ตอนที่ 1670 เยี่ยฉีถูกลักพาตัว (3)
นางไม่มีทางยอมให้ใครก็ตามมาทำให้จวินเฟิ่งหลิงเสียใจ
“พวกเจ้ารออยู่ที่ตระกูลเยี่ย อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้และข้าจะเดินทางไปเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เอง!” สีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง
แต่ว่า…สามารถเห็นพายุโหมกระหน่ำอยู่ในนัยน์ตาของนางซึ่งดูน่ากลัวมาก
“ข้าจะไม่มีทางลืมว่าใครกล้าแตะต้องตระกูลเยี่ย!”
หวืด!
พูดจบอวิ๋นลั่วเฟิงก็เปลี่ยนลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
อวิ๋นรั่วสุ่ยเกือบจะร้องไห้ “ท่านพี่เสีย ท่านพี่จวิน ญาติผู้พี่ของข้าจะปลอดภัยหรือไม่”
“ไม่เป็นไร” เยี่ยจวินส่ายหน้าแล้วกำหมัดแน่น “ท่านปู่เคยบอกว่าพี่สะใภ้แข็งแกร่งมาก ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้! ดังนั้นพวกเราต้องเชื่อฟังนางและไม่เผลอพูดเรื่องนี้ให้คนอื่นๆ กังวล” …
ในเมื่อคนจากเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาที่แดนลับแล ปกติแล้วพวกเขาต้องมีทางเชื่อมมิติของตัวเองดังนั้นตอนนี้อวิ๋นลั่วเฟิงต้องไล่ตามพวกเขาหลังจากที่พวกเขาจากไปแล้ว
ถ้านางต้องการไปช่วยเยี่ยฉีมีแค่ทางเดียวก็คือต้องเดินทางไปเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง
“นายหญิง” เสี่ยวโม่ปรากฏตัวกลางอากาศข้างๆ อวิ๋นลั่วเฟิง
เมื่อวานนี้เขาพึ่งไปจัดการเรื่องของตระกูลชวีกับเยี่ยเสียเสร็จและพึ่งกลับมาที่ตระกูลเยี่ยแต่ใครจะคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น
“ข้าสัมผัสได้ว่าเสี่ยวไป๋ตื่นแล้ว เหตุใดพวกเราถึงไม่รอให้นางได้สติกลับมาก่อนจะมุ่งหน้าไปที่เผ่าขอรับ” ใบหน้าของเสี่ยวโม่เต็มไปด้วยความกังวล “ยิ่งไปกว่านั้นเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังทรงพลังมากและเรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของแคว้นเจ็ดเมือง”
ในแคว้นเจ็ดเมืองไม่มีอาณาเขตที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ดูแลไม่ใช่เพราะพวกเขาแข็งแกร่งไม่พอ กลับกัน…เป็นเพราะว่าพวกเขาแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก
พวกเขารังเกียจที่จะเป็นเจ้าเมืองของแคว้นเจ้าเมืองและเสียเวลาคอยดูแลจัดการแคว้น พวกเขาสนใแต่การใช้เวลาไปกับการฝึกมากกว่า
“ข้ารอไม่ได้” อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “แต่ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่เผ่า ข้ามีบางอย่างต้องทำเสียก่อน…”
นางมีความตั้งใจอย่างอื่นในการกลับมาที่แดนลับแลก็คือการพาพรรคที่เติบโตมากับนางไปที่แคว้นเจ็ดเมืองซึ่งก็คือเหล่าทัพเหล็กกล้าและเหล่าทัพเพลิงพิโรธ
โชคไม่ดีที่ก่อนหน้านี้ตอนที่นางไปที่นครอนันต์สมาชิกทุกคนกำลังฝึกอยู่ข้างนอกดังนั้นนางก็เลยไม่ได้พบพวกเขาแต่ว่านางให้เก๋อหยางส่งสัญญาณไปให้เหล่าทัพเหล็กกล้าและเหล่าทัพเพลิงพิโรธแล้วว่าให้พวกเขารีบกลับมาที่นครอนันต์ ตอนนี้เหล่าทัพก็รอการไปถึงของนางอยู่แล้ว
“คุณหนู!”
“นายหญิง!”
ทันใดนั้นชิงเหยียนและเยี่ยหลิงก็เห็นอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาเขาก็เป็นประกายปลื้มปิติขณะที่รีบวิ่งเข้ามาแล้วมองนางอย่างตื้นตัน
“คุณหนู ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว”
หลังจากที่แยกจากกันมาห้าปี ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกันอีกครั้ง…
“การกลับมาครั้งที่ ข้าจะพาพวกเจ้าไปกับข้าด้วยแต่ว่าข้าไม่มีเวลามาอธิบาย พวกเจ้าเข้าไปอยู่ในมิติลวงตามิติลวงตาก่อนและรอข้าอยู่ที่นั่น”
หลังจากพูดจบอวิ๋นลั่วเฟิงใช้ความคิดก็พาทุกคนตรงหน้านางเข้าไปในมิติลวงตา ไม่นานร่างของนางก็เปลี่ยนเป็นลำแสงแล้วหายไปทันที นางรีบมากจนไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ตั้งคำถาม …
ณ เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ในแคว้นเจ็ดเมือง
ทันทีที่ประตูคุกถูกเปิดออก เยี่ยฉีก็ถูกโยนเข้าไปอย่างรุนแรง นางลูบแขนที่ปวดของนางและยืนขึ้นจากพื้นเย็นเยียบ
“พวกเจ้าเป็นใคร ทำไมถึงต้องลักพาตัวข้า” ร่างของเยี่ยฉีสั่นขณะที่ริมฝีปากของนางซีดเซียว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว
…………………………………..
ตอนที่ 1671 เยี่ยฉีถูกลักพาตัว (4)
“พวกข้าจับเจ้ามาทำไมงั้นหรือ” เสียงเย็นชาดังขึ้นจากด้านนอกคุก เสียงนั้นเย็นเยียบจนทำให้ร่างเยี่ยฉีสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
นางรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านน้ำแข็งทันทีจนนางรู้สึกเย็นเยียบจนถึงกระดูก
“เรื่องนี้เจ้าต้องโทษอวิ๋นลั่วเฟิง” พูดจบ ชายหญิงคู่นั่นก็เดินออกไป
“ท่านฉินเสวี่ยขอรับ ข้าส่งคนไปตรวจสอบแล้วว่าสตรีผู้นี้เป็นน้องสาวของสามีของอวิ๋นลั่วเฟิงและพอพวกเราจับนางมาแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงต้องปรากฏตัวแน่ขอรับ” ชายหนุ่มยิ้มและใช้ดวงตาเหยียดหยามกวาดตามองใบหน้าซีดเผือดของเยี่ยฉีก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ
ฉินเสวี่ยเป็นคนที่ร่วมมือกับเมืองอุดรเพราะตั้งใจจะจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง นางเป็นพี่สาวของฉินเย่ว์ที่ตายด้วยน้ำมือของอวิ๋นลั่วเฟิงในวันนั้นที่สำนักเสวียนชิง
ฉินเสวี่ยเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยท่าทางโอหังว่า “ซูจวิ้น หลังจากที่ข้าจับตัวอวิ๋นลั่วเฟิงได้แล้ว ข้าจะให้เจ้าได้มีโอกาสทรมานนางด้วยตัวเอง”
ซูจวิ้นเป็นนายน้อยของสำนักเสวียนชิง ในปีนั้นซูจวิ้นล้มเหลวในการทำให้เสี่ยวไป๋หลงรัก เขาฟ้องเรื่องอวิ๋นลั่วเฟิงกับเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะทำให้ยอดฝีมือของพวกเขาเชื่อว่าอวิ๋นลั่วเฟิงลักพาตัวเสี่ยวไป๋ไป พวกเขาจะได้ส่งคนไปสังหารนาง
แต่ไม่คาดคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้แค่ทำลายสำนักเสวียนชิงแต่นางยังสังหารฉินเย่ว์ด้วย
ตอนแรกซูจวิ้นคิดว่าตัวเองต้องตายแน่แต่เขากลับถูกฉินเย่ว์ใช้วิชาลึกลับส่งให้เขาหนีออกมา เขาจึงยังมีชีวิตอยู่…
อวิ๋นลั่วเฟิง? เยี่ยฉีอ้าปากด้วยความตะลึง คนพวกนี้จับนางเพราะต้องการจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิงงั้นหรือ
“ท่านฉินเสวี่ย ตอนที่ข้าส่งคนออกไปสืบเรื่องครอบครัวของอวิ๋นลั่วเฟิง ข้าก็พบว่าสตรีคนนี้ชื่อเยี่ยฉีซึ่งดูเหมือนว่าในอดีตนางจะเคยขัดแย้งกับอวิ๋นลั่วเฟิงขอรับ”
หลังจากที่ฉินเสวี่ยได้ยินคำพูดของเขา นางก็ขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจะมาช่วยนางหรือ”
“ท่านฉินเสวี่ย ท่านไม่ต้องเป็นห่วงอวิ๋นลั่วเฟิงต้องมาแน่ขอรับ”
สตรีผู้นี้ให้ความสำคัญกับครอบครัวของนางและตระกูลเยี่ยมาก นางต้องมาช่วยเยี่ยฉีแน่นอน
“แต่ว่าข้ามีความคิดที่ดีกว่านั้น” ซูจวิ้นยิ้มเยาะและส่งสายตาไปที่เยี่ยฉีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เยี่ยฉี ข้าจะโอกาสเจ้า ถ้าเจ้ายอมช่วยเหลือพวกเราจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าจะได้รับเกียรติมหาศาล ความรุ่งโรจน์และทรัพย์สินรวมถึงสถานะในอนาคต”
เยี่ยฉีส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วหันหน้าหนี ไม่คิดจะมองหน้าซูจวิ้นแม้แต่นิดเดียว
ซูจวิ้นไม่ได้โกรธและยังคงให้ข้อเสนอนาง “เยี่ยฉี เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านฉินเสวี่ยเป็นใคร ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งหมดของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังปิดด่านฝึกพลังฌาน นางจึงมีตำแหน่งสูงที่สุดในเผ่า ถ้าเจ้าอาศัยพวกเรา เจ้าก็สามารถเดินอยู่ในแคว้นเจ็ดเมืองได้อย่างสบายใจ”
“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหลายปีก่อนเจ้าก็เสียหน้าเพราะอวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าเกลียดนางแม้แต่นิดเดียวหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิง! คนของเจ้าขโมยหัวใจของเสี่ยวไป๋และเจ้ายังทำลายสำนักเซวียนชิงอีก แค่เจ้าตายก็สบายเกินไป ข้าต้องการให้เจ้าทนทุกข์ทรมานจากการถูกครอบครัวทรยศหักหลัง!
“ไสหัวไป!” เยี่ยฉีชี้หน้าซูจวิ้นอย่างเดือดดาล “ให้ข้าพึ่งพาเจ้าน่ะหรือ ฝันไปเถอะ! ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ ก็สังหารข้าเสียตอนนี้ ถ้าไม่ ก็หยุดพล่ามอะไรไร้สาระไม่หยุดเสียที!”
นัยน์ตาของซูจวิ้นเข้มขึ้น “ท่านฉินเสวี่ย ในเมื่อสตรีผู้นี้ต้องการทางที่ยากลำบาก พวกเราก็ควรจะสั่งสอนนางเสียหน่อย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ฉินเสวี่ยก็ไม่ได้ทำอะไร นางมองเยี่ยฉีอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เยี่ยฉี ที่ซูจวิ้นพูดก็ไม่ได้ไร้เหตุผล ถ้าเจ้ายอมพึ่งพาพวกเรา ข้าก็จะให้หนทางมีชีวิตรอดกับเจ้า ไม่อย่างนั้น…วันต่อๆ ไปเจ้าจะต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตอยู่ในนรก!”