ตอนที่ 1692 ไป๋ซู่ (5)
“จิ่วอวี้ เจ้ามาทำอะไรที่นี่” ร่างของจิ่นอวี้ชะงัก ตั้งแต่ตอนที่ไป๋ซู่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง นางก็ใช้ร่างกายตัวเองรักษาอาการบาดเจ็บของเขาก่อนเขาจะหนีไปแต่ว่านางจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไรเมื่อนายท่านของตัวเองอยู่คนเดียวดังนั้นนางจึงแอบตามเขามาโดยที่ไม่ให้เขารู้ตัว
“นายท่าน ข้ามาเพื่อช่วยท่านเจ้าค่ะ”
“ช่วยข้างั้นหรือ” ไป๋ซู่หัวเราะอย่างไม่พอใจ “มีลั่วเอ๋อร์อยู่ข้างๆ เหตุใดข้าต้องให้เจ้ามาช่วย”
จิ่วอวี้เริ่มวิตกกังวล “นายท่าน สตรีคนนั้นไม่ใช่อวิ๋นลั่วเฟิง! ท่านถูกนางหลอกแล้ว!”
ใบหน้าหน้ามืดครึ้ม “ข้าจะแยกจะไม่ออกได้อย่างไรว่านางเป็นลั่วเอ๋อร์หรือไม่ จิ่วอวี้ ข้ารู้ว่าเขาอยากเป็นนางบำเรอของข้าแต่ไม่ใช่ว่าเจ้าสมหวังไปแล้วหรือ ดังนั้นเจ้ากำลังใส่ร้ายลั่วเอ๋อร์! ถ้าเจ้ายังไม่ไปตอนนี้ก็อย่ามาว่าข้าใจร้าย!”
“นายท่าน ท่านเปลี่ยนไป…” จิ่วอวี้กัดปากและพูดว่า “แต่ว่าข้าน้อยจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ตราประทับที่ลั่วเอ๋อร์ทิ้งไว้ในความคิดของไป๋ซู่ไม่ได้แค่เปลี่ยนความทรงจำของเขาแต่ยังเปลี่ยนนิสัยของเขาไปด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนต่อให้ไป๋ซู่ตั้งใจจะไล่จิ่วอวี้ เขาก็ไม่มีทางใช้คำพูดอวดดีอย่างนี้
ตูม!
ทันใดนั้นประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกและลั่วเอ๋อร์ก็มาปรากฏตัวที่หน้าห้องด้วยใบหน้าโศกเศร้า
“ไป๋ซู่ เจ้าแอบมีผู้หญิงคนอื่นงั้นหรือ!”
ไป๋ซู่ตื่นตระหนกและรีบปีนลงจากเตียงขณะที่ดึงมือลั่วเอ๋อร์ด้วยความกังวล
“ลั่วเอ๋อร์ ฟังข้านะ พวกเราไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น เจ้าต้องเชื่อข้านะ!”
ลั่วเอ๋อร์กำหมัดแน่น นางรู้จากความทรงจำของไป๋ซู่ว่าจิ่นอวี้ฉวยโอกาสมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขา อีกอย่างเหตุการณ์นั้นก็คล้ายกับภาพถ่ายที่แสดงให้นางดูจนนางรู้สึกเหมือนโดนเข็มแหลมๆ ทิ่มเข้าที่หัวใจ
“ไป๋ซู่ เจ้ายังจะโกหกข้าอีกหรือ”
น้ำตาไหลอาบใบหน้าของนาง “ก่อนหน้านี้ สตรีผู้นี้มาตามหาเจ้า แล้วบอกข้าว่านางเป็นภรรยาของเจ้าและเจ้าทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว นางต้องการให้ข้าออกไปแต่ข้าไม่ยอมดังนั้นนางก็เลยมาหาเจ้าแล้วใส่ร้ายว่าข้าไม่ใช่อวิ๋นลั่วเฟิง!”
แน่นอนว่านางไม่ได้บอกไป๋ซู่ว่านางรู้ทุกอย่างมาจากความทรงจำของเขาดังนั้นนางยิ่งใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อใส่ร้ายจิ่นอวี้
“นายท่าน ข้าน้อยไม่ได้…” จิ่นอวี้ส่ายหน้า “ข้ารับใช้ของท่านติดตามท่านมาหลายปีและข้าน้อยก็ไม่เคยขัดคำสั่งท่าน แล้วข้าน้อยจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร เป็นนาง…นางเป็นคนใส่ร้าย…”
เพี้ยะ!
ไป๋ซู่ใช้มือตบหน้าจิ่นอวี้ทำให้นางตะลึง นางกุมใบหน้าที่บวมของนางแล้วเงยหน้ามองไป๋ซู่อย่างไม่เชื่อสายตา
นายท่านของนาง..ไม่เชื่อนางงั้นหรือ
ลั่วเอ๋อร์มองจิ่นอวี้อย่างพอใจแล้วเดินเข้าไปหาไป๋ซู่ช้าๆ แล้วดึงคอของเขาเข้ามาก่อนจะยื่นริมฝีปากนุ่มและหอมของนางไปหาเขา ไป๋ซู่ไม่ได้ต่อต้านกลับกันเขาตอบสนองอย่างกระตือรือร้น…
หัวใจของจิ่นอวี้บีบรัดแน่นด้วยความเจ็บปวดและทรมานภายในดวงตางามของนาง นางเตรียมใจไว้แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วนายท่านของนางจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสตรีอื่นแต่เมื่อต้องมาเห็นภาพต่อหน้าต่อตา นางก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี
“ลั่วเอ๋อร์ ข้ามีความสัมพันธ์ทางกายกับนางจริงๆ แต่ว่าตอนนั้นข้าไม่มีสติ แต่เมื่อข้ามีเจ้าอยู่ข้างแล้ว ข้าก็จะไม่แตะต้องสตรีคนอื่นอีก”
“ท่านพี่ซู่ ข้าเชื่อท่านและข้าก็เชื่อว่านางพูดแบบนั้นเพราะว่านางรักท่านมากแต่ว่าข้าเป็นคนจิตใจดี ข้าไม่สามารถทนลงโทษนางได้ดังนั้นเหตุใดพวกเราไม่ปล่อยนางออกไป”
ลั่วเอ๋อร์ออกจากอ้อมกอดของไป๋ซู่และยิ้มขณะพูดอย่างน่ารัก
ไป๋ซู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้า “ตกลง”
พูดตามตรง เขาไม่อยากสังหารจิ่นอวี้เลยจริงๆ
…………………………………..
ตอนที่ 1693 ไป๋ซู่ (6)
ถึงอย่างไร…ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะเผชิญอันตรายมากแค่ไหน จิ่นอวี้ก็ไม่เคยออกห่างจากข้างกายเขา ตอนนี้ลั่วเอ๋อร์พูดด้วยตัวเองแล้วเขาจะไม่พอใจได้อย่างไร
“ท่านพี่ซู่ ปล่อยให้ข้าพานางออกไปเถอะ เผื่อว่านางจะแอบมองท่านอย่างเสน่หาอีก” ลั่วเอ๋อร์ยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ตามใจเจ้าเถอะ” ไป๋ซู่ยิ้มและลูบศีรษะนางขณะที่ดวงตาดุร้ายของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลั่วเอ๋อร์ก็เดินเข้าไปหาจิ่นอวี้แล้วส่งสายตาให้นาง “ตามข้ามา”
จิ่นอวี้สะดุ้งและมองไป๋ซู่ ทันทีที่นางเห็นสายตารังเกียจของเขา หัวใจของนางก็บีบรัด นางมองไป๋ซู่อย่างเสียใจก่อนจะหันหลังเดินออกมาพร้อมลั่วเอ๋อร์
…
ภายในพระราชวังที่เงียบสงัด ลั่วเอ๋อร์หยุดฝีเท้าแล้วความอ่อนโยนที่นางแสดงต่อหน้าไป๋ซู่ก็หายไป ก่อนใบหน้าของนางจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“ไปซู่มีศัตรูชื่ออวิ๋นเซียวใช่หรือไม่”
จิ่วอวี้กัดปาก “ใช่แล้ว”
“ล่อผู้ชายคนนั้นมาให้ข้า” ลั่วเอ๋อร์เชิดหน้า “ข้าสนใจบุรุษผู้นั้นเหมือนกัน”
สีหน้าของจิ่นอวี้เปลี่ยนไปทันที “เจ้าวางแผนจะทำอะไร เจ้ามีแค่นายท่านของข้าก็ยังไม่พอหรือ”
ลั่วเอ๋อร์ลูบคางเบาๆ และเลียปลายเล็บสีแดงสดของนางด้วยท่าทางยั่วยวน
“ข้าเบื่อพระราชวังนี้มากและต้องการผู้ชายสองสามคนมาอยู่เป็นเพื่อน”
ถ้าไม่ใช่เพราะนางไม่สามารถออกไปจากภูผาสุสานเทพได้ล่ะก็ นางก็คงไม่ต้องใช้วิธีนี้ในการแก้เบื่อหรอก
“นายท่านของข้าจะยอมรับการกระทำของเจ้าหรือ
“คิกๆ ” ลั่วเอ๋อร์ยิ้มเยาะ “นายท่านของเจ้ารักข้าอย่างลึกซึ้งแล้วต่อให้เขาต้องทรมานเพราะข้ามีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้ชายอื่น เขาก็ไม่มีทางทิ้งข้าหรอกนะ”
จิ่นอวี้กำหมัดแน่นและความโกรธภายในใจนางก็ระเบิดออกมา “ร่าน! ” นางกัดฟันพูด
สีหน้าของลั่วเอ๋อร์เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ และนางก็ปล่อยพลังไปโจมตีที่หน้าอกของจิ่นอวี้จนเกิดเสียงดัง จากนั้นนางก็กระเด็นออกไปทันที
จิ่นอวี้กระอักเลือดขณะที่จ้องหน้าลั่วเอ๋อร์อย่างแค้นเคือง
“ถ้าเจ้าช่วยข้า ข้าจะยอมให้เจ้าอยู่ในพระราชวังในฐานะสาวใช้ ไม่อย่างนั้นนอกจากข้าจะไล่เจ้าแล้ว ข้าจะทรมานไป๋ซู่ด้วย เจ้าควรจะคิดให้ดีๆ “
เมื่อจิ่วอวี้ได้ยินคำพูดของนาง นางก็ยิ้มเยาะแล้วยืนขึ้น “จักรพรรดิปีศาจรักอวิ๋นลั่วเฟิงลึกซึ้งมาก และข้าเกรงว่าเป็นไม่ได้ที่เจ้าจะเข้าไปแทรก”
ได้ยินอย่างนั้นลั่วเอ๋อร์ก็ส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเหยียดหยาม
“ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ดีว่าข้าทำให้นายท่านของเจ้าตกหลุมรักข้าได้อย่างไรและข้าก็จะใช้วิธีเดียวกันกับอวิ๋นเซียว ตราบใดที่เขาดูแลข้าเหมือนอวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักข้าจนหมดหัวใจหรอกหรือ” ลั่วเอ๋อร์เดินเข้าไปหาจิ่นอวี้ช้าๆ “ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าจะต้องสังหารอวิ๋นลั่วเฟิงให้ข้าด้วย! ในโลกนี้มีอวิ๋นลั่วเฟิงคนเดียวก็เพียงพอ”
ลั่วเอ๋อร์ไม่ได้บอกนางว่ายังมีวิธีกำจัดตราที่นางประทับไว้ในความคิดของไป๋ซู่…ซึ่งวิธีนั่นก็คือนางต้องไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พบกับอวิ๋นลั่วเฟิงตัวจริง! ไม่อย่างนั้นตราประทับก็จะถูกลบล้างและเขาก็จะกลับมาจำได้ทุกอย่าง! ดังนั้นนางจึงไม่มีทางปล่อยให้อวิ๋นลั่วเฟิงมีชีวิต!
จิ่นอวี้เงียบ นางไม่สามารถทิ้งไป๋ซู่ได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะยอมทนดูสตรีผู้นี้ทำให้ไป๋ซู่อับอาย ที่สำคัญนางเชื่อว่าการทำแบบนี้จะทำให้นางสามารถทำสิ่งที่นางตั้งใจไว้ได้
ถ้าเป็นนายท่านแบบเมื่อก่อน เขาจะต้องเอาคืนลั่วเอ๋อร์เป็นสิบเท่าถ้านางที่กล้าทำร้ายเขาแม้แต่นิดเดียว! แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นนายท่านคนก่อนของนางแล้ว
นางกลัวว่าต่อให้ลั่วเอ่อร์สังหารเขา เขาก็คงไม่โกรธนาง
“ถ้าข้าช่วยเจ้า เจ้าจะปฏิบัติกับนายท่านอย่างดีใช่หรือไม่” จิ่นอวี้กัดริมฝีปากและถาม