ตอนที่ 1994 ความโกรธของจินหยาง (6)
จินหยางไม่อาจเชื่อได้ว่าคนที่ทำเรื่องแบบนี้คือบิดาที่ตามใจและปกป้องนางมาตลอดชีวิต
แต่ว่าไม่ว่าเสด็จพ่อจะรักภรรยาและตามใจบุตรสาวขนาดไหน ทันทีที่ภรรยาและบุตรสาวของเขาเป็นอุปสรรคกับสถานะของเขา เขาก็สามารถละทิ้งได้โดยไม่ลังเลเพื่อทำให้สถานะของตัวเองมั่นคง
“องค์หญิงเพคะ!” นางกำนัลผู้นี้ยืนขึ้นแล้วมองหน้าเฉิงเฟยหยางอย่างโกรธแค้น “หม่อมฉันและจักรพรรดินียังได้ยินว่าฝ่าบาททำข้อตกลงกับสำนักอิสระด้วยเพคะ ฝ่าบาทจะล่ออัจฉริยะจากทั้งสี่อาณาจักรไปที่ป่าบททดสอบสวรรค์ และสำนักอิสระก็จะช่วยฝ่าบาทเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเขา อู๋จุนเองก็ไปที่ป่าบททดสอบสวรรค์เพื่อช่วยสำนักอิสระสังหารอัจฉริยะจากทั้งสี่อาณาจักรเพคะ”
“หุบปาก!”
เมื่อเฉิงเฟยหยางได้ยินอย่างนั้น เขาก็โกรธขึ้งด้วยความอับอายและสะบัดมือไปที่หน้าอกของนางกำนัลทำให้นางกำนัลกระเด็นถอยหลังไป จนทำให้เลือดกองใหญ่ไหลออกจากปากนางไม่หยุด
“เสี่ยวจวี๋!” จินหยางพุ่งเข้าไปหานางกำนัลแล้วพยุงนางขึ้น “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”
“องค์หญิง จักรพรรดินีเป็นคนช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้และพระองค์ก็ปฏิบัติกับหม่อมฉันอย่างดี หม่อมฉันควรติดตามจักรพรรดินีไปตอนที่นางสิ้นพระชนม์ แต่ว่าหม่อมฉันกลัวว่าองค์หญิงจะถูกหลอกดังนั้นหม่อมฉันจึงยังอยู่เพคะ…”
เสียงของนางกำนัลอ่อนแรงมาก “ตอนนี้ หม่อมฉันก็สามารถตามไปรับใช้จักรพรรดินีได้อีกครั้งแล้ว…”
“สามหาว!” เฉิงเฟยหยางตะโกนขึ้นอย่างโกรธเคือง ถ้าไม่ใช่เพราะนังชั้นต่ำนี้ จินหยางก็คงไม่รู้ทุกอย่างเร็วแบบนี้ดังนั้นเขาจึงระบายความโกรธทั้งหมดลงไปที่นางกำนัล “เจ้าเป็นนางกำนัลของอาณาจักรจินหยางแต่เจ้ากลับกล้าขัดคำสั่งข้า เจ้าสมควรตาย!”
ที่น่าตลกก็คือนางกำนัลผู้ไม่ได้สนใจชีวิตตัวเองอีกต่อไปแล้วดังนั้นนางจะกลัวคำขู่ของเฉิงเฟหยางไปทำไม
จินหยางสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่อ่อนแรงของนางกำนัล นางจึงวางตัวอีกฝ่ายลงอย่างอ่อนโยนแล้วหันสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังไปที่เฉิงเฟยหยาง
“กลายเป็นว่าท่านเองที่เป็นคนนำสำนักอิสระไปที่ป่าบททดสอบสวรรค์ เพื่อประโยชน์ของตัวเองท่านเลือกสังหารอัจฉริยะทั้งหมดของสี่อาณาจักรแล้วกลายเป็นข้ารับใช้ของสำนักอิสระงั้นหรือ” หน้าอกของจินหยางอึดอัดและรู้สึกถึงความอยุติธรรม “เฉิงเฟยหยาง ข้าจะบอกอะไรให้ท่านฟัง ไม่มีทางที่ข้าจะแต่งงานกับสำนักอิสระ! ฝันไปเถอะ!”
จินหยางโกรธจจนถึงขั้นที่เรียกเขาด้วยชื่อในขณะที่ความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในดวงตาของนาง
ปัง!
จู่ๆ ประตูก็ระเบิดออก
เฉิงเฟยหยางขมวดคิ้วแล้วหันไปก็เห็นร่างที่เดือดดาลพุ่งเข้ามาในห้องอย่างเร่งรีบ คนที่เข้ามาคือหญิงสาวงดงามผู้หนึ่ง แต่นางดูราวกับนางผ่านสมรภูมิรบและถูกทุบตีมาอย่างหนัก
“แม่นางหลั่ง?” เฉิงเฟิยหยางสะดุ้ง
สตรีผู้นี้คือหลั่งซินเยว่ สตรีที่มากับประมุขสำนักอิสระในครั้งแรกที่เขามาที่นี่ เหตุใดนางถึงดูบาดเจ็บหนัก แล้วนางมาที่นครเฟิงอวิ๋นในเวลาแบบนี้ทำไม
หลั่งซินเยว่ขมวดคิ้ว “ข้ามาเอาตัวองค์หญิงจินหยาง!”
“ท่านประมุขได้มารับจินหยางหรือไม่” น้ำเสียงเคารพของเฉิงเฟยหยางดังขึ้นอย่างชัดเจนราวกับกลางวัน “พวกเรารอท่านมาสักพักแล้ว ท่านพาจินหยางไปได้เลย”
หลั่งซินเยว่ส่งเสียงขึ้นจมูกแต่ไม่ได้ตอบอะไรเฉิงเฟยหยาง ถ้านางไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้ตัวจินหยางอยู่ล่ะก็ นางก็ไม่เสียเวลามาเอาตัวอีกฝ่ายไปหรอก
“ข้าไม่ไป” จินหยางพูดอย่างเย็นเยียบแล้วกำลังกดเจตนาสังหารที่วิ่งวนอยู่ภายในตัวนางเอาไว้
เมื่อไม่มีเสด็จแม่เป็นตัวประกัน พวกเขาคิดว่าจะบังคับนางได้หรือ
“จินหยาง พ่อขอร้องเจ้า” ใบหน้าของเฉิงเฟยหยางเต็มไปด้วยความอ้อนวอน “พ่อของเจ้าดูแลเจ้าดั่งไข่มุกในมือและรักเจ้ามาก เจ้าจะทนปล่อยให้พันธมิตรระหว่างสำนักอิสระกับพ่อต้องล่มไปงั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าควรรู้ว่าบิดามารดาของเจ้ามีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจเรื่องงานแต่งงานของเจ้า”
ตอนที่ 1995 อวิ๋นลั่วเฟิงถูกหลอก (1)
บิดามารดาของนางมีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของนางงั้นหรือ สุดท้ายนางก็ไม่สามารถหลบหนีชะตากรรมไปได้งั้นหรือ
หัวใจของจินหยางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม นางกำหมัดแน่นแล้วเงยหน้าอย่างดื้อดึง “แล้วถ้าข้าปฏิเสธล่ะ”
“จินหยาง พ่อของเจ้าเลี้ยงดูเจ้ามาจนถึงตอนนี้และยังรักเจ้ามากแบบที่คนอื่นไม่มีทางได้สัมผัส ถึงแม้จะเป็นแค่การตอบแทนที่พ่อเลี้ยงเจ้ามา เจ้าก็ควรตามแม่นางหลั่งออกไปเสีย”
จินหยางอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น หัวใจของนางถูกปกคลุมไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด
สิ่งที่นางหวังไม่มีอะไรเลยนอกจากได้เกิดในตระกูลธรรมดา! คงจะดีกว่าต้องมาเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้แต่งงาน…
“ข้าเข้าใจแล้ว”
สักพักใหญ่ หมัดที่กำอยู่ของนางก็คลายออกและใบหน้างามของนางก็เต็มไปด้วยความเย็นชาและหยิ่งทระนง “ในเมื่อท่านอยากให้ข้าแต่งงานกับประมุขสำนักอิสระ ข้าก็จะทำตามที่ท่านพูด ข้าจะคิดซะว่านี่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงข้ามาก็แล้วกัน! ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราในฐานะบิดาและบุตรสาวจะเป็นเหมือนเส้นผมพวกนี้…”
นางกำผมไว้เแล้วใช้กระบี่ในมือตัดออก เส้นผมร่วงลงไปที่พื้นอย่างสง่างามเหมือนกับความมุ่งมั่นในความคิดของนาง
“ข้อผูกมัดทั้งหมดถูกตัดขาดแล้ว!”
คำเหล่านี้พูดด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวจนทำให้หัวใจของเฉิงเฟยหยางปวดหนึบด้วยความเจ็บปวด เขารู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เขาเสียบุตรสาวที่เขาภาคภูมิใจไปอย่างสมบูรณ์
“จินหยาง อย่าโทษพ่อเลย พ่อไม่มีทางเลือก”
ไม่มีทางเลือกงั้นหรือ
จินหยางส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยดวงตาที่เป็นประกายเยาะเย้ย “ท่านมีทางเลือก แต่ก็แค่สำหรับท่านแล้วฐานะของท่านมีความสำคัญมากกว่าเสด็จแม่กับข้า!”
เฉิงเฟยหยางไม่ได้ปฏิเสธเพราะจินหยางพูดถูกแล้ว เมื่อคนผู้หนึ่งได้ขึ้นมามีฐานะสูงส่งครั้งหนึ่งแล้ว เขาก็ไม่มีทางยอมร่วงลงมาจากจุดนั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เป็นคนที่ทนการพ่ายแพ้ไม่ได้เช่นนี้
“อีกอย่าง…” จินหยางหยุดพูดไปชั่วครู่ “ข้าไม่ใช่องค์หญิงจินหยางหรือบุตรสาวของตระกูลเฉิงอีกต่อไปแล้ว ข้าจะใช้สกุลตามเสด็จแม่คือเหลียนเยว่ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปชื่อของข้าคือ—เหลียนเยว่เซิง!”
หลังจากที่พูดจบ จินหยางก็สะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป แผ่นหลังของนางตั้งตรง ดวงตาก็มุ่งมั่นปราศจากท่าทีหวั่นไหว
เมื่อเห็นร่างที่จากไปของจินหยาง ขาของเฉิงเฟยหยางก็อ่อนแรง เขารู้ว่าครั้งนี้เขาสูญเสียครอบครัวไปมาก…
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกไม่ใช่หรือ เขาจะสามารถกลายเป็นศัตรูกับสำนักอิสระได้จริงๆ หรือ ตอนนี้ในแคว้นนี้จะมีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับสำนักอิสระได้กัน
…
อวิ๋นเซียวและอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้เตร็ดเตร่อยู่นอกนครเฟิงอวิ๋นนาน พวกเขาไม่รอให้ทหารรักษาการณ์ตรงประตูได้ทันตั้งตัวก็พุ่งเข้าไปด้านในแล้วมุ่งตรงไปที่จุดพักทันที
ตอนนี้เฉิงเฟยหยางก็เก็บข้าวของและจากไปกับคนของเขานานแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงหาทั่วทั้งจุดพักก็พบเพียงนางกำนัลคนหนึ่ง ก็คือเสี่ยวจวี๋ที่กำลังสลบเพราะอาการบาดเจ็บรุนแรง
นางป้อนสมุนไพรพลังฌานให้เสี่ยวจวี๋เพื่อที่จะสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นในนครเฟิงอวิ๋น
เสี่ยวจวี๋ตื่นขึ้นช้าๆ ความคิดของนางยังคงมึนงงเมื่อนางได้ยินเสียงร้ายกาจของอวิ๋นลั่วเฟิง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าองค์หญิงจินหยางจากอาณาจักรจินหยางไปที่ไหน”
องค์หญิง?
เสี่ยวจวี๋พูดสั้นๆ แล้วจากนั้นความกังวลก็ปกคลุมใบหน้าของนาง “องค์หญิงถูกสตรีจากสำนักอิสระพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ!”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะถูกเฉิงเฟยหยางทำให้บาดเจ็บแต่นางก็ยังเห็นสตรีผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในระหว่างช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วพาองค์หญิงจินหยางไป ฝ่าบาทพูดว่าสตรีผู้นั้นเป็นหนึ่งสมาชิกสำนักอิสระ…
“อวิ๋นเซียว จินหยางเตือนข้าดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้าต้องไปช่วยนาง!” อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้ามอง “ยิ่งไปกว่านั้น สำนักอิสระยังทำร้ายท่านแม่ด้วย”