ตอนที่ 1708 ฉินลั่วพ่ายแพ้ (2)
ภายใต้การนำของไหน่ฉาและราชินีหนู หนูหาทองตัวอื่นๆ ก็สามารถสร้างความลำบากให้ฉินลั่วได้ แต่ว่าหนูหาทองไม่ได้แข็งแกร่งมากดังนั้นพวกเขาจึงสร้างความเสียหายไม่ได้มากและทำได้แค่ถ่วงเวลานางไว้ชั่วคราว
กองทัพโครงกระดูกก็ยังไม่พ่ายแพ้เพราะฉินลั่วทุ่มเทเวลากับพวกมันไปหลายปีดังนั้นพวกมันจึงแข็งแกร่งมาก ถึงแม้ว่าพวกมันจะอยู่แค่ขั้นจักรพรรดิปราชญ์แต่ก็สร้างปัญหาให้ฉินลั่วได้ไม่น้อยเพราะความเป็นอมตะของพวกมัน
แน่นอนว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดคือเสี่ยวซู่
ตั้งแต่ที่เขาได้รับความทรงจำกลับมา ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากแต่กว่าเขาจะได้พลังทั้งหมดของเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาทำได้แค่ค่อยๆ เพิ่มความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ว่าเถาวัลย์เหล่านี้ขยับเหมือนมีชีวิตและไม่ใช่แค่สามารถโจมตีได้แต่ยังหลบการโจมตีของฉินลั่วได้ด้วยดังนั้นฉินลั่วจึงเสียสมาธิอย่างหนักและถูกอวิ๋นเซียวโจมตี
แต่ว่าฉินลั่วก็ไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว การโจมตีนี้ก็ทำอะไรนางมากไม่ได้
ฉินลั่วกัดฟันด้วยความโกรธ ถ้าตระกูลฉินไม่ได้จำกัดอิสรภาพของนางและผนึกความแข็งแกร่งของนางเอาไว้ นางก็คงไม่ต้องทำได้แค่ป้องกันอยู่แบบนี้ ถ้านางมีพลังดั้งเดิมของนาง นางก็สามารถสังหารคนพวกนี้ได้ด้วยพริบตาเดียว…
ขณะที่คิดอย่างนั้น ฉินลั่วก็กะพริบตาและหันไปมองใบหน้าของอวิ่นลั่วเฟิง
คนที่ทำให้นางเป็นแบบนี้ก็คือสตรีผู้นี้! นางปล่อยทุกคนไปได้ยกเว้นนาง! นางต้องตาย!
“ไสหัวไปให้หมด!”
ฉินลั่วปัดการโจมตีของหั่วหั่วและพุ่งเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงแต่ก่อนที่นางจะไปถึงตัวอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็ถูกอวิ๋นเซียวหยุดไว้อีกครั้ง…
บุรุษตรงหน้านางเย็นชาเหมือนเทพสังหารจนทำให้นางตัวสั่น หัวใจของฉินลั่วก็สั่นแต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้
“จักรพรรดิปีศาจ! เจ้าอย่าต่อต้านข้าดีกว่าไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าทำตัวหยาบคาย…”
แม้แต่ตอนนี้นางก็ยังพยายามยั่วยวนเขาและก็ไม่ได้รู้สึกผิดแปลกอะไร ในสายตาของคนบางคน สตรีเป็นเครื่องประดับของบุรุษในขณะที่ในสายตานางบุรุษก็เป็นแค่ของเล่นของสตรีเท่านั้น!
อวิ๋นเซียวไม่สนใจนางเหมือนไม่เห็นางอยู่ในสายตา ฉินลั่วโกรธจัด นางประสานมือแล้วพลังฌานก็พุ่งเข้าใส่หน้าอกของอวิ๋นเซียว…
…
หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ ร่วงหล่นเมื่อนางเห็นการปะทะ นางเอาแต่คิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี
ถึงแม้ว่าวิชาลับของฉินลั่วจะมีเวลากำจัดแต่อวิ๋นเซียว…ก็คงรอถึงตอนนั้นไม่ไหว
“นายหญิง!” เสี่ยวฉงตะโกนเรียกนางเสียงดัง
อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดแล้วเงยหน้ามองก็เห็นแมลงตัวอ้วนอยู่ตรงหน้านาง วินาทีต่อมาเขาก็จุมพิตที่หน้าผากของนาง
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วและก่อนที่นางจะจับเสี่ยวฉงที่กล้ากินเต้าหู้นางโยนออกไป นางก็รู้สึกเจ็บปวดบริเวณระหว่างดวงตาทั้งสองข้างและสัมผัสเย็นๆ ก็แผ่ไปทั่วร่างของนาง
เสี่ยวฉงร่วงลงมาบนฝ่ามือของอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างอ่อนแรง เขามองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างน่าสงสารแล้วพูดว่า “ข้าให้แก่นเลือดที่สำคัญที่สุดของข้าให้ท่านแล้ว ข้าต้องใช้เวลานานถึงจะฟื้นฟู ท่านต้องสัญญากับข้านะว่าท่านจะไม่กินข้า”
ก่อนที่เขาจะหลับตาเสี่ยวฉงก็ไม่ลืมที่จะเตือนนางด้วยความกลัวว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะกินเขาตอนที่เขาหลับอยู่…
“เสี่ยวโม่ดูแลเขาด้วย”
อวิ๋นลั่วเฟิงโยนเสี่ยวฉงให้เสี่ยวโม่และไม่นานนางก็รู้สึกถึงเลือดและพลังชี่ก็นางพลุ่งพล่านและความแข็งแกร่งของนางก็ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น…
…………………………………..
ตอนที่ 1709 ฉินลั่วพ่ายแพ้ (3)
เสี่ยวโม่มองตามอวิ๋นลั่วเฟิง เขามีความรู้สึกว่าอวิ๋นลั่วเฟิงต้องมีพลังมากขึ้นจนน่ากลัวแน่นอนหลังจากที่ซึมซับแก่นเลือดของบรรพบุรุษเผ่ามังกร
บนแผ่นดินนี้ มังกรเป็นสัตว์วิญญาณอสูรที่หายากและทรงพลัง ทุกส่วนของร่างกายถือเป็นสมบัติล้ำค่า ไม่ว่าจะเป็นเลือดมังกร เนื้อมังกรหรือเส้นเอ็นมังกรทั้งหมดเป็นยาบำรุงชั้นดีดังนั้นไม่ต้องพูดถึงแก่นเลือด
แก่นเลือดเป็นส่วนล้ำค่าที่สุดของร่างกายมังกร เมื่อมังกรให้แก่นเลือดของตัวเองแล้วจะเป็นการสูบแก่นพลังของเขา ดังนั้นแก่นเลือดจึงล้ำค่ามาก
อีกอย่างมังกรตัวนี้ก็ไม่ได้เป็นมังกรธรรมดาแต่เขาเป็นถึงบรรพบุรุษของเผ่ามังกร!
แก่นเลือดของบรรพบุรุษมังกร จะมีค่าขนาดไหนกัน! แก่นเลือดหยดนี้ไม่แค่เพิ่มความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงชั่วคราวแต่กระนั้น…มันก็ให้ประโยชน์กับนางอย่างมาก และช่วยให้นางหบรรลุได้ง่ายขึ้นในอนาคตอีกด้วย
เสี่ยวโม่มองเสี่ยวฉงที่บนฝ่ามือเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไม่แน่อวิ๋นเซียวอาจจะคิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้วตอนที่ช่วยบรรพบุรุษมังกรตัวนี้มา ไม่อย่างนั้นเขาจะช่วยเจ้าตัวน้อยนี่โดยไม่มีเหตุผลมาทำไม
ฉินลั่วต้องการจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดแต่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกถึงพลังที่พุ่งมาจากด้านหน้า นางเงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจและเมื่อนางเห็นว่าพลังของอวิ๋นลั่วเฟิงเพิ่มขึ้น ดวงตาของนางก็ฉายแววตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้น”
หรือว่าสตรีผู้นี้ก็ใช้วิชาลับเพิ่มความแข็งแกร่งเหมือนกัน
ไม่นะ!
บนแผ่นนี้ไม่มีวิชาแบบนั้น หรือต่อให้มี พลังของนางก็เพิ่มขึ้นถึงขั้นเทพเจ้าแล้ว ในแผ่นดินล้าหลังแบบนี้ยังมีคนที่สามารถพัฒนาพลังให้ถึงดินแดนแห่งเทพเจ้าได้ด้วยหรือ
ใบหน้าของฉินลั่วซีดเผือดและนางก็พยายามถอยหลังแต่ก่อนที่นางจะได้หันหลังหนี เสียงราวกับปีศาจก็ดังขึ้นจากด้านบนศีรษะนาง
“เจ้าคิดจะไปไหน”
บนท้องฟ้ามีสตรีในชุดสีขาวคนหนึ่งค่อยๆ เดินลงมาช้าๆ นางจ้องฉินลั่วอย่างมาดร้ายพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจและเย็นชาบนใบหน้า
ฉินลั่วกดความตื่นตระหนกในใจของนางเอาไว้แล้วกัดฟัน “วันนี้เจ้าโชคดี ข้าจะจัดการกับเจ้าที่หลัง”
“ทีหลังงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงหัวเราะเบาๆ “เจ้าคิดว่าตัวเองยังจะมีวันหน้าอยู่อีกหรือ”
ฉินลั่วกำหมัด ถ้าเป็นนางก่อนหน้านี้ นางก็คงสู้กับอวิ๋นลั่วเฟิง พวกนางทั้งคู่ใช้วิชาลับเพื่อเพิ่มพลังทำให้บอกไม่ได้ว่าใครจะชนะแต่…
เวลาของนางใกล้หมดแล้วและเมื่อเวลาหมดนางก็จะกลายเป็นกระสอบทรายให้พวกเขาโจมตี นางต้องหนีออกไปก่อนและจัดการกับคนพวกนี้หลังจากที่นางฟื้นตัว โชคร้ายที่สตรีผู้นี้ไม่ต้องการจะปล่อยนางไป…
“ไสหัวไป!” ฉินลั่วไม่ต้องการร้องขอความเมตตา นางกระโจนพุ่งเข้าหาอวิ่นลั่วเฟิงด้วยดวงตาเกรี้ยวกราด
อวิ๋นลั่วเฟิงยื่นมือออกมาช้าๆ …
ปัง!
ฝ่ามือของนางรับหมัดที่พุ่งเข้ามาหาไว้แน่น ดวงตาของนางสาดประกายเย็นชา “ไม่ใช่ว่าเจ้าอยากได้ผู้ชายของข้าหรอกหรือ เจ้าจะเดินออกไปเฉยๆ แบบนี้ได้อย่างไร”
ฉินลั่วหน้าแดงด้วยความโกรธและจ้องหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างเย็นชา “ผู้ชายของเจ้างั้นหรือ ในฐานะสตรี เจ้าไม่อายที่พูดอย่างนี้หรือ”
เมื่อก่อนฉินลั่วโดยดูถูกเหยียดหยามเพราะความมากราคะของนาง ตอนนั้นนางสั่งสอนคนพวกนั้นแล้วถามพวกเขาว่าในเมื่อบุรุษยังมีสตรีหลายคนได้แล้วเหตุใดนางถึงมีผู้ชายหลายคนไม่ได้ แน่นอนว่านางก็แค่คิดแบบนั้นเพราะเป็นตัวนางเอง ถ้าเป็นคนอื่น…อย่างอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็ต้องเรียกคนคนนั้นว่าหน้าไม่อายและไร้ศีลธรรม
อวิ๋นลั่วเฟิงหัวเราะ “เขาเป็นสามีของข้า ข้าเรียกเขาว่าผู้ชายของข้าผิดตรงไหนกัน ถ้าข้าจะต้องรู้สึกอับอายเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าเจ้าควรจะฆ่าตัวตายเพราะพยายามขโมยผู้ชายของคนอื่นหรอกหรือ”