ตอนที่ 1750 ไป๋ซู่ (2)
ไป๋ซู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองฉินลั่วด้วยสายตาสับสน
เหตุใดจักรพรรดิปีศาจในความทรงจำของเขาถึงไม่ได้ปฏิบัติกับอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างเย็นชาเหมือนก้อนน้ำแข็ง กลับกันเขาหลงใหลนางเหมือนไฟที่ร้อนระอุ หรือว่าความทรงจำของเขามีอะไรผิดปกติงั้นหรือ
ไป๋ซู่ไม่สามารถคิดอะไรได้ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้เพราะความโง่เขลาอันบริสุทธิ์ เขาเชื่อฉินลั่วมาตั้งแต่ต้นเพราะนางปรับเปลี่ยนความทรงจำของเขา และทำให้เขาเชื่ออย่างสุดหัวใจว่านางคืออวิ๋นลั่วเฟิงแต่ว่าฉินลั่วไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนอื่นที่มีต่อวิ๋นลั่วเฟิงได้เมื่อพวกเขามีปฏิสัมพันธ์กัน เขาจะไม่รู้ว่าอวิ๋นเซียวปฏิบัติกับอวิ๋นลั่วเฟิงแบบไหนได้อย่างไร แต่เหตุใดลั่วเอ๋อร์ของเขาถึงบอกว่าอวิ๋นเซียวเย็นชาล่ะ
ดังนั้นไป๋ซู่จึงจมอยู่ในความคิด เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ฉินลั่วไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของไป๋ซู่และมองไป๋ซู่อย่างดูถูกและสายตาเยาะเย้ยของนางก็เข้มขึ้น
“ฮึ่ม!” จู่ๆ เสียงเหยียดหยามก็ดังขึ้นจากด้านในจวนตระกูลจวิน “ข้ากำลังสงสัยเลยว่าใครกันที่มารบกวนจวนตระกูลจวิน กลายเป็นว่าเจ้ายั่วยวนบุตรชายของข้าไม่สำเร็จ ดังนั้นเจ้าก็เลยต้องการจะใส่ร้ายเขาสินะ”
ชุดผ้าไหมปักดิ้นทองบนร่างของเขาขับให้รูปร่างของเขาดูสมบูรณ์แบบ ใบหน้าที่ปกติจะอ่อนโยนของเขาก็ถูกปกคลุมด้วยความเย็นชา
“ลูกสะใภ้ของข้าโดดเด่นมากแต่เจ้ากล้าพูดอย่างหน้าไม่อายว่าบุตรชายข้าไปรังควานเจ้าไม่หยุดงั้นหรือ เหตุใดเจ้าไม่ส่องกระจกดูตัวเองล่ะ ว่าเจ้ามีดีอะไรให้บุตรชายข้าไปยุ่งกับเจ้า”
ฉินลั่วงุนงง ความสับสนปรากฏขึ้นในดวงตานาง
บรุษผู้นี้เป็นใครกันเนี่ย แล้วที่คำพูดหมายความว่าอย่างไร นางไปพูดว่าบุตรชายเขามาตามรังควานนางไม่หยุดตั้งแต่เมื่อไหร่ นางพูดถึงแต่…จักรพรรดิปีศาจ?
ความคิดของฉินลั่วสว่างวาบและนางก็เข้าใจทันที แต่นั่นก็ทำให้นางหน้าซีดเหมือนกัน
“สามี พวกเราไปกันเถอะ!”
บ้าเอ๊ย นังสวะจิ่วอวี้ต้องเจตนาทำเรื่องนี้แน่! นางสามารถไปที่ไหนก็ได้ แต่นางกลับพาไป๋ซู่มาที่จวนของจักรพรรดิปีศาจกับอวิ๋นลั่วเฟิง!
“เดี๋ยวก่อน” ไป๋ซู่ขมวดคิ้วและมองหน้าฉินลั่วก่อนจะถามอย่างระแวงว่า “เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับจักรพรรดิปีศาจ”
ไป๋ซู่รู้จักเยี่ยจิ่งเฉินดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเยี่ยจิ่งเฉินเป็นพ่อเลี้ยงของอวิ๋นเซียว แต่เมื่อเยี่ยจิ่งเฉินพูดแบบนั้นไป๋ซู่ก็เข้าใจว่าอวิ๋นเซียวทอดทิ้งอวิ๋นลั่วเฟิง
จนถึงตอนนี้ไป๋ซู่ก็ยังไม่สงสัยถึงตัวตนของฉินลั่ว เรื่องนี้เป็นเพราะพลังของนาง
ฉินลั่วกัดริมฝีปากและน้ำตาก็ไหลออกมา “สามี เป็นชายคนนี้ที่ไม่ยอมให้จักรพรรดิปีศาจอยู่กับข้าและตอนนี้ยังบังคับให้เขาแต่งงานกับสตรีอื่น ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ พวกเราไปกันเถอะ”
ครั้งนี้ เยี่ยจิ่งเฉินกลายเป็นคนตกตะลึงแทน
เขารู้จักสตรีผู้นี้หรือ และนางยังกล่าวหาว่าเขาขัดขวางความสัมพันธ์ของนางกับอวิ๋นเซียวและบังคับให้อวิ๋นเซียวแต่งงานกับสตรีอื่นงั้นหรือ
ถึงอย่างไรเยี่ยจิ่งเฉินก็ไม่รู้ว่าฉินลั่วแกล้งทำตัวเป็นอวิ๋นลั่วเฟิง ดังนั้นเขาจึงคิดว่านางมีเจตนาซ่อนเร้นกับอวิ๋นเซียวและพาคนอื่นมาสร้างปัญหาในงานแต่งงานของเขา แค่ว่าเมื่อเขาสังเกตดีๆ สตรีผู้นี้เรียกบุรุษที่อยู่ข้างกายว่าสามี ถ้านางมีสามีอยู่แล้ว นางจะมาที่นี่เพื่อทำให้ชื่อเสียงของบุตรชายเขามัวหมองไปทำไมและยังพยายามทำลายงานแต่งงานของบุตรชายเขากับลูกสะใภ้อีก
“ลั่วเอ๋อร์” ความแคลงใจครอบคลุมดวงตาของไป๋ซู่ “ปกติเจ้าเรียกเขาว่าอวิ๋นเซียว เหตุใดตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปเป็น ‘จักรพรรดิปีศาจ’ แล้วล่ะ”
ความตื่นตระหนกพุ่งเข้าใส่จิตใจของฉินลั่ว นางรีบสัมผัสถึงตราประทับในความคิดของไป๋ซู่แล้วก็โล่งอกเมื่อนางยังสัมผัสถึงตราประทับได้อยู่
“จักรพรรดิปีศาจเล่นกับหัวใจของข้าและสุดท้ายก็ทิ้งข้าดังนั้นเขาถึงไม่มีค่าพอให้ข้าเรียกเขาด้วยชื่อ เจ้าดีที่สุด ดังนั้นพวกเราไปกันเถอะ ในเมื่อนี่เป็นงานแต่งงานของจักรพรรดิปีศาจ ข้าก็ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าข้ายังมีความรู้สึกหลงเหลือให้เขา พวกเรารีบไปจากที่นี่กัน
…………………………
ตอนที่ 1751 ไป๋ซู่ (3)
นางเพิ่งสังเกตเห็นเมื่อครู่นี่เองว่าจวนตระกูลจวินถูกประดับตกแต่งเพื่องานเฉลิมฉลองและมีคำว่า ‘ผาสุก’ เขียนไว้ที่หน้าประตู เห็นได้ชัดว่าด้านในกำลังจัดงานแต่งงานกันอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคู่บ่าวสาวคืออวิ๋นเซียวกับอวิ๋นลั่วเฟิง
ทันทีที่นางนึกได้ว่าบุรุษที่มีรูปร่างอย่างนั้นกำลังจะแต่งงานกับสตรีอื่น ฉินลั่วก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง นางกลัวว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะออกมาและเปิดโปงตัวตนของนางต่อหน้าไป๋ซู่นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางรีบดึงไป๋ซู่ให้ออกจากที่นี่
เยี่ยจิ่งเฉินโกรธจัด บุตรชายของเขาเล่นกับหัวใจของผู้อื่นแล้วทอดทิ้งงั้นหรือ
“อวิ๋นเซียว ไสหัวออกมาที่นี่เดี๋ยวนี้!” เยี่ยจิ่งเฉินไม่เหลือท่าทางอ่อนโยนและตะโกนอย่างเดือดดาล ไม่รู้ว่าเขาโกรธฉินลั่วหรืออวิ๋นเซียวกันแน่
ภายในห้องโถงหลักจวนตระกูลจวิน ยังมีคนจำนวนมากที่เดินไปเดินมาและยังไม่ได้ออกไปไหน เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนของเยี่ยจิ่งเฉิน พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและรีบวิ่งออกมา
ฉินลั่วยิ่งตื่นตระหนกและจับกำมือของไป๋ซู่ไว้แน่น นางพูดอย่างขี้ขลาดว่า “สามี ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าจักรพรรดิปีศาจกำลังจะแต่งงานกับภรรยาเขาในวันนี้ พวกเราไปกันเถอะ ข้า…”
“ลั่วเอ๋อร์ ไม่ต้องกลัว เป็นความผิดของเขาที่ทอดทิ้งเจ้า ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเด็ดขาด” ไป๋ซู่ลูบหลังมือของฉินลั่วเพื่อปลอบใจและย้ายสายตาทรงเสน่ห์ของเขาไปที่ลาน
ฉินลั่วหวาดกลัวจนยืนไม่ตรงและริมฝีปากของนางก็ซีดเผือด แต่ว่าเมื่อนางเห็นอวิ๋นเซียวเดินออกมาคนเดียวด้วยชุดเจ้าบ่าว ดวงตาของนางก็เป็นประกาย
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ออกมางั้นหรือ ดีมาก! ตราบใดที่อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้อยู่ที่นี่ ตราประทับในความคิดของไป๋ซู่ก็จะไม่ถูกทำลาย
“เกิดอะไรขึ้น” ผู้เฒ่าจวินถามด้วยสีหน้าไม่พอใจขณะที่เขาและคนอื่นรีบเดินออกมา
เยี่ยจิ่งเฉินสำรวจกลุ่มคนที่เดินออกมาแล้วก็โล่งอกเมื่อไม่เห็นอวิ๋นลั่วเฟิง ถึงอย่างไรวันนี้ก็วันเป็นแห่งความสุขของนาง เยี่ยจิ่งเฉินไม่อยากทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงอารมณ์ไม่ดีหรือทำให้นางกังวล
“นางออกมาคงไม่เหมาะสม” อวิ๋นเซียวพูดเบาๆ และรู้ว่าเยี่ยจิ่งเฉินกำลังคิดอะไร
ความจริงแล้วเขาไม่อยากให้ไป๋ซู่เห็นอวิ๋นลั่วเฟิงต่างหากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานแต่งงานของพวกเขา
“เซียวเอ๋อร์” ใบหน้าของเยี่ยจิ่งเฉินเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ยังคงทำสีหน้าจริงจังแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับสตรีผู้นี้ นางบอกว่าเจ้าไปตามรังควานนางไม่หยุดจากนั้นก็ทิ้งนางหลังจากที่ได้เล่นสนุกกับหัวใจนางแล้ว เจ้าทำเรื่องชั่วร้ายอย่างนั้นจริงหรือ”
อวิ๋นเซียวเหลือบมองฉินลั่วและเม้มปาก “ข้ารู้จักนาง”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น แขกหลายคนก็ถอนหายใจ พวกเขานับถือเรื่องที่จักรพรรดิปีศาจจริงจังเกี่ยวกับความรักแต่กลายเป็นว่าเขาก็ไม่ได้จริงจังมากขนาดนั้น ตอนแรกเขาตามรังควานสตรีผู้นี้ไม่หยุดจากนั้นเมื่อหมดความสนใจก็ทอดทิ้งนาง ส่วนอวิ๋นลั่วเฟิงก็แค่ขโมยสามีของผู้อื่นมา
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ” หงหลวนเห็นหนานกงอวิ๋นอี้ที่อยู่ข้างนางโกรธจัดและพูดเบาๆ ว่า “อย่าทำเรื่องวุ่นวายในวันแต่งงานของเฟิงเอ๋อร์!”
หนานกงอวิ๋นอี้จ้องหน้าหงหลวน “วันนี้เป็นวันแต่งงานของอวิ๋นลั่วเฟิงแต่คนพวกนี้กลับมาสร้างปัญหาที่นี่ ข้าจะทำให้พวกมันชดใช้!”
ไม่ว่าจะเป็นหนานกงอวิ๋นอี้หรือหงหลวนพวกเขาต่างก็เชื่อในตัวอวิ๋นเซียว นั่นไม่ใช่เพราะพวกเขารู้จักอวิ๋นเซียวดีแต่เป็นเพราะพวกนางเชื่อในการตัดสินใจของอวิ๋นลั่วเฟิง บุรุษที่อวิ๋นลั่วเฟิงยอมรับจะทำตัวน่าผิดหวังอย่างนั้นได้อย่างไร
หงหลวนกุมมือหนานกงอวิ๋นอี้ลง “ในเมื่ออวิ๋นเซียวไม่ได้ให้เฟิงเอ๋อร์ออกมาก็หมายความว่าเขาจัดการเรื่องนี้ได้ พวกเราแค่รอดูและสนุกกับแสดงนี้เถอะ”
ตรงข้ามกับความเชื่อมั่นในตัวอวิ๋นเซียวของหงหลวน ใบหน้าของคนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่องก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรเพราะสมาชิกของตระกูลจวินอยู่ที่นี่