ตอนที่ 1570 จวินเฟิ่งหลิงและผู้อาวุโสจวิน
“ควรจะเป็นที่นี่นะ” ไม่นานหลังจากที่อวิ๋นลั่วเฟิงจากไป ชายหญิงคู่หนึ่งก็ร่อนลงมาจากฟ้าแล้วจ้องไปที่ภูผาสุสานเทพข้างหน้าโดยไม่ละสายตา
สตรีในชุดสีแดงคนนั้นดูสง่างาม กล้าหาญและน่าเกรงขาม อีกทั้งยังมีใบหน้าคล้ายคลึงกับอวิ๋นเซียว ส่วนชายหนุ่มเองก็ดูอ่อนโยนเหมือนหยก ทว่าดวงตาของเขากลับฉายแวววิตกกังวล ดังนั้นเขาจึงไม่ลืมที่จะปลอบโยนสตรีข้างกายเขา
“จวินเอ๋อร์ ข้ามั่นใจว่าเฟิงเอ๋อร์ปลอดภัยดี พวกเราไปตามหานางกันเถอะ”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น ถ้าข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายลูกสะใภ้ของเรา ข้าจะเผาศพพวกเขาแล้วเอาไปโยนทิ้ง!” ดวงตาเรียวของจวินเฟิ่งหลิงเป็นประกายอันตราย
เยี่ยจิ่งเฉินมองจวินเฟิ่งหลิงแล้วยิ้มบาง
“จวินเอ๋อร์ พวกเราไปกันเถอะ” ตอนที่พวกเขากำลังจะก้าวเท้าเข้าภูผาสุสานเทพ จู่ๆ ก็มีเสียงจากชายชราดังขึ้นจากด้านข้างด้วยความกังวล
“ตอนนั้นข้าน่าจะหยุดเด็กคนนั้นไม่ให้เข้าไปในภูผาสุสานเทพ ข้าอยากรู้ว่านางเผชิญหน้ากับอันตรายอะไร” ผู้อาวุโสจวินยิ้มขมขื่นขณะพูดด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
จวินเฟิ่งหลิงเผลอหันไปมองผู้อาวุโสจวิน ทันทีที่นางได้เห็นใบหน้าสูงวัยของเขา นางก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทำไมแต่ชายอาวุโสผู้นี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและสนิทสนมเหลือเกิน ความรู้สึกนี้ทำให้นางอยากใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา
เยี่ยจิ่งเฉินรับรู้ความคิดของภรรยา เขาตบไหล่นางเบาๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาผู้อาวุโสจวิน เขาประสานมือเคารพแล้วพูดขึ้น “ท่านผู้อาวุโส ท่านมาที่นี่เพื่อหาใครบางคนหรือ”
สายตาของผู้อาวุโสจวินเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่เยี่ยจิ่งเฉินแล้วตอบ “ใช่แล้ว”
“ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าคนที่ท่านกำลังตามหาคือ…”
“หลานสาวของข้า”
หลานสาว? เยี่ยจิ่งเฉินหัวสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่ง ภายในใจรู้สึกผิดหวัง
อวิ๋นลั่วเฟิงเผชิญหน้ากับอันตรายในภูผาสุสานเทพขณะที่ชายชราคนนี้กำลังตามหาใครบางคนอยู่ ทำให้เขาคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังตามหาคนคนเดียวกันอยู่ แต่น่าเสียดายที่ชายผู้นี้กลับกำลังตามหาหลานสาวของตัวเอง ปู่ของเฟิงเอ๋อร์คืออวิ๋นลั่ว แสดงว่าชายชราคนนี้ไม่ได้มาตามหาเฟิงเอ๋อร์แน่นอน
“พี่เยี่ย” จวินเฟิ่งหลิงเดินไปยืนข้างเยี่ยจิ่งเฉินแล้วหันไปหาผู้อาวุโสจวินพร้อมรอยยิ้ม “ผู้อาวุโส หากท่านไม่ถือสา พวกเราเดินทางไปด้วยกันดีหรือไม่”
ถ้าเยี่ยจิ่งเฉินเป็นคนชวนเขา ชายชราต้องปฏิเสธแน่ๆ แต่ว่า…ทันทีที่เขาเห็นสตรีที่เดินเข้ามาหาเขา เขาก็รู้สึกปั่นป่วน ถ้าบุตรสาวเขาอยู่ที่นี่ นางก็คงอายุเท่าสตรีตรงหน้าเขาแล้ว แต่ว่า…บุตรสาวของเขาอยู่ที่แดนลับแล ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะปรากฏตัวที่นี่
“ได้สิ” ปกติชายชราไม่มีทางยอมให้คนแปลกหน้าที่พยายามจะหาทางมาตีสนิทเขาเข้าใกล้แน่นอน แต่เขาไม่สามารถแสดงท่าทีมาดร้ายกับสตรีชุดแดงตรงหน้าเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนลึกของจิตใจเขายังต้องการเข้าใกล้นางอีกด้วย…
“แค่กๆ!”
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสจวินจ้องภรรยาเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมไอ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูไม่ได้ ผู้อาวุโสจวินได้สติก่อนจะแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน สีหน้าเมื่อกี้ของเขาทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเขาเป็นพวกโรคจิต แต่ว่าเขาก็ห้ามตัวเองไม่ให้มองนางไม่ได้
ต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจวินเฟิ่งหลิงและผู้อาวุโสจวินจะเข้าใจว่าสิ่งใดกันที่เรียกว่าพรหมลิขิต …
ตลาดอันแสนอึกทึกคึกโครมในนครหลิ่วเยี่ยมีพ่อค้าตะโกนเรียกลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อวิ๋นลั่วเฟิงสังเกตเห็นร่างคุ้นตาอยู่ไกลๆ ทำให้นางรู้สึกงุนงง
…………………………………..
ตอนที่ 1571 พบหน้าหวงอิงอิงอีกครั้ง (1)
หวงอิงอิง? ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่
และในตอนนั้นเอง นางน่าจะสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมา นางจึงหันมายังทิศทางนั้นทันที แล้วนางก็ต้องตกตะลึงขณะมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาว่างเปล่า
“หวงอิงอิง?” ทันทีอวิ๋นลั่วเฟิงเรียกชื่อนาง นางก็ตัวสั่นก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงร้องตกใจดังออกไป
“แม่นางอวิ๋น…” ในที่สุดก็ได้พบนาง
พริบตาเดียว อาภรณ์สีเหลืองสดใสของหวงอิงอิงก็มาโผล่อยู่ข้างหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง นางจ้องหน้าสตรีชุดขาวโดยไม่ละสายตาแล้วถามทีละคำ “ท่านใช่…แม่นางอวิ๋นจริงๆ หรือ”
ข้าไม่ได้ฝันอยู่ใช่หรือไม่
“หวงอิงอิง เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงของหญิงสาวดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและมั่นคงกว่าเมื่อสามปีที่แล้ว สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือน้ำเสียงร้ายกาจของนาง
“แม่นางอวิ๋น” หวงอิงอิงยิ้ม สีหน้าเย็นชาของนางอ่อนลงเหมือนน้ำแข็งที่ละลายลงด้วยความอบอุ่น
“ตอนที่ข้าได้ยินข่าวว่าท่านยังมีชีวิต ข้าออกมาตามหาท่านที่ตระกูลจวิน แต่ว่าข้ามาช้าเกินไป ท่านออกเดินทางไปแล้ว ดังนั้นข้าก็เลยต้องออกตามหาที่อยู่ท่านอีกครั้ง… ข้าไม่คิดเลยว่าจะมาเจอท่านที่นี่”
พูดตรงๆ อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกอ่อนไหวกับหวงอิงอิงมากนัก ตอนนั้นนางช่วยหวงอิงอิงก็เพราะพวกนางมีศัตรูคนเดียวกัน ไม่ใช่เพื่อตัวหวงอิงอิง แต่สำหรับหวงอิงอิง การหายไปตัวสามปีของอวิ๋นลั่วเฟิงกลับไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนางเลย เด็กสาวที่แต่เดิมหัวใจบอบบางแปรเปลี่ยนไปเป็นเฉยชาและเย็นเยียบ เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงเห็นรอยยิ้มที่สดใสของหวงอิงอิง นางก็หวั่นไหว การช่วยเหลือโดยไม่ตั้งใจของนางทำให้นางได้รับคนที่ปฏิบัติกับนางอย่างจริงใจ
“แม่นางอิงอิง”
ทันใดนั้นก็มีเสียงวิตกกังวลดังขึ้นจากด้านหลังของหวงอิงอิง ทำให้ร่างของนางชะงักค้างไป และเมื่อนางเงยหน้ามอง นางก็เห็นนายน้อยตระกูลใหญ่ปรากฏข้างตัวหวงอิงอิงด้วยสีหน้ามีความสุข “ข้าคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แต่เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย”
เมื่อเห็นว่าคุณชายคนนี้ตั้งใจจะดึงแขนนาง นางก็ขมวดคิ้วแล้วเบี่ยงตัวออกจากมือของเขาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นายน้อยหลิงซวง ได้โปรดทำตัวมีมารยาทด้วย”
ร่างของเขาชะงักไป ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ “อิงอิง ผ่านไปแค่สามปี เหตุใดเจ้าถึงเปลี่ยนไป”
หวงอิงอิงหัวเราะเยาะแล้วมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม “สามปีที่แล้ว บิดาของท่านมาพบข้าด้วยตัวเองเพื่อเตือนไม่ให้ข้าเข้าใกล้ท่าน ตอนนี้…ข้าควรเป็นคนที่ต้องถามเจ้า!”
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา ดูเหมือนว่าเมื่อสามปีที่แล้วหลังจากที่หวงอิงอิงออกจากเผ่าผู้ใช้เวทไป นางไม่ได้ติดตามหงหลวนแต่…มีเรื่องบางอย่างกับนายน้อยของเมืองอุดรใช่หรือไม่ ถ้าข้าเดาไม่ผิดชายที่ชื่อหลิงซวงคนนี้น่าจะเป็นน้องชายของอดีตคู่หมั้นของหงหลวน…
หลิงซวงกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าทรมาน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสตรีที่งดงามเช่นนางจึงกลายเป็นคนเย็นชา
“แม่นางอวิ๋น” หวงอิงอิงไม่สนใจหลิงซวงแล้วหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนยิ้มให้
อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่ต้องสนใจเขา พวกเราไปกันเถอะ หลังจากนี้ค่อยเล่าให้ข้าฟังว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับจวนเจ้าเมืองอุดร…”
หวงอิงอิงชะงัก เหมือนว่านางจะนึกได้ถึงความทรงจำบางอย่างที่นางไม่อยากจำ ทำให้นางดูทรมาน “ตกลง”