ตอนที่ 1736 การมาถึงของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ (4)
อวิ๋นลั่วเฟิงนั่งลงอย่างเฉื่อยชาและพิงตัวอวิ๋นเซียวด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์และเฉื่อยชา “เจ้ายังจำที่เจ้าพูดตอนที่อยู่ที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่”
“เอ่อ…” ใบหน้าของผู้อาวุโสชุดเขียวแดงก่ำ
พวกนางบังคับให้อวิ๋นลั่วเฟิงถึงหลินรั่วไป๋ไว้ข้างหลังและดูถูกนาง ใครจะคิดว่าหลินรั่วไป๋จะทิ้งเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์โดยไม่เสียเวลาคิดแล้วเลือกที่จะจากไปพร้อมอวิ๋นลั่วเฟิงกันล่ะ
ปัง!
ตอนที่ผู้อาวุโสชุดเขียวกำลังจะอธิบาย นางก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นแล้วหันกลับมอง
“เจ้าเมืองอุดร ข้าไปทำอะไรให้เจ้ามากนักหรือ เจ้าถึงขัดขวางข้าทุกครั้ง”
หลิงอู่ไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้และล้มลงนั่งที่พื้น เหตุการณ์นี้ไปขัดขวางความคิดของผู้อาวุโสชุดเขียวแล้วทำให้นางโกรธ
ใบหน้าของหลิงอู่ซีดเผือดและควมกลัวในดวงตาก็มากขึ้น เขาพูดอะไรไม่ออกเลย!
ไม่ใช่ว่าฉินเสวี่ยเคยบอกว่าอวิ๋นลั่วเฟิงสังหารผู้สืบทอดของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ แล้วเหตุใดจู่ๆ ศิษย์ของนางถึงกลายเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ไปได้ล่ะ
สวรรค์ นี่ข้าทำเรื่องโง่ขนาดไหนลงไปเนี่ย!
หลิงซวงก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผู้คน เขารู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนกบนใบหน้าและความอับอายต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“ข้าจำได้ว่าเมืองอุดรตั้งใจไปจับครอบครัวของข้าที่แดนลับแลและใช้พวกเขาข่มขู่ข้า” อวิ๋นลั่วเฟิงบิดขี้เกียจและยืดตัวอย่างเฉื่อยชา รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางและดวงตาของนางก็ดูน่าขนลุกมาก “พวกเราจะจัดการเรื่องนี้กับเจ้าอย่างไรดีล่ะ”
หลิงซวงเผลอหันไปมองบิดาของเขาแล้วเห็นแค่ว่าบิดาของเขาไม่สามารถพูดอะไรได้ภายใต้ความสนใจของผู้อาวุโสชุดเขียว
เขารวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าสังหารพี่ชายข้าและทำให้ข้าพิการก่อน ไม่อย่างนั้นข้าก็คงไม่ต้องไปแก้แค้นเจ้าหรอก”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามว่าเหตุใดข้าถึงต้องสังหารพี่ชายเจ้า”
“…” หลิงซวงพูดไม่ออก
อวิ๋นลั่วเฟิงพูดต่อ “พี่ชายเจ้าลงมือก่อนและใส่ร้ายหวงอิงอิง ข้าเองก็แค่ชำระหนี้แค้นนี้เท่านั้น! ใครก็ตามที่ทำร้ายข้าต้องถูกตัดร่างออกเป็นชิ้นๆ!”
ใครก็ตามที่ทำร้ายข้าต้องถูกตัดร่างออกเป็นชิ้นๆ!
เสียงของหญิงสาวเต็มไปด้วยพลังและสง่างามจะทำให้ความอับอายปกคลุมหน้าหลิงซวง เขามองบิดาของเขาอย่างเสียใจแล้วยืนขึ้น “ดูเหมือนว่าวันนี้เมืองอุดรจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ”
พูดจบเขาก็เดินนำกลุ่มคนเดินออกไปด้านนอกโดยไม่ยื่นมือช่วยบิดาของเขาที่ล้มอยู่ แต่ว่าเมื่อเข้าถึงที่หน้าประตู เขาก็ถูกหยุดไว้ผู้คุ้มกันของตระกูลจวิน
หลิงซวงกำหมัดแน่น “ท่านพี่ของข้าทำร้ายเจ้าก่อนแต่เมืองอุดรก็ชดใช้ให้แล้ว เจ้ายังต้องการอะไรอีก”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ข้าให้เมืองอุดรชดใช้ความผิดก่อนหน้านี้แล้วก็จริงแต่ว่าเรื่องหลังจากนั้นล่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาที่เป็นประกายเย็นเยียบ “พวกเราจะมาสะสางบัญชีกันตอนนี้เลย!”
นางไม่ได้ไปแก้แค้นเมืองอุดรทันทีแม้นางมาถึงแคว้นเจ็ดเมืองหลายวันแล้วก็เพราะว่านางรอโอกาสนี้อยู่…
ถึงแม้เมืองอุดรจะทำแผนไม่สำเร็จแล้วอย่างไร ตราบใดที่พวกเขาเจตนา นางก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขา!
“อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้ากล้า!” หลิงซวงโกรธจัดแต่น้ำเสีงของเขายังคงมีความหวาดกลัวอยู่ เขามองอวิ๋นลั่วเฟิงขยับเขามาใกล้เขาแล้วเขาก็ถอยหลังไปช้าๆ
…………………………
ตอนที่ 1737 ถึงเวลาแต่งงานแล้ว (1)
อวิ๋นลั่วเฟิงทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของเขาและเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลิงซวง จากนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ยกขาเตะเขาเข้าที่อกโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวจนกระเด็นออกไป
หลิงซวงร่วงลงไปที่พื้นในสภาพเลวร้ายและกระอักเลือดออกมา เขากำลังจะออกวิ่งแต่อาวุธจำนวนมากก็ชี้มาที่อกเขาจนทำให้เขารู้สึกเย็นเยียบจนถึงกระดูก เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขารู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่มีความเมตตาปรานีให้เขาดังนั้นเขาจึงหันไปมองหวงอิงอิงอย่างอ้อนวอน
“อิงอิง เจ้าช่วยคิดถึงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราอยู่ด้วย ทำให้นางไว้ชีวิตที”
ทันใดนั้นสายตาของก็พุ่งไปที่หวงอิงอิงด้วยความตะลึง พวกเขาไม่คิดเลยว่านายน้อยของจวนเจ้าเมืองอุดรจะมีความสัมพันธ์สั้นๆ กับนักบุญหญิงของเผ่าผู้ใช้เวท
เมื่อได้ยินอย่างนั้น หวงอิงอิงก็หน้าแดงด้วยความโกรธ “หลิงซวง เจ้าอย่ามาทำให้ความบริสุทธิ์ของข้าเสื่อมเสีย! ตอนนั้นข้ายังเด็กและมองไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงเจ้าแล้วสุดท้ายก็โดนเจ้าหลอก! แต่เรื่องเจ้ากับข้ามันไม่ทั้งนั้น!”
ความสัมพันธ์สั้นๆ อย่างนั้นหรือ ประโยคที่มีคำว่า ‘ความสัมพันธ์’ จะหมายถึงเรื่องดีๆ ได้อย่างไร
ตอนนั้นพวกเขารักกันก็จริงแต่นางก็รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ นางไม่มีทางยกร่างกายให้ใครก่อนจะแต่งงานกับเขา แต่คำพูดของหลิงซวงทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ทางกายอย่างลึกซึ้ง
“หวงอิงอิง พวกเราอาจจะอยู่ด้วยกันไม่นานแต่ความรักของพวกเราไม่มีทางจืดจาง! เจ้าจะมาทำตัวไร้หัวใจกับข้าไม่ได้!”
เมื่อเห็นท่าทางไม่สำนึกผิดของหลิงซวง หวงอิงอิงก็เริ่มตัวสั่นและดวงตาก็ของก็ลุกเป็นไฟ
“ปล่อยเขา” จู่ๆ เสียงเย็นเยียบของดังขึ้น
พวกเขาลดอาวุธที่ล้อมตัวหลิงซวงเอาไว้ ผู้คุ้มกันของตระกูลถอยหลังไปด้านข้างเปิดทางให้อวิ๋นลั่วเฟิง
หลิงซวงถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาพูดคำพวกนั้นเพื่อให้ทุกคนเชื่อว่าหวงอิงอิงเคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับเขาแบบลึกซึ้ง ในเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงต้องปกป้องผู้ติดตามของนาง นางต้องให้หวงอิงอิงแต่งงานกับเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายชื่อเสียงของหวงอิงอิง
น่าเสียดายที่เขาลืมไปว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา! อวิ๋นลั่วเฟิงผู้ไม่เคยกลัวคำพูดและการตัดสินของคนอื่น!
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ได้มีแค่เผ่ามังกรและเผ่าวิหคเพลิงที่ส่งคนมางานเลี้ยงนี้แต่หัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นศิษย์ของอวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจะเยาะเย้ยและนินทาหวงอิงอิงจากคำพูดของหลิงซวงไปทำไม
“แม่นางอวิ๋น ข้า—” ปัง!
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร อวิ๋นลั่วเฟิงก็เตะเข้าที่ปากของหลิงซวง หลิงซวงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและกระอักเลือดออกมา เขานอนอยู่ท่ามกลางกองเลือดและฟันที่หลุดออกมา
“คนจากเมืองอุดรนี่เป็นพวกคิดไม่ซื่อเหมือนกันทั้งเมืองเลยนะ ก่อนหน้านี้พี่เจ้าก็ใส่ร้ายว่าหวงอิงอิงขโมยของออกมาจากจวนเจ้าเมืองอุดร ตอนนี้เจ้ายังจะพยายามทำให้ความบริสุทธิ์ของนางต้องมัวหมองอีกหรือ”
หลิงซวงหวาดกลัวมากขึ้นจนตัวสั่นไม่หยุด เขาใช้มือกุมปากที่เลือดไหลไว้แน่นและเขาก็ออกเสียงพูดไม่ชัดจนทำให้ไม่มีใครได้ยินว่าเขาพูดอะไร
“ในเมื่อเจ้ามีปากไว้ใส่ร้ายผู้อื่นถ้าอย่างนั้นข้าจะตีเจ้าจนกว่าเจ้าจะพูดไม่ได้”
“ฮือ…” หลิงซวงถอยหลังไปด้วยความกลัว ข้างหลังของเขามีบันได เขาจึงสะดุดและกลิ้งตกลงไปหลายตลบจนร่วงถึงพื้น
สุดท้ายเขาก็หยุดกลิ้งและพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็มีฝ่าเท้าเหยียบบนอกเสียก่อน
พรูด!
หญิงสาวกดน้ำหนักลงบนฝ่าเท้ามากขึ้นจนทำให้ภายในเขาปวดร้าว เขากระอักเลือดออกมาอีกครั้งจนหน้าซีดเผือด