ตอนที่ 1324 อัจฉริยะหงหลวน (2)
นางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองสตรีสง่างามตรงข้ามนาง “ข้าท้าประลองเจ้าเพราะต้องการรู้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้า”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองสตรีชุดแดงแล้ววางกระบี่ในมือนางลง
“เจ้าแน่ใจหรือ”
“ใช่ ข้าแน่ใจ!”
น้ำเสียงของสตรีชุดแดงทั้งมั่นใจและหยิ่งทะนง “ข้ามั่นใจว่าข้าเอาชนะเจ้าได้!”
ตูม!
ทันใดนั้นเถาวัลย์จำนวนมากก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นรอบตัวอวิ๋นลั่วเฟิงประหนึ่งเหมือนพวกมันมีชีวิต เถาวัลย์ทั้งหมดพุ่งเขาโจมตีหงหลวนโดยไม่ต้องออกคำสั่ง ดวงตาหงหลวนเป็นประกายตื่นเต้น นี่แหละคือสิ่งที่นางอยากเห็น! เยี่ยมยอด!
นางคงหมดความอยากต่อสู้ทันที คู่ต่อสู้ของนางอ่อนเกินไป…
ตูม!
อวิ๋นลั่วเฟิงเร็วมากเหมือนสายลม นางพุ่งผ่านเถาวัลย์เข้ามาข้างหน้าหงหลวน หมัดของนางถูกหุ้มด้วยพลังมหาศาลแล้วปะทะเข้ากับอกของหงหลวนอย่างแรง
เมื่อเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงลดอาวุธ หงหลวนเองก็โยนกระบี่ของนางลงพื้นแล้วระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุขจนดังก้องไปทั่วโรงเตี้ยม
“ฮ่าๆ อวิ๋นลั่วเฟิง ข้าตัดสินใจถูกแล้วที่กลับมาเมืองบูรพา!”
ปัง!
หมัดของทั้งคู่ปะทะกันกลางอากาศแล้วระเบิดปล่อยพายุรุนแรงออกมา เส้นผมยาวสีดำของพวกนางปลิวไปตามสายลมแรงทำให้พวกนางดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล
หูหลีชะงักแล้วจ้องเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงข้ามหงหลวนดวงตาเขาเต็มไปด้วยความงุนงง เขาจำได้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์ระดับสูงในขณะที่หงหลวนเป็นผู้ฝึกฌานขั้นราชันปราชญ์ระดับกลางแล้ว…
แต่นางสามารถรับการโจมตีของหงหลวนได้งั้นหรือ!
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือเถาวัลย์พวกนี้คอยเบี่ยงเบนความสนใจของหงหลวน ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงมีโอกาสลอบโจมตี อีกอย่าง อวิ๋นลั่วเฟิงเข้าไปอยู่ฝึกฝนในกระจกแห่งความว่างเปล่าถึงสามเดือน ทำให้นางแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกฌานระดับเดียวกัน อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหงหลวนถ้าพวกนางสู้กันด้วยอาวุธ แต่หงหลวนเลือกสู้ด้วยมือเปล่า ทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงมีโอกาสตอบโต้นาง
ถึงแม้พวกนางจะไม่ได้ต่อสู้กันนานในสายตาของผู้อื่น แต่พวกนางก็เริ่มเหนื่อยแล้ว
ด้วยสมุนไพรจำนวนมากของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงสามารถฟื้นพลังได้อย่างง่ายดายแต่นางไม่ต้องการโกงการประลอง ดังนั้นทั้งคู่จึงทรุดลงพื้นอย่างหมดแรงในเวลาเดียวกัน
เหงื่อไหลเต็มหน้าผากหงหลวน แต่นางก็ยังยกยิ้มมีเสน่ห์แล้วหันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิง “อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิด! ข้าไม่ได้สนุกกับการประลองดีๆ แบบนี้มานานมากแล้ว ถ้าข้าฟื้นพลังเสร็จแล้วพวกเรามาสู้กันอีกเถอะ!”
อวิ๋นลั่วเฟิงส่งยิ้มบางให้นาง “ตกลง”
“ฮ่าๆ!” หงหงวนอดที่จะระเบิดหัวเราะออกมาไม่ได้ ดวงตานางโค้งเป็นรูปพระจันทร์แล้วเต็มไปด้วยความสุข
อวิ๋นลั่วเฟิงหยิบโสมเลือดออกมาสองชิ้นแล้วเอาใส่ปากตัวเองหนึ่งชิ้น อีกชิ้นหนึ่งยื่นให้หงหลวน หงหลวนหยุด แต่ไม่นานก็หยิบมันใส่ปาก ทันทีที่นางหยิบมันใส่ปาก นางก็รู้สึกได้ว่าพลังของนางค่อยๆ ฟื้นฟู
“ขอบคุณ”
นางกระเด้งขึ้นจากพื้นแล้วยื่นมือไปให้อวิ๋นลั่วเฟิง “ให้ข้าได้แนะนำตัว ข้ามีนามว่าหงหลวน เจ้าเมืองบูรพาคือบิดาข้า ข้าเข้าสำนักศึกษาเมืองประจิมก็เพื่อหนีการแต่งงานที่ท่านพ่อข้าจัดให้ แต่คนพวกนี้ก็ยังตามหาข้าจนเจอ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วมองไปที่กลุ่มคนที่เข้าใกล้หงหลวนเข้ามาเรื่อยๆ จากนั้นนางก็ฉีกรอยยิ้มกว้างขึ้น
“อวิ๋นลั่วเฟิง” ดวงตาหงเหลียนเป็นประกาย “เจ้าช่วยปลอมเป็นคนรักของข้าที”
ตอนที่ 1325 อัจฉริยะหงหลวน (3)
อวิ๋นลั่วเฟิงหน้ามืดครึ้ม คนจากจวนเจ้าเมืองเองก็ตะลึงแล้วจ้องหน้าหงหลวนอย่างงุนงง
“ไม่ได้!” หูหลีกระโดดออกตัวก่อน “อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นสตรี นางจะปลอมเป็นคนรักเจ้าได้อย่างไร”
หงหลวนส่งสายตาเหยียดหยามไปให้เขา “นางปลอมตัวเองเป็นบุรุษได้ ข้าไม่ต้องการแต่งงานกันคนที่ท่านพ่อข้าเลือก”
“คุณหนู!”
คนของจวนเจ้าเมืองตะลึงแล้วพยายามหยุดหงหลวน
หงหลวนมองพวกเขาอย่างเย็นชา “พวกเจ้าไม่อนุญาตให้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปโดยเด็ดขาด หากข้ารู้ว่าพวกเจ้าทำ…ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปแน่! อย่าลืมว่าเมื่อท่านพ่อข้าชราเมื่อไหร่ คนที่จะรับตำแหน่งเจ้าเมืองคนต่อไปก็คือข้า”
เสียงทรงพลังของนางดังไปทั่วห้องโถง แล้วนางก็กวาดสายตาเย็นเยียบไปหาทุกคนขณะออกคำสั่ง
ใบหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงมืดลงกว่าเดิม “ข้ายังไม่ได้ตกลง”
เมื่อหันมามองอวิ๋นลั่วเฟิง สายตาของนางก็ไม่ได้วางอำนาจเหมือนที่มองคนของจวนเจ้าเมือง ใบหน้านางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “พวกเราเป็นสหายกันแล้ว ตอนนี้สหายของเจ้ากำลังลำบาก เจ้าจะไม่ช่วยข้าหรือ”
“เจ้าไปขอให้หูหลีช่วยก็ได้”
“ไม่มีทาง! ข้าต้องการแค่เจ้า!”
ถ้าเป็นคนอื่น อวิ๋นลั่วเฟิงคงเดินหนีโดยไม่พูดอะไรแล้วแต่ว่า…
นางประทับใจหงหลวนมากและรู้สึกผูกพันกับนาง
“ก็ได้! ข้ายอมทำ!” อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้า “แต่เจ้าต้องช่วยข้าอย่างหนึ่ง”
“ให้ช่วยอะไร ขอแค่เจ้าบอกมา ข้ายินดีช่วยเจ้าเต็มที่”
“ข้ากำลังตามหาใครคนหนึ่ง เขาชื่อว่าอวิ๋นเซียวและคนอื่นเรียกเขาว่าจักรพรรดิปีศาจ!”
คนของจวนเจ้าเมืองคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงต้องปฏิเสธคำขอไร้สาระของคุณหนูแน่ๆ แต่พวกเขาต้องแปลกใจที่นางตกลง…
หัวใจของพวกเขาสั่นยิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าคุณหนูกลับไปพร้อมสตรีผู้นี้ พวกเขาได้แต่ภาวนาว่าท่านเจ้าเมืองจะไม่รู้เรื่องนี้ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องถูกลงโทษเหมือนกัน!
“เจ้าได้ยินหรือยัง” หงหลวนเลิกคิ้วแล้วหันไปหากลุ่มคนด้านหลังนาง “หาคนคนนั้น ห้ามกลับมาจนกว่าจะหาเขาเจอ”
“คุณหนู ท่าน…” ชายชราขมวดคิ้วถาม
“ข้ากลับด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องห่วงข้า!”
เมื่อเห็นสีหน้าเยือกเย็นและเย่อหยิ่งของนาง ชายชราก็ได้แต่ยิ้มแหยแล้วสุดท้ายก็ออกไปกับคนจากจวนเจ้าเมือง
เมื่อพวกเขาจากไป หงหลวนก็สังเกตเห็นว่าหวังจวิ้นเฟยกำลังแอบหลบหนี…
“เจ้าคิดว่าตัวเองจะหนีไปได้หลังจากดูถูกสำนักศึกเมืองประจิมงั้นหรือ” หงหลวนเยาะเย้ย “เจ้าหวังลมๆ แล้งๆ อันใดกัน หูหลี จัดการเขา! ทำให้เขาจำได้ว่าข้าอยู่เบื้องหลังสำนักศึกษาเมืองประจิม!”
หูหลีเหมือนจะกลัวหงหลวนมากจึงไม่กล้าขัดคำสั่งนาง อีกอย่างเขาเองก็อดทนกับหวังจวิ้นเฟยมานานดังนั้นเขาจึงพุ่งเข้าไปจัดการหวังจวิ้นเฟยทันที เมื่อโดนตีจนหน้าดำหน้าเขียว หวังจวิ้นเฟยก็ส่งเสียงร้องโหยหวน…
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองหวังจวิ้นเฟยที่ร้องไห้ออกมาเสียงดังภายใต้กำปั้นของหูหลีแล้วหันมาหาหงหลวน
“เจ้าจะเริ่มเมื่อไหร่”
หงหลวนลูบคาง “ไปกันเถอะ ข้าจะไปหาชุดบุรุษมาให้เจ้า หลังจากนั้นพวกเราก็ไปจวนเจ้าเมืองกัน!”
…
บนถนนที่ผู้คนแออัดเสียงดัง
ภายในร้านเสื้อผ้า หงหลวนกำลังรอคอยอย่างกังวลอยู่หน้าประตู ไม่นานชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีขาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง แล้วดวงตานางก็ทอประกาย
ชายหนุ่มหล่อเหลาจนชวนตะลึง เมื่อรวมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าก็ทำให้เขาก็ดูผ่อนคลายและร้ายกาจแต่ก็มีเสน่ห์เหลือเกิน