ตอนที่ 1928 จักรพรรดิปีศาจหน้าตาอัปลักษณ์งั้นหรือ (1)
อาณาจักรจื่อเยว่
ภายในพระราชวัง ชายในชุดมังกรสะบัดแขนเสื้อยาวของเขาขณะที่เดินเข้าไปในตำหนักในช้าๆ
ตอนนั้นเอง น้ำเสียงรื่นเริงก็ดังขึ้นจนทำให้เขาขมวดคิ้ว เมื่อนางกำนัลเห็นบุรุษในชุดมังกรเดินเข้ามาก็หน้าถอดสีด้วยความกลัวขณะที่พวกนางรีบคุกเข่าคำนับต่อๆ กันแล้วพูดพร้อมกันว่า “ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”
เมื่อได้ยินเสียงของนางกำนัล หญิงสาวก็หยุดหัวเราะทันที เมื่อนางเห็นชายในชุดมังกรเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นางก็แลบลิ้นออกมา
หญิงสาวมีใบหน้างดงามมากขณะที่นัยน์ตาฉายแววเฉลียวฉลาด ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถปิดบังความยโสที่มีมาแต่กำเนิดของนางได้
“เฟิ่งเอ๋อร์!” ชายในชุดมังกรทำสีหน้ามืดครึ้ม หลังจากที่โบกมือเพื่อให้ทุกคนถอยออกไป เขาก็พูดเสียงต่ำว่า “เจ้ามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหากับนางกำนัลและขันทีพวกนี้อีกแล้ว! ถ้าเจ้ามีอารมณ์มาเล่นสนุก เหตุใดไม่ไปเรียนมารยาทล่ะ ข้าจะได้ยกเจ้าเป็นของกำนัลให้จักรพรรดิปีศาจได้”
“เสด็จพ่อ!” สีหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิ่งเปลี่ยนไปทันที “บุตรสาวของท่านไม่อยากแต่งงานกับจักรพรรดิปีศาจ เขาอัปลักษณ์และไม่คู่ควรจะแต่งงานกับลูกเพคะ!
ชายในชุดมังกรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เจ้าพูดไร้สาระอะไร เจ้าไปได้ยินว่าจักรพรรดิปีศาจหน้าตาอัปลักษณ์มาจากไหน”
เฉียวเยี่ยเฟิ่งส่งเสียงขึ้นจมูกขณะพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “ถ้าเขาไม่หน้าตาน่าเกลียดแล้วเหตุใดจะต้องใส่หน้ากากด้วยเพคะ”
“ถึงอย่างนั้นด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาก็ดีเกินพอที่จะคู่ควรกับเจ้าแล้ว” ชายในชุดมังกรกวาดสายตามองเฉียวเยี่ยเฟิ่ง “พูดตามตรง จักรพรรดิปีศาจให้ข้าตามหาสตรีผู้หนึ่งอยู่ และแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของนางกับเขาย่อมไม่ธรรมดาแน่ ตั้งแต่แรกข้าไม่คิดจะให้เจ้าไปเป็นภรรยาเขา แต่ตั้งใจจะยกเจ้าให้เป็นอนุภรรยาของเขาต่างหาก”
สีหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิ่งเปลี่ยนเป็นซีดเผือดอย่างรวดเร็ว นางยังเซไปเล็กน้อย มองบิดาที่ในอดีตคอยตามใจนางมาตลอดด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ทำไมกันล่ะ
เหตุใดเสด็จพ่อถึงยกนางให้ไปเป็นอนุภรรยาของเขา
เพราะเหตุใดบุรุษผู้นั้นที่ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยใบหน้าถึงมีสิทธิ์ได้นางไปเป็นอนุ
“เสด็จพ่อเพคะ จักรพรรดิปีศาจเป็นคนส่งท่านมาที่ใช่หรือไม่เพคะ” เฉียวเยี่ยเฟิ่งดึงอารมณ์กลับมาอย่างรวดเร็วแล้วกัดฟัน “บอกเขาว่า ฝันไปเถอะ! ข้าจะไม่มีทางแต่งงานกับบุรุษหน้าตาอัปลักษณ์!”
เมื่อเห็นว่าเฉียวเยี่ยเฟิ่งแสดงสีหน้ายอมตายดีว่ายอมจำนน สีหน้าของบุรุษในชุดมังกรก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง เรื่องนี้อยู่เหนือความเห็นของเจ้า! ทหาร พาองค์หญิงไปคุมขังเอาไว้ และถ้าข้าไม่ได้สั่ง นางก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวออกมาแม้แต่ก้าวเดียว!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของเขา องครักษ์สองคนก็เดินออกมาด้วยความตั้งใจจะลากตัวเฉียวเยี่ยเฟิ่งออกไป เฉียวเยี่ยเฟิ่งดิ้นพล่านด้วยกำลังทั้งหมดที่มีด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“เสด็จพ่อ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องให้ข้าไปเป็นอนุภรรยาของเขา ข้าไม่มีทางยอมไปเป็นภรรยาของเขาด้วยซ้ำ! บอกให้เขายอมแพ้ซะ!”
บุรุษในชุดมังกรทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิ่งแล้วมององค์รักษ์ลากตัวนางไปอย่างเย็นชา
เสียงเกรี้ยวกราดของเฉียวเยี่ยเฟิ่งดังมาให้ได้ยินจากไกลๆ “จักรพรรดิปีศาจ ไอ้ชาติชั่วที่กล้ามาแอบหมายปององค์หญิง พวกเราทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้! ด้วยใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้าก็อย่าได้แม้แต่จะคิด…อื้อ!”
เห็นได้ชัดว่าบุรุษในชุดมังกรหวาดกลัวคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิ่งมากและก่อนที่นางจะได้พูดคำต้องห้ามออกมา เขาก็รีบสั่งให้องครักษ์ปิดปากนางทันที
ตอนนั้นเหงื่อเย็นๆ ก็ไหลออกจากหน้าผากเขาเป็นสาย…
โชคดีที่จักรพรรดิปีศาจไม่ได้อาศัยอยู่ในพระราชวัง ไม่อย่างนั้นถ้าเขาได้ยินคำพูดของนางทั้งอาณาจักรจื่อเยว่ก็คงตกอยู่ในคำสาปชั่วนิรันดร์
ในทางตรงกันข้าม สำหรับเฉียวเยี่ยเฟิ่งแล้ว นางเชื่อมั่นมากว่าจักรพรรดิปีศาจชื่นชอบใบหน้างดงามของนาง จึงสั่งให้เสด็จพ่อมาบังคับนาง ไม่อย่างนั้นเหตุใดเสด็จพ่อของนางถึงพยายามสร้างปัญหาด้วยการส่งนางให้ไปเป็นอนุภรรยาของเขาโดยไม่มีเหตุผลเล่า
ตอนที่ 1929 จักรพรรดิปีศาจหน้าตาอัปลักษณ์งั้นหรือ (2)
ถึงแม้ว่าจักรพรรดิปีศาจจะทรงพลังมาก นางก็ไม่มีทางชอบชายอัปลักษณ์!
โชคร้าย…ที่เฉียวเยี่ยเฟิ่งไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ขณะที่องครักษ์ลากนางกลับไปที่ห้องแล้วขังนางไว้
นางเขวี้ยงถ้วยชาบนโต๊ะด้วยความโกรธขณะที่หน้าอกกระเพื่อมไม่หยุด “จักรพรรดิปีศาจคนนั้นมันสารเลว! ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเขาไปเอาความกล้าจากไหนมาแอบชอบข้า! ถึงอย่างไรข้าก็เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของอาณาจักรจื่อเยว่แล้วชายหน้าตาน่าเกลียดอย่างเขาจะคู่ควรกับข้าได้อย่างไร”
“องค์หญิงเพคะ” นางกำนัลคนหนึ่งเหลือบมองเฉียวเยี่ยเฟิ่งอย่างระมัดระวัง “หลังจากที่จักรพรรดิปีศาจมาถึงอาณาจักรจื่อเยว่ เขาก็มอบหมายให้ฝ่าบาทตามหาสตรีผู้หนึ่ง ดังนั้นในความคิดของข้าน้อย สตรีผู้นั้นต้องเป็นคนรักของจักรพรรดิปีศาจแน่นอนเพคะ และไม่แน่ฝ่าบาทก็อาจจะเป็นคนเริ่มต้นความคิดที่จะให้องค์หญิง…”
ถึงแม้ว่าเฉียวเยี่ยเฟิ่งจะดื้อรั้นและหัวแข็ง นางก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดีต่อนางกำนัล ดังนั้นนางกำนัลถึงกล้าพูดคำพูดแบบนี้ต่อหน้าเฉียวเยี่ยเฟิ่ง
“เหอะ” เฉียวเยี่ยเฟิ่งยิ้มเยาะด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “เจ้าคิดว่าสตรีของบุรุษอัปลักษณ์จะงดงามแค่ไหนกันเชียว นางจะเทียบกับข้าได้หรือ ตอนที่จักรพรรดิปีศาจสู้กับยอดฝีมือทั้งสองคนข้าเองก็อยู่ด้วย เขาต้องหลงรักข้าตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว! ”
เฉียวเยี่ยเฟิ่งกัดฟันด้วยความเกลียดชัง “ถ้าเขามีความสามารถ เขาก็ควรจะใช้วิธีปกติไล่ตามข้าสิ การบังคับให้เสด็จพ่อมาขู่เข็ญข้าเนี่ยน่ะหรือ ยิ่งเขาทำอะไรมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งรังเกียจมากขึ้นเท่านั้น! ”
นางกำนัลก้มหน้าและไม่พูดอะไรอีก นางรู้สึกว่าบุรุษที่แข็งแกร่งขนาดที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัวได้ไม่น่าจะเป็นคนอย่างที่องค์หญิงบอกว่าตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกพบ ยิ่งไปกว่านั้นบุรุษแบบนี้ต้องรู้สึกรังเกียจที่จะใช้อำนาจบังคับสตรีอยู่แล้ว
เฉียวเยี่ยเฟิ่งสูดหายใจเข้าลึก “ยิ่งไปกว่านั้น บุรุษที่ข้าจะหลงรักต้องไม่ใช่แค่แข็งแกร่ง แต่ใบหน้าของเขาต้องไร้ที่ติด้วย จักรพรรดิปีศาจไม่คู่ควรกับข้า! ”
“แต่ว่าฝ่าบาท…” นางกำนัลพูดอย่างระมัดระวังแต่ก่อนที่นางจะพูดจบ นางก็ถูกเสียงดุร้ายของเฉียวเยี่ยเฟิ่งขัดขึ้น
“ฝันไปเถอะ ข้าไม่มีทางยอมแน่! ”
นางกำนัลก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง นางรู้สึกว่าจักรพรรดิคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างนั้น…
ขณะเดียวกันภายในห้องทรงงาน บุรุษในชุดมังกรกำลังถือคัมภีร์ในขณะที่สตรีงดงามผู้หนึ่งในชุดผ้าไหมปักดิ้นทองรินชาให้เขา
“จักรพรรดินีของข้า” เฉียวอวิ๋นถอหายใจ “เจ้ากลับไปโน้มน้าวเฟิ่งเอ๋อร์เถอะ ถ้านางสามารถแต่งเข้าไปเป็นอนุภรรยาของจักรพรรดิปีศาจได้ เขาก็จะอยู่ที่อาณาจักรจื่อเยว่ตลอดไป”
จักรพรรดินีชะงักไปครู่หนึ่ง “เฟิ่งเอ๋อร์เป็นคนหยิ่งยโสมาตลอด และคงจะเป็นเรื่องยากที่จะยอมเป็นอนุภรรยาของใคร ยิ่งไปกว่านั้น…จักรพรรดิปีศาจจะยอมหรือเพคะ หม่อมฉันเกรงว่าการมอบอนุให้เขาจะทำให้เขาโกรธนะเพคะ”
เฉียวอวิ๋นหัวเราะเบาๆ “การที่บุรุษจะมีภรรยาและอนุก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ โดยเฉพาะบุรุษที่แข็งแกร่งอย่างจักรพรรดิปีศาจไม่มีทางมีสตรีเพียงคนเดียว! การมอบอนุให้เขา เขาต้องขอบคุณแน่นอนอยู่แล้ว เขาจะโกรธเคืองได้อย่างไร แต่ว่าหน้าที่ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเอาอกเอาใจเฟิ่งเอ๋อร์ ถ้าเกิดนางไปยั่วโมโหจักรพรรดิปีศาจ พวกเราก็ได้แต่สูญเสียผลประโยชน์ไปโดยไม่ได้อะไรกลับมา”
“เพคะ ฝ่าบาท” จักรพรรดินีก้มหน้า ทันใดนั้นสีหน้าของบุรุษผู้นั้นก็ปรากฏขึ้นในความคิดของนาง ไร้อารมณ์ เย็นชาจนดูเหมือนก้นบึ้งของนรกจนทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวและดิ้นรนร้องขอความช่วยเหลือ
บุรุษแบบนั้นจะยอมรับเฟิ่งเอ๋อร์ไปเป็นอนุภรรยาจริงหรือ
ตามความคิดของนางแล้ว จักรพรรดินีไม่มั่นใจและรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของจักรพรรดิได้ และนางก็ทำได้แค่เชื่อฟัง…