ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1608 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (4) / ตอนที่ 1609 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (5)

ตอนที่ 1608 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (4)

เขาบอกว่านางจากไป ไม่ใช่ตาย…

แต่ในความคิดของคนอื่น การจากไปกับการตายแตกต่างกันที่ไหน

“ข้าเป็นคนทำให้อีลี่ตาย…” นอกเหนือจากความเจ็บปวด ดวงตาของหูหลีก็ยังฉายแววสงสัยเมื่อมองคนทั้งหลายตรงหน้าเขา “ศพของอีลี่อยู่ที่ไหน ข้าพานางไปกับข้า”

ศพ? อีลี่ไม่ได้ตายแล้วจะมีศพได้อย่างไร

องค์หญิงใหญ่ส่งเสียงขึ้นจมูก “อีลี่โดนลมหายใจของมังกรจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว จะเหลือศพไว้ได้อย่างไร ถ้าเจ้ารู้สึกผิดจริงก็ควรไปที่เผ่ามังกรเพื่อแก้แค้นให้อีลี่!”

เอาชนะเผ่ามังกรงั้นหรือ ตลกน่า!

อย่างไรก็ตามในอนาคตต้องไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองพูดแบบนี้แน่! ยอดฝีมือของเผ่ามังกรไม่มีทางเชื่อคำพูดของหูหลี!

ส่วนเรื่องคนของเผ่าเสือดาว…ไม่มีใครอยากให้อีลี่ไปอยู่กับมนุษย์ ดังนั้นพวกเขาก็เลยช่วยนางโกหก ในเมื่อทุกคนมีส่วนในเรื่องนี้แล้ว พวกเขาจะหักหลังนางได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังเป็นถึงองค์หญิงเผ่าเสือดาว ไม่มีทางที่คนพวกนี้จะกล้าพูดอะไร!

“เดี๋ยวก่อน!” เมื่อเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของหูหลี หวงอิงอิงก็รีบดึงสติเขากลับมาแล้วก้มลงสำรวจความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสวนทันที นางวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “นี่เป็นผลจากลมหายใจมังกรจริงๆ…”

องค์หญิงใหญ่ส่งเสียงขึ้นจมูก “ข้าจะโกหกไปทำไม”

หวงอิงอิงเงยหน้ามององค์หญิงใหญ่ “แต่เรื่องที่องค์หญิงอีลี่ตายด้วยน้ำมือของเผ่ามังกรจริงหรือไม่ยังต้องสืบหาความจริงกันต่อ เอาเป็นว่าเจ้าไปแก้แค้นเผ่ามังกรกับพวกเราดีหรือไม่”

สีหน้าขององค์หญิงใหญ่เปลี่ยนไปทันที “เจ้าหมายถึงอะไร”

เมื่อคนต้องเผชิญกับความโกรธและความโศกเศร้า พวกเขาก็มักจะเชื่อโดยไม่สงสัยอะไร อีลี่ก็เป็นแบบนี้ รวมถึงหูหลีเองเช่นกัน

ในทางกลับกัน หวงอิงอิงที่เป็นแค่ผู้ชมนั้นใจเย็นกว่ามาก!

“เจ้าบอกว่าเผ่ามังกรสังหารอีลี่ อย่างน้อยพวกเราก็ควรจะมีพยานไม่ใช่หรือ ดังนั้นพวกเราจะรบกวนให้เจ้ามากับพวกเราแล้ว” หวงอิงอิงยิ้มเย็น สิ่งที่ต้องเผชิญมาหลายปีทำให้นางไม่ได้ใสซื่อเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นนางก็เข้าใจดีกว่าสตรีใสซื่อไม่สามารถติดตามอวิ๋นลั่วเฟิงได้นาน

“ยะ หยุดนะ” องค์หญิงใหญ่ถอยหลังไปสองสามก้าว แต่หวงอิงอิงจับนางเอาไว้

เมื่อองครักษ์เห็นแบบนั้นก็รีบพุ่งเข้ามาเพื่อช่วยองค์หญิงใหญ่

หวงอิงอิงกวาดสายตาเย็นเยียบมองทุกคนแล้วปลดปล่อยกลิ่นอายของตัวเองช้าๆ “ถ้าใครกล้าก้าวเข้ามา ข้าจะสังหารนาง!”

อย่างที่คิด ไม่มีทหารคนไหนกล้าขยับแม้แต่น้อย

“แน่นอนว่าหลังจากที่เราพิสูจน์ได้แล้วว่าเผ่ามังกรสังหารอีลี่จริง พวกเราก็จะปล่อยนาง” หวงอิงอิงหันหน้าหนี “พวกเราไปกันเถอะ”

นางกระชากคอเสื้อขององค์หญิงใหญ่แล้วลากนางออกจากประตู

“ท่านผู้อาวุโส ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี” ทหารคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงตระหนกและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

“พวกเราจะทำอะไรได้ล่ะ” ผู้อาวุโสของเผ่าเสือดาวดูไม่พอใจมากๆ “ในเมื่อพวกเราช่วยองค์หญิงใหญ่โกหกก็หมายความว่าพวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว อีกอย่างดูเหมือนว่าองค์หญิงใหญ่จะคุ้นเคยกับยอดฝีมือเผ่ามังกรมาก เผ่ามังกรต้องเชื่อนางแน่ เช่นนั้นแล้วพวกเราคงไม่ต้องห่วงมากนัก”

“แต่ว่าองค์ราชายังไม่ได้สติ องค์หญิงรองก็หนีไป องค์หญิงใหญ่ก็ถถูกพาตัวไป เผ่าเสือดาวของพวกเราจะทำอย่างไรดี” …

พรรคไล่ตามวายุ

ภายในเหลาสุรา ทุกคนต่างดื่มและคุยกันอย่างสนุกสนาน

“ข้าไม่คิดเลยว่าการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสัตว์อสูรจะจบลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้! พวกเราไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว ฮ่าๆ”

“ใช่แล้ว นานมากแล้วที่ข้าได้เมาอย่างมีความสุข! หลายปีมานี้พรรคของพวกเราต้องคอยหลบซ่อน ซ้ายทีขวาที แล้วข้าจะกล้าดื่มสุราได้อย่างไร วันนี้ ข้าจะดื่มจนกว่าจะพอใจ!”

…………………………………..

ตอนที่ 1609 ยอดฝีมือเผ่ามังกร (5)

เมื่อเห็นเหล่าพี่น้องที่บุกน้ำลุยไฟมาด้วยกัน ซงมู่ก็อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้

ที่จริงแล้วตั้งแต่ที่พวกเขาจะเข้าร่วมพรรคเพื่อที่หลีกเลี่ยงสายตาของสัตว์อสูรวิญญาณพวกเขาต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ตลอดสองสามปีที่ผ่านมามีแค่ตอนนี้เท่านั้นที่พวกเขาสามารถกินดื่มโดยไม่มีอะไรมาขวางได้แบบนี้! ในอดีตพวกเขาไม่กล้าคิดถึงอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ พวกเขากลัวว่าศัตรูจะเข้ามาโจมตีตอนที่พวกเขาเมาแล้วจะไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้!

ตูม!

จู่ๆ พื้นดินก็สั่นเทือน ทำให้ทุกคนสะดุ้ง จอกเหล้าหกกระจายลงที่พื้น

“เกิด…อะไรขึ้น”

ทุกคนหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ตามหลักหัวหน้าของเผ่าสัตว์อสูรควรถูกเผ่าวิหคเพลิงควบคุมไม่ใช่หรือแล้วใครกันที่กล้ามาสร้างปัญหาที่นี่

“พวกเราออกไปดูกันสักหน่อยเถอะ” ใบหน้าของซงมู่มืดครึ้มแล้วเดินออกจากเหลาสุราช้าๆ

แต่ว่าเมื่อพวกเขาทั้งหมดเดินออกมาก็เห็นมังกรขนาดมหึมาบนท้องฟ้า พวกเขาทรุดตัวลงด้วยความหวาดกลัว

“มังกร! สวรรค์ พวกเราลืมเรื่องเผ่ามังกรไปได้อย่างไร! ในเมืองสัตว์อสูร เผ่ามังกรทัดเทียมกับเผ่าวิหคเพลิง ดังนั้นพวกเขาก็เลยไม่กลัวเผ่าวิหคเพลิง!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าซีดเผือดจากความกลัว ขาของเขาสั่นจนเกือบจะล้ม

แต่ว่าเขาก็บังคับให้ตัวเองยืนตัวตรงและไม่ล้มลงไปต่อหน้ามังกร

ซงมู่ขมวดคิ้วถาม “ท่านยอดฝีมือจากเผ่ามังกร ท่านมาที่พรรคไล่ตามวายุของพวกเราทำไมขอรับ”

มังกรส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงหยิ่งทระนง “เจ้าไม่มีค่าพอจะตั้งคำถามกับข้า!”

น้ำเสียงโอหังของเขาทำให้ชายชาตรีในพรรคไล่ตามวายุโมโหเป็นอย่างมาก

“ท่านซงมู่ พวกเราอย่าเสียเวลาคุยกับมังกรตัวนี้เลย! พวกเราควรลงมือโจมตี!”

ใครก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดี ใครจะสนเรื่องความแตกต่างของพลังของพวกเขากันล่ะ

พวกเขายอมตายดีกว่ามีชีวิตอย่างไร้ศักดิ์ศรี!

“เจ้าประเมินความสามารถตัวเองสูงไปแล้ว!” มังกรส่งเสียงขึ้นจมูก

สำหรับคนปกติการพ่นลมออกทางจมูกก็คงไม่มีอะไร ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นได้…

แต่ว่า…

พรูด!

ชายที่พูดด้วยความโกรธเมื่อครู่กระอักเลือดออกมา เขาโซเซอยู่สองสามครั้งก่อนล้มตึงลงที่พื้น

“ชิงหลิน!” ซงมู่ตะโกนแล้วรีบยกแขนของชายหนุ่มขึ้นแล้วใช้นิ้วสัมผัสชีพจร

“หัวใจของเขาโดนทำลายหมดแล้ว พวกเราช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้ว” ดวงตาของซงมู่แดงก่ำเขายืนขึ้นจากพื้นช้าๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “มนุษย์อย่างพวกเราทำอะไรผิดงั้นหรือ เหตุใดสัตว์อสูรวิญญาณถึงต้องสังหารพวกเราจนหมดด้วย”

เสียงต่ำของมังกรมีร่องรอยความเหยียดหยามเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของซงมู่ “ที่นี่คือเมืองสัตว์อสูร สัตว์อสูรวิญญาณก็เป็นใหญ่ ในเมืองอื่นๆ มนุษย์ก็ปฏิบัติกับสัตว์อสูรวิญญาณไม่ต่างกันไม่ใช่หรือ สัตว์อสูรวิญญาณจะสู้กลับหรือไม่ก็ตาย! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าก็เข้ามาเพื่อทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรไม่ใช่หรือ”

ซงมู่เถียงไม่ออก

ความจริงแล้วมนุษย์ต้องการครอบครองสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง สัตว์อสูรวิญญาณเองก็เหมือนกัน พวกเขาปรารถนาจะเก็บมนุษย์ที่หน้าตาดีเอาไว้ ถ้าพวกเราไม่ยอมพวกเขาก็จะทำร้ายพวกเราจนกว่าจะยอม!

“บนโลกนี้ผู้ที่แข็งแกร่งมีอำนาจเหนือผู้ที่อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรวิญญาณหรือมนุษย์ก็ไม่แตกต่างกัน คนที่แข็งแกร่งมีสิทธิ์จะจับผู้ที่อ่อนแอมาเป็นทาส!” หมอกสีขาวออกมาจากปากของมังกรขณะที่เขาก้มลงมองมุษย์ไร้ค่าที่ไม่ต่างจากมดตามพื้นเบื้องล่างอย่างเผด็จการ

“ตอนนี้เจ้าก็แค่ต้องเอาตัวอวิ๋นลั่วเฟิงออกมา แล้วข้าจะยอมให้พรรคไล่ตามวายุมีคนเหลือรอดบ้าง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset