้วจะมาทวงหนี้คนอื่นได้อย่างไร”
ตอนนั้นทั้งถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมาก็ชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง
ใบสัญญากู้ยืมงั้นหรือ
ไม่ใช่ว่านางเพิ่งฉีกมันทิ้งหรอกหรือ
แล้วนางยังกล้าขอใบสัญญากู้ยืมอีกหรือ
นางหน้าไม่อายขนาดนี้ได้อย่างไร
หูโย่วอู่กัดฟัน “แม่นาง เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรหูเหวินอู่ไม่ได้หากถ้าไม่มีใบสัญญากู้ยืมหรือ ตลกน่า! ข้าแค่เก็บเศษกระดาษกลับมารวมกันใหม่แล้วจากนั้น…”