ตอนที่ 1786 ไป๋หลิงงั้นหรือ (1)
ภายในเมืองที่วุ่นวาย จวนหลังหนึ่งที่มีสวนอันเงียบสงบ ก็มีสตรีผู้หนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ นางลืมตาขึ้นช้าๆ ก็พบว่านางมาอยู่ในที่ไม่คุ้นตา นางนวดขมับที่ปวดหนึบแล้วขมวดคิ้ว “ข้าจำได้ว่าข้าสลบบนทุ่งหญ้านี่ เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่”
“นายหญิง”
เสียงอ่อนเยาว์ของเสี่ยวโม่ขึ้นจากจิตนาง “ตอนที่ท่านหมดสติไป ข้าพยายามจะพาท่านออกมาแต่มีคนมาเสียก่อน คนที่นี่ไม่เหมือนที่แคว้นเจ็ดเมืองและอาจจะรู้ตัวตนของข้า ดังนั้นข้าก็เลยกลับเข้ามาในโลกคัมภีร์เซียนโอสถหลังจากที่ข้ามั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
ถ้าตัวตนของเสี่ยวโม่ถูกเปิดโปง โลกคัมภีร์เซียนโอสถเองก็จะถูกเปิดเผยซึ่งนั่นทำให้เสี่ยวโม่เลือกที่จะซ่อนตัวก่อน
“แต่…” เสี่ยวโม่หยุดก่อนจะพูดต่อ “ข้าแอบได้ยินบทสนทนาของพวกเขา พวกเขาบอกว่าอาจารย์ของชายหนุ่มคนหนึ่ง…หน้าตาเหมือนท่าน”
หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงสั่นสะท้าน “ดูเหมือนข้างั้นหรือ”
เสี่ยวโม่เงียบไปนานก่อนจะถามขึ้นว่า “ดังนั้นข้าเลยอยากถามท่านว่า ท่านมั่นใจใช่หรือไม่ว่าไป๋หลิงตายแล้ว ข้าได้ยินพวกเขาพูดกันว่าสตรีผู้นั้นที่หน้าเหมือนท่าน…มาจากแผ่นดินอื่น และถูกขังอยู่ที่นี่เพราะนางบังเอิญเปิดมิติได้ระหว่างการต่อสู้”
ไป๋หลิงและอวิ๋นหยางเผชิญหน้ากับอันตรายและถูกสังหารในสนามรบ! นั่นเป็นเหตุผลที่เสี่ยวโม่ถามนางอย่างนี้
อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “ถ้านางเป็นมารดาของข้า แล้วใครเป็นเจ้าของกระดูกที่อยู่ในหลุมฝังศพของตระกูลอวิ๋น ถ้านางยังไม่ตาย ท่านปู่ไม่มีทางเชื่อว่านางตายแล้ว เพราะว่ากระดูกเหล่านั้นที่ทำให้เขามั่นใจว่าไป๋หลิงตายแล้ว”
“บางที…ข้าอาจจะคิดมากเกินไป”
เสี่ยวโม่พูดอย่างหมดปัญญา
ตอนนั้นเองประตูก็ถูกเปิดออกและสตรีในชุดกระโปรงยาวสีเขียวผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา เมื่อนางเห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงตื่นแล้ว นางก็พูดอย่างไร้มารยาทว่า “เจ้าตื่นแล้วหรือ ถ้าเจ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เจ้าก็ออกไปเสีย”
“ซืออวี่!”
ทันทีที่นางพูดแบบนี้ก็มีเสียงชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งแสดงความไม่พอใจดังขึ้นจากด้านหลัง
“หญิงสาวคนนี้พึ่งจะฟื้นตัว เจ้าไล่นางออกไปได้อย่างไร พวกเราไม่ควรดูแลแขกแบบนี้!”
สีหน้าของซืออวี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยและนางก็จ้องหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างเคียดแค้น
อวิ๋นลั่วเฟิงสงสัยว่าเหตุใดสตรีผู้นี้ถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับนาง นางไม่ได้ไปยั่วโมโหนางไม่ใช่หรือ
“แม่นาง เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ ด้วยรอยยิ้มเขินอายบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา
“ถ้าเจ้าไม่ถือ เจ้าสามารถอยู่ที่นี่เพื่อรักษาตัวไปก่อนสักพักก็ได้”
ถ้าเป็นในอดีต อวิ๋นลั่วเฟิงก็คงปฏิเสธข้อเสนอของชายหนุ่มไปแล้ว
แต่ตอนนี้นางยังไม่รู้เรื่องอะไรที่นี่และนางก็ไม่อยากออกไปร่อนเร่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
“นายน้อย…”
ซืออวี่กัดริมฝีปากแน่นและพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ชายหนุ่มส่งสายตาให้นางหยุดพูด
นางทำได้แค่กดความโศกเศร้าเอาไว้ในใจแล้วจ้องอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างแค้นเคือง
“แม่นาง” ชายหนุ่มไม่สนใจซืออวี่แล้วหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง “ข้าชื่อว่าฉีซู ข้าขอทราบชื่อเจ้าได้หรือไม่”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “อวิ๋นลั่วเฟิง”
“แม่นางลั่วเฟิง ตอนนี้เจ้าก็พักผ่อนเถอะ ถ้าต้องการอะไรให้เจ้าไปที่ห้องโถงด้านหน้าและตามหาข้านะ” ฉีซูยิ้มและหันไปมองซืออวี่ “ซืออวี่ เจ้ามากับข้า”
…………………………
ตอนที่ 1787 ไป๋หลิงงั้นหรือ (2)
หลังจากที่เขาเดินออกจากประตู
ซืออวี่ไม่เต็มใจแต่ก็ยังเดินตามฉีซูออกไป …
“นายหญิง”
เมื่อพวกเขาไปแล้ว เสียงของเสี่ยวโม่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านพึ่งผ่านด่านเลื่อนระดับมาและท่านควรใช้โอกาสนี้ปรับสมดุล อีกอย่างให้ข้าบอกท่านเรื่องถึงระดับที่อยู่เหนือขั้นเทพเซียน…”
“หลังจากที่เลื่อนจากขั้นกึ่งเทพก็จะเป็นขั้นเทพเซียนซึ่งการจะกลายเป็นเทพเซียนต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์เสียก่อน ยิ่งอัสนีสวรรค์ที่ท่านเผชิญหนักแค่ไหน ความสำเร็จในอนาคตของท่านก็ยิ่งยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือท่านจะรับประโยชน์อย่างมากถ้าท่านสามารถต้านอัสนีสวรรค์ได้”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยิ่งนางต้องรับอัสนีสวรรค์จำนวนมาก ร่างกายของนางก็ยิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น…
“ตอนที่ท่านก็อยู่ในขั้นเทพเซียนแล้ว หลังจากถึงขั้นเทพเซียนก็ยังมี ขั้นเซียนสวรรค์ เซียนอาวุโส เซียนจักรพรรดิ และเซียนที่แท้จริง…” เสี่ยวโม่หยุดแล้วพูดต่อ “ลำดับขั้นเทพเซียนจะแตกต่างจากลำดับขั้นก่อนหน้า ขั้นที่อยู่เหนือกว่าขั้นเทพเซียนจะไม่มีแยกระดับสูงต่ำ ครั้งต่อไปที่ท่านผ่านด่านท่านก็จะเลื่อนขั้นเป็นเซียนสวรรค์เลย! แต่ว่าข้าจะบอกท่านว่าเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน มีผู้ฝึกฌานขั้นเทพเซียนจำนวนนับไม่ถ้วนและผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์นั้นมีมากไม่ต่างจากขนบนตัววัว ดังนั้นหนทางของท่านยังอีกยาวไกล…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวโม่ อวิ๋นลั่วเฟิงก็เงียบ หลังจากผ่านไปสักพักนางถึงเงยหน้าขึ้น แสงแดดที่ลอดผ่านประตูเข้ามาตกลงบนใบหน้าของนาง
“ไม่ว่าหนทางจะอีกไกลแค่ไหน ข้าก็จะเดินไปข้างหน้าโดยไม่ยอมแพ้!” …
ภายในห้องหนังสือ
ฉีซูมองสตรีที่เดินตามเขาเข้ามาภายในห้องด้วยสายตาสิ้นหวัง “ซืออวี่ ข้าตัดสินใจรับนางเข้ามาแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”
“นายน้อยเจ้าคะ” สีหน้าของซืออวี่เปลี่ยนไป “ตอนนี้พวกเรายังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย ถ้าพวกเรารับนางเข้ามาอีก นางจะต้องภาระของพวกเราแน่เจ้าค่ะ”
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ แค่ทำตามที่สั่งก็พอ” ฉีซูโบกมือและพูดขึ้น
“เจ้าค่ะ” ซืออวี่กัดปาก นางมองฉีซูและออกมา
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรกัน นางกำลังปรับสมดุลร่างกายหลังผ่านด่านอยู่ภายในห้องตอนนั้นเองก็มีศีรษะเล็กๆ ชะโงกเข้ามามองจากด้านนอกประตู
เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่มีผิวพรรณบอบบาง ดวงตากลมโตและแวววาวเป็นประกายสดใส นางมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างสงสัยแล้วทำท่าเขินอายขณะที่นางพยายามจะเข้ามา
เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย นางก็ดึงกลิ่นอายกลับมาแล้วถามว่า “เจ้ามาหาข้าหรือ”
เด็กหญิงตัวน้อยอมนิ้วไว้ในปากแล้วพยักหน้า “ข้าได้ยินมาท่านพี่พาพี่สาวงดงามกลับมากับเขาด้วย ข้าก็เลยมาดูเจ้าค่ะ พี่สาว ข้าชื่อฉีหลิง ท่านชื่ออะไรเจ้าคะ”
เมื่อได้ยินขอนาง อวิ๋นลั่วเฟิงก็คิดถึงจวินหลิงเอ๋อร์
พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ที่แคว้นเจ็ดเมืองกันนะ…
“ข้าชื่ออวิ๋นลั่วเฟิง” อวิ๋นลั่วเฟิงก้มลงมอง สายตาของนางไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยก่อนจะยกยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้น ข้าเรียกท่านว่าแม่นางอวิ๋นได้หรือไม่เจ้าคะ” เด็กหญิงตัวน้อยมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาขลาดเขลาเหมือนว่ากลัวว่านางจะปฏิเสธ
ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประกาย “ได้สิ แต่ข้ามีคำถามอยากจะถามเจ้าสักหน่อย ที่นี่คือแผ่นดินอะไร”
“ที่นี่คือแคว้นวายุและเมฆาเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยตอบคำถามอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างจริงจัง
“แล้วเจ้ามาจากที่ไหน” อวิ๋นลั่วเฟิงถามต่อ
เด็กหญิงตัวน้อยกัดปากแล้วใช้ขาสั้นๆ ของนางเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย