ตอนที่ 1862 รักษา (1)
“เจ้าพาข้าไปหาเขาได้หรือไม่”
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาที่เป็นประกายของนางเล็กน้อย ถ้านางเอาชนะศัตรูโดยไม่ใช้การต่อสู้ได้ นางก็ไม่คิดมากหากจะใช้อำนาจอย่างอื่น ถ้านางสามารถรักษาจักรพรรดิแห่งหลิวเฟิงได้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลฉีหรือพระสนมฉิน นางก็ไม่จำเป็นต้องจัดการด้วยตัวเองแล้ว
มู่เสวี่ยซินตัวแข็ง จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วยิ้มแหยก่อนจะพูดว่า “แม่นางอวิ๋น ไม่มีใครรักษาเสด็จพ่อได้ ท่านอย่าทำให้ตัวเองลำบากเลย ไม่อย่างนั้น ข้ามั่นใจว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อท่านแน่”
ในเมื่อทั้งเสด็จพ่อและนางก็ต้องตายอยู่แล้ว เหตุใดนางต้องลากคนบริสุทธิ์มาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะคนบริสุทธิ์ที่ไม่ได้เป็นแค่อาจารย์ของฉีหลิง แต่ยังช่วยชีวิตนางไว้อีกด้วย
“พี่หญิงมู่ พาอาจารย์ไปดูเถอะเจ้าค่ะ ทักษะทางการแพทย์ของอาจารย์ยอดเยี่ยมมาก นางจะต้องรักษาฝ่าบาทได้แน่นอนเจ้าค่ะ”
ในหัวใจของฉีหลิง อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นพระเจ้าที่ทรงพลัง ในโลกนี้ที่ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้!
มู่เสวี่ยซินยิ้มอย่างหมดหนทางให้ฉีหลิงที่กำลังส่งสายตาคาดหวังมาให้นาง นางเงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงและพูดว่า “ข้าพาฝ่าบาทออกมาจากพระราชวังแล้ว ข้าจะพาท่านไปพบเขา ถ้าท่านรักษาฝ่าบาทไม่ได้ก็เพียงแอบออกไปแบบเงียบๆ”
ถ้าเป็นที่พระราชวังก็จะทำอะไรไม่สะดวกเพราะมีสายของคนมากมายคอยจับจ้อง โชคดีที่นางพาเสด็จพ่อออกมาจากพระราชวังแล้ว ต่อให้อวิ๋นลั่วเฟิงรักษาเขาไม่ได้ก็ไม่มีใครโทษนาง
“พวกเราไปกันเถอะ”
อวิ๋นลั่วเฟิงปิดตำราในมือแล้วพูดเบาๆ
“ตอนนี้น่ะหรือ” มู่เสวี่ยซินถามอย่างแปลกใจเล็กน้อย
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองนาง “ใช่แล้ว เจ้าไม่สะดวกหรือ”
“เปล่า” มู่เสวี่ยซินตอบอย่างอบจนหนทาง “ได้โปรดตามข้ามา” …
จวนองค์หญิง
ที่นี่เงียบสงัดมาก
ภายนอกห้องในปีกตะวันออกของจวน เมื่อองครักษ์สองคนเห็นมู่เสวี่ยซินจากไกลๆ ก็คำนับด้วยความเคารพ “องค์หญิง”
“ข้าพาคนมาดูอาการเสด็จพ่อ พวกเจ้าคุ้มกันอยู่ด้านนอก อย่าให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง!” องครักษ์ทั้งสองเฝ้าระวังอยู่หน้าประตู
“แม่นางอวิ๋น องครักษ์ทั้งสองคนนี้เป็นคนของเสด็จพ่อ พวกเขาจงรักภักดีต่อข้าจริงๆ ท่านไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะปล่อยข่าวออกไป” พูดจบมู่เสวี่ยซินก็ผลักประตูเข้าไป “ต่อให้ท่านรักษาเสด็จพ่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
ถึงอย่างไร นางก็ยอมแพ้แล้ว
ภายในห้องมีบุรุษหน้าซีดไร้สีเลือดคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และลมหายใจก็อ่อนแรงมากราวกับว่าจะสามารถหายไปได้ทุกเมื่อ
ใบหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงมืดครึ้มขณะที่นางมองบุรุษที่อยู่บนเตียง
“แม่นางอวิ๋น เกิดอะไรขึ้น” มู่เสวี่ยซินสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของอวิ๋นลั่วเฟิงจึงถามขึ้น
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “วันนี้ใครเป็นคนป้อนยาเขา”
“นางกำนัลคนหนึ่ง มีปัญหาอะไรหรือ” มู่เสวี่ยซินรู้สึกหัวใจกระตุก มีบางอย่างผิดปกติในน้ำแกงสมุนไพรวันนี้งั้นหรือ
“ในน้ำแกงสมุนไพรที่เขาดื่มวันนี้มีสมุนไพรที่ชื่อหญ้าคืนฝัน!” ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงดำมืดขึ้นทีละน้อย “หญ้าคืนฝันมีผลรุนแรงมาก ถ้าใครก็ตามกินมันเข้าไปจะหลับแล้วตายภายในสามวัน”
“หญ้าคืนฝันงั้นหรือ” ใบหน้าของมู่เสวี่ยซินซีดเผือด “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเสด็จพ่อดื่มหญ้าคืนฝันเข้าไป”
“เขามีกลิ่นของหญ้าคืนฝันบนตัว”
แพทย์หลวงอวี๋กล้าให้จักรพรรดิดื่มหญ้าคืนฝันเพราะว่าหญ้าชนิดนี้ไร้สีไร้รส ดังนั้นจึงไม่มีใครตรวจพบ แต่ว่าฌานของอวิ๋นลั่วเฟิงทรงพลังมาก และหญ้าคืนฝันก็เป็นสมุนไพรที่ส่งผลต่อพลังฌาน ดังนั้นนางจึงรู้สึกได้ผ่านพลังฌานอันแข็งแกร่งนั่นเอง
…………………………
ตอนที่ 1863 รักษา (2)
แน่นอนว่า นางไม่ได้บอกมู่เสวี่ยซินเรื่องนี้ มู่เสวี่ยซินไม่ได้เป็นแพทย์ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าหญ้าคืนฝันไร้สีไร้กลิ่น
“ถ้าอย่างนั้นข้าควรจะทำอย่างไร” มู่เสวี่ยซินเกือบจะทรุดลงกับพื้น นางกัดริมฝีปากแน่น “ข้าคิดว่าเสด็จพ่อจะอยู่กับข้าได้อีกสองสามเดือนแต่ข้าไม่คิดเลยว่า…”
“ความจริงแล้ว…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดก่อนจะพูดต่อ “ต่อให้ไม่มีหญ้าคืนฝัน เขาก็อยู่ได้อีกแค่สองเดือน”
ฉีซูไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ที่เข้ามาในห้อง เขาพยุงร่างมู่เสวี่ยซินที่สั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเอาไว้เพราะนางไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป
“อาจารย์เจ้าคะ” ฉีหลิงกอดขาอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วมองนางด้วยสายตาน่าสงสาร “ท่านมีทางช่วยชีวิตจักรพรรดิหรือไม่เจ้าคะ”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองบุรุษที่นอนอยู่บนเตียง
“เขาป่วยเพราะทำงานหนักนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาจะหายได้ในเร็ววันถ้าเขากินสมุนไพรพลังฌานอย่างต่อเนื่อง แต่ว่า…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุด “มีใครบางคนใช้โสมบึงแทนโสมฌานสวรรค์ในน้ำแกงสมุนไพร ดังนั้นเขาจึงไม่หาย และนั่นยิ่งทำให้ร่างกายเขายิ่งทรุดโทรม”
มู่เสวี่ยซินฝืนตัวเองให้ใจเย็นแล้วถามขึ้น “โสมทั้งสองชนิดต่างกันอย่างไร”
“ต่างกันตรงโสมที่เติบโตในบึงจะปนเปื้อนไปด้วยพิษจากบึง เป็นเรื่องยากที่จะแยกความแตกต่างระหว่างโสมสองชนิดนี้ ยาพิษนี้ไม่ได้ฆ่าเขาทันทีแต่จะค่อยๆ กัดกร่อนร่างกายของเขา”
โสมบึงกับหญ้าคืนฝัน! เห็นได้ชัดว่ามีคนพยายามจะปลงพระชนม์เสด็จพ่อของนาง
“พระสนมฉิน ต้องเป็นนางแน่!” นอกจากสตรีผู้นี้ มู่เสวี่ยซินก็นึกถึงคนอื่นไม่ออก
“แม่นางอวิ๋น” จู่ๆ มู่เสวี่ยซินก็คุกเข่าตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วขอร้องอย่างขมขื่น “ในเมื่อท่านรู้ว่าเสด็จพ่อเป็นโรคอะไร ท่านก็ต้องมีวิธีรักษาเขา ได้โปรดช่วยชีวิตเสด็จพ่อด้วย ตราบใดที่ท่านช่วยเขา ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งท่านไปตลอดชีวิต”
ศักดิ์ศรีน่ะหรือ สิ่งนั้นคืออะไร สำคัญกว่าชีวิตของเสด็จพ่อของนางหรือก็ไม่
อย่าว่าแต่ศักดิ์ศรีเลย แม้แต่ชีวิตนางก็ยินดีละทิ้งเพื่อช่วยชีวิตของเสด็จพ่อ
เมื่อฉีซูเห็นมู่เสวี่ยซินคุกเข่า เขาเองก็รีบคุกเข่าตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยอีกคน “นายหญิง ได้โปรดช่วยฝ่าบาทด้วยขอรับ” ในเมื่อไม่มีคนนอกอยู่ที่นี่ เขาจึงไม่เรียกอวิ๋นลั่วเฟิงว่า ‘แม่นางอวิ๋น’ แต่เรียกนางว่านายหญิง
ฉีหลิงกะพริบตาแล้วคุกเข่าด้วยเหมือนกัน “อาจารย์ ได้โปรดช่วยพี่หญิงมู่ด้วยเจ้าค่ะ”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองคนทั้งสามที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้านางแล้วหันไปมองมู่เสวี่ยซินที่น้ำตานองหน้า
“ข้ายังไม่ได้พูดเลยว่าจะไม่ช่วยเขา”
มู่เสวี่ยซินยินดีมากที่ได้ยินอย่างนั้น นางเงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างดีใจ “แม่นางอวิ๋น ท่านยินดีช่วยชีวิตเสด็จพ่อใช่หรือไม่”
“การช่วยเขาก็เท่ากับช่วยตัวข้าด้วย” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดก่อนจะพูดต่อ “อีกอย่างฉีซูและฉีหลิงก็ขอให้ข้าช่วยเขา แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร”
แค่เพื่อฉีหลิงอย่างเดียว นางก็ยินดีช่วยเขาแล้ว
“แต่ว่าพิษของหญ้าคืนฝันกำลังออกฤทธิ์อยู่ ต่อไปเขาจะเห็นภาพคนที่เขาต้องการมากที่สุดแล้วใช้ชีวิตอยู่กับอีกฝ่ายอย่างมีความสุขสามวัน แต่เมื่อพ้นสามวันไปแล้ว เขาจะมีเลือดไหลออกจากทางจมูกแล้วก็ตาย” อวิ๋นลั่วเฟิงลูบคางแล้วคิดเล็กน้อย “ดังนั้นข้าต้องขับพิษออกจากร่างของเขาก่อน”
“แม่นางอวิ๋น ถ้าท่านต้องการสมุนไพรพลังฌาน ขอแค่บอกข้า ข้าจะเอามาให้ท่านเอง”
ใบหน้าของมู่เสวี่ยซินเต็มไปด้วยความปิติยินดี
ตอนแรกนางไม่หวังอะไรกับอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อนางเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงวินิจฉัยโรคของเสด็จพ่อของนางได้อย่างง่ายดายและยังรู้ว่าเขาได้รับสมุนไพรอะไรเข้าไป หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความหวัง