ตอนที่ 1716 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (2)
ความหมายในคำพูดนางค่อนข้างชัดเจน
จวินเฟิ่งหลิงยิ้มเยาะ สตรีผู้นี้ต้องการขโมยผู้ชายของนางไปงั้นหรือ นางงั้นคิดว่าข้าตายไปแล้วหรืออย่างไร
เยี่ยจิ่งเฉินมองท่าทางยั่วยวนของเว่ยหลิงอย่างรังเกียจแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แม่นางเว่ย ข้าไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเว่ยแม้แต่น้อย แค่ข้าได้ใช้ชีวิตร่วมกับหลิงเอ๋อร์ภรรยาคนงามของข้าและบุตรชาย บุตรสาวก็เพียงพอแล้ว”
เมื่อเว่ยหลิงได้ยินคำพูดของเขา นางก็ไม่ได้โกรธ นางหัวเราะเบาๆ “บุรุษทุกคนต้องการอำนาจกันทั้งนั้น! ถึงแม้ว่าตระกูลเว่ยของพวกเราจะไม่ได้เป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองบูรพาแต่ก็เป็นหนึ่งในตระกูลทรงอำนาจ ข้าเป็นทายาทของตระกูลเว่ย ถ้าท่านแต่งงานกับข้าก็เท่ากับท่านแต่งกับตระกูลเว่ยทั้งตระกูล คุณชายเยี่ย ท่านเป็นบุรุษที่ฉลาด ข้าเชื่อว่าท่านจะรู้ว่าทางเลือกไหนดีที่สุดสำหรับท่าน”
ใบหน้าของเยี่ยจิ่งเฉินดำมืด เขาไม่เคยเจอสตรีที่หน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาไม่อยากมาเสียเวลากับสตรีผู้นี้ดังนั้นเขาจึงตะคอกอย่างเย็นชา “หลีกทางไปเดี๋ยวนี้!”
“คุณชายเยี่ย ข้ารู้ว่าท่านรักภรรยาของท่านดังนั้นข้าจะไม่บังคับให้ท่านหย่ากับนาง เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ตราบใดที่ท่านเข้าร่วมตระกูลเว่ยของพวกเรา ข้าจะอนุญาตให้ท่านรับนางเป็นนางบำเรอก็ได้” ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเว่ยหลิงจะอ่อนโยนและใบหน้าก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มแต่นางกลับพูดเหมือนนางกำลังให้ทานคนยากไร้
นางพูดเหมือนว่าจวินเฟิ่งหลิงควรจะดีใจที่ได้รับอนุญาตให้เป็นนางบำเรอของเยี่ยจิ่งเฉิน
จวินเฟิ่งหลิงโกรธจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “นี่เป็นวิธีของตระกูลเว่ยของเจ้าหรือ บังคับให้บุรุษหย่ากับภรรยาของเขากลางถนนและทำให้ภรรยาของเขาเป็นแค่นางบำเรอ”
เยี่ยจิ่งเฉินคอยลูบแผ่นหลังของจวินเฟิ่งหลิงด้วยกลัวว่าภรรยาที่รักของเขาจะเดือดดาลเพราะเว่ยหลิง
“แม่นางจวิน”
เว่ยหลิงไม่ได้เรียกจวินเฟิงหลิงว่าแท่นางเยี่ยเพราะนางไม่ยอมรับว่าจวินเฟิ่งหลิงเป็นภรรยาของเยี่ยจิ่งเฉิน นางหยุดก่อนจะพูดต่อ “ข้าไม่ได้ถามความเห็นเจ้า ข้าแค่กำลังพูดทางเลือกของข้า เจ้าไม่สิทธิพูดอะไรทั้งนั้น” เว่ยหลิงพูดกับเยี่ยจิ่งเฉินอย่างสุภาพแต่เมื่อพูดกับจวินเฟิ่งหลิงนางก็พูดอย่างโอหังและมีสีหน้าเย็นชา
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็เห็นว่าเจ้าจะเอาสามีข้าไปได้อย่างไร!” จวินเฟิ่งหลิงยิ้มเยาะ แล้วหยิบกระบี่อ่อนที่เอวขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเผชิญหน้ากับเว่ยหลิง
“ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่รับเองนะ!” เว่ยหลิงหรี่ตาและโบกมือออกคำสั่งให้คนของนางโจมตีจวินเฟิ่งหลิง
จู่ๆ ก็มีเสียงที่ผสานกันระหว่างความดีใจและแปลกใจดังขึ้นจากด้านหลัง
“ท่านแม่?”
จวินเฟิ่งหลิงตัวสั่นแล้วหันหลัง ดวงตางามของนางเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อนางเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามาหานาง
“ฉีเอ๋อร์?”
ก่อนที่นางจะได้พูดอะไรอีก เด็กผู้หญิงคนนั้นก็กระโจนเข้าอ้อมแขนของนางแล้วเงยใบหน้าน่ารักที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจของนางขึ้น “ท่านแม่ เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่เจ้าคะ”
จวินเฟิ่งหลิงไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่นางออกจากตระกูลเยี่ยไปเมื่อห้าปีก่อน พวกนางไม่ได้พบหน้ากับมาห้าปีแล้ว…
เมื่อเยี่ยฉีคิดถึงเวลาห้าปีท่ต้องแยกจากกัน จมูกของนางก็แสบและน้ำตาก็ไหลออกมา
“ฉีเอ๋อร์ ลูก…”
จวินเฟิ่งหลิงแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเยี่ยฉีควรจะอยู่ที่แดนลับแลหรอกหรือ เหตุใดนางถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ ถ้านางอยูที่นี่ก็หมายความว่าเฟิงเอ๋อร์อาจจะอยู่ที่นครจวินจริงๆ สินะ
“ท่านแม่ ท่านพี่และพี่สะใภ้อยู่ที่นี่ทั้งคู่เจ้าค่ะ ให้ลูกพาท่านไปหาพวกเขา พวกเราค่อยคุยกันตอนไปเจอพวกเขาก็ได้เจ้าค่ะ”
รอยยิ้มเจิดจ้าปรากฏบนใบหน้าที่มีคาบน้ำตาของเยี่ยฉี นางจับแขนของจวินเฟิ่งหลิงไว้แน่นและไม่ต้องการที่จะปล่อยนาง
“เข้าใจแล้ว พวกเราไปหาพี่ชายและพี่สะใภ้ของเจ้ากันเถอะ”
…………………………………..
ตอนที่ 1717 ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (3)
ห้าปีแล้ว…
จวินเฟิ่งหลิงจะไม่คิดถึงลูกๆ ของนางที่ไม่เห็นหน้ามาห้าปีได้อย่างไร
นางลืมแม้กระทั่งเรื่องเว่ยหลิงที่ยั่วโมโหนางมากไป… …
เว่ยหลิงดูอับอาย นางกำหมัดแน่นแต่ก็ไม่ได้สั่งให้คนของนางไปหยุดจวินเฟิงหลิ่งไม่ให้จากไป
“คุณหนู…” ท่านลุงเว่ยขมวดคิ้วแล้วจ้องร่างของจวินเฟิ่งหลิงที่ค่อยๆ หายไป “ข้าเคยเห็นสตรีที่เรียกว่าจวินเฟิ่งหลิงว่าแม่อยู่กับจวินหลิงเอ๋อร์”
เว่ยหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ข้าไม่คิดเลยว่าจวินเฟิ่งหลิงจะรู้จักคนจากตระกูลจวินด้วย”
ไม่แปลกใจเลยที่นางไม่สนใจคำพูดของเว่ยหลิง…
“จวินหลิงเอ๋อร์? จวินหลิงหลิงเอ๋อร์จากตระกูลจวินน่ะหรือ” ท่านลุงเว่ยตะลึง “ถ้านางมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจวิน ถ้าอย่างนั้นพวกเรา…”
ไม่แปลกใจเลยที่คุณหนูไม่ได้ออกคำสั่งให้คนของตระกูลเว่ยหยุดจวินเฟิ่งหลิงไม่ให้ไปกับเด็กผู้หญิงคนนั้นทั้งๆ ที่ต้องการจะสังหารจวินเฟิ่งหลิง เป็นเพราะนางมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจวินนี่เอง
“ข้าตรวจสอบตัวตนของนางมาแล้วหลังจากที่รู้ว่านางอยู่กับหลิงเอ๋อร์ น่าเสียดายที่ข้ารู้แค่ชื่อของนางทำให้ยากที่จะหาตัวตนของนางได้จากชื่อเพียงอย่างเดียว”
ตระกูลเว่ยยังแข็งแกร่งไม่พอ ถ้าเป็นตระกูลจวิน พวกเขาก็คงหาตัวตนของใครก็ได้แม้จะรู้เพียงแค่ชื่ออย่างเดียว
“คุณหนู ถ้าอย่างนั้นนาง…”
เว่ยหลิงส่ายหน้า “จวินหลิงเอ๋อร์เป็นคนง่ายๆ นางไม่สนว่าเพื่อนของนางจะเป็นใครตราบใดที่นางเข้ากับคนคนนั้นได้ดี ดังนั้นข้าไม่คิดว่าสตรีที่ชื่อเยี่ยฉีจะมีเบื้องหลังแข็งแกร่งอะไร และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเป็นญาติกับตระกูลจวินเพราะข้ารู้จักคนจากตระกูลจวินทุกคน”
ท่านลุงเว่ยโล่งอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ดีแล้ว ถ้านางเป็นแค่เพื่อนจวินหลิงเอ๋อร์และไม่ได้มีเบื้องหลังอะไร พวกเราก็จะได้ไม่ต้องกลัวนาง”
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น จวินหลิงเอ๋อร์เป็นคนคนดีและไม่เคยใช้อำนาจกลั่นแกล้งคนอื่น
“ความจริงแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวจวินหลิงเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าตระกูลเว่ยของพวกเราจะต้องพึ่งพาตระกูลจวินแต่ตระกูลจวินก็จำเป็นต้องใช้งานพวกเรา ดังนั้นจวินหลิงเอ๋อร์ไม่มีทางต่อต้านพวกเราเพียงเพราะเพื่อนแน่นอน” เว่ยหลิงกะพริบตา “อีกอย่าง ผู้เฒ่าจวินและนายท่านจวินก็เป็นที่รู้จักกันในฐานะของยอดฝีมือที่ทรงพลัง พวกเขาคงไม่สร้างเรื่องยุ่งยากให้เราเพราะเรื่องไม่สำคัญแบบนี้หรอก”
“ในตระกูลจวิน มีคนเดียวที่ข้ากลัว…” เว่ยหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียด
“ท่านหมายถึง…คนคนนั้นหรือ”
“ใช่ นางนั่นแหละ อวิ๋นลั่วเฟิง!”
ผู้เฒ่าจวินประกาศว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นหลานสาวของเขาอาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยากมีหลานสาวมาก อีกอย่างอวิ๋นลั่วเฟิงก็แตกต่างกับจวินหลิงเอ๋อร์ จวินหลิงเอ๋อร์ต้องคิดถึงความสัมพันธ์กับตระกูลจวินในขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ต้อง
นางไม่มีวันปล่อยคนที่สร้างปัญหาให้กับนาง!
ลุงเว่ยอ้าปากค้าง เขารู้ว่าคุณหนูพูดถูก สตรีผู้นั้น อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นเทพแห่งหายนะดีๆ นี่เอง!
พวกเราไปหาเรื่องกับเทพแห่งนรกยังดีกว่ามีปัญหากับนาง!
“ท่านลุงเว่ย” เว่ยหลิงหันหน้ามาหาท่านลุงเว่ยแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “หลายปีมานี้ ข้าไม่เคยตกหลุมรักบุรุษคนใดมาก่อนไม่ว่าเขาจะดีเลิศแค่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้ข้าก็ตกหลุมรักบุรุษผู้หนึ่งเข้าแล้ว ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องของเขาแน่นอน!”
“แต่ คุณหนู เขามีตระกูลจวินหนุนหลัง…”
“แล้วอย่างไร นางก็เป็นแค่เพื่อนของจวินหลิงเอ๋อร์ ถ้าผู้เฒ่าจวินรู้ว่าหลานสาวของเขาคบสตรีที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่เป็นเพื่อนแล้วเขาจะยอมให้คนพวกนั้นอยู่ในตระกูลอีกจวินได้อย่างไร” เว่ยหลิงส่งยิ้มบางแล้วประกายชั่วร้ายก็พาดผ่านดวงตา