ตอนที่ 2062 อวิ๋นรั่วสุ่ยและอู๋เหยียน (4)
อู๋เหยียนรีบคุกเข่าลงทันทีด้วยท่าทางเคารพ “อู๋เหยียนจะใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องคุณหนูใหญ่ในอนาคต!”
ด้วยคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงทำให้แม้แต่ชื่อที่เขาเรียกก็เปลี่ยนไปด้วยความปิติยินดี
“ก่อนที่ข้าจะปลดผนึกให้เจ้า ข้ามีบางอย่างที่อยากจะถาม เจ้ามาจากที่ไหนแล้วเหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่แดนลับแล”
อู๋เหยียนยืนขึ้นแล้วเผยสีหน้าอันซับซ้อน “ข้ามาจากแผ่นดินเทพวิญญาณ! ส่วนเหตุผลที่ข้ามาปรากฏตัวที่แดนลับแลก็เพราะข้าถูกใครบางคนกล่าวหา”
อย่างที่คิดเลย…ตอนที่นางเจออู๋เหยียนครั้งแรก อวิ๋นลั่วเฟิงยังไม่เคยเจอคนจากแผ่นดินเทพวิญญาณและไม่รู้ว่ามีแผ่นดินนี้อยู่ เมื่อตอนนั้นนางจึงไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
แต่ทันทีที่อู๋เหยียนก้าวเข้ามาในห้อง นางก็สังเกตเห็นกลิ่นอายของเขาที่ดูคล้ายฉินลั่วและพวกคนที่มาจากตระกูลฉิน
“อวิ๋นเซียว ดูเหมือนว่าการออกเดินทางของพวกเราอาจต้องเลื่อนออกไป” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วมองบุรุษที่อยู่ข้างกายนาง นางยิ้มบางแล้วพูดว่า “ข้าจำเป็นต้องปลดผนึกให้อู๋เหยียนก่อน…”
สีหน้าของอวิ๋นเซียวอ่อนโยนมากขณะที่ร่างของสตรีผู้หนึ่งสะท้อนอยู่ในดวงตาสีดำสนิทของเขา
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย “ข้าจะรอท่าน”
ข้าจะรอท่านเดินทางไปแผ่นดินเทพวิญญาณด้วยกัน…
“สุ่ยเอ๋อร์ เจ้าออกไปก่อนเถอะ” เมื่อเห็นท่าทีไม่เต็มใจของอวิ๋นรั่วสุ่ย นางก็หรี่ตาแล้วสำรวจเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างนาง
ร่างของเขาตั้งตรงคล้ายกับลำต้นของต้นไม้ที่ดูเด็ดเดี่ยว
“เจ้าค่ะ…” อวิ๋นรั่วสุ่ยเม้มปากอ่อนนุ่มของนางและเดินออกไป หลังจากส่งสายตาให้อู๋เหยียนเป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างทางนางยังช่วยอวิ๋นลั่วเฟิงปิดประตูด้วย…
“อู๋เหยียน” อวิ๋นลั่วเฟิงเอามือกอดอกแล้วมองท่าทางเด็ดเดี่ยวของเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง “ตอบข้ามาตามตรง ระหว่างเจ้ากับสุ่ยเอ๋อร์…มีความสัมพันธ์กันแบบไหน”
อู๋เหยียนสับสนอยู่ครู่หนึ่งเพราะอาจจะไม่ได้คิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะถามเรื่องนี้ เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบคำถาม “สุ่ยเอ๋อร์ยังเด็กและข้าก็มองนางเป็นแค่น้องสาวมาตลอด”
ถึงแม้ว่าเขาจะตอบแบบนั้นแต่อวิ๋นลั่วเฟิงก็สังเกตเห็นสายตาลังเลพาดผ่านดวงตาของเขา
“อย่างนั้นหรือ” นางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าก็ไม่ได้อายุมากกว่าสุ่ยเอ๋อร์สักเท่าไหร่ เจ้าดูแลนางเหมือนน้องสาวจริงหรือ”
อู๋เหยียนก้มหน้าแล้วไม่ได้ตอบคำถาม พูดตามตรงเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เขารู้แค่ว่าเขารู้สึกสบายใจมากเวลาอยู่กับอวิ๋นรั่วสุ่ย
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้ากับสุ่ยเอร์จะพัฒนาควาสัมพันธ์ไปทางไหน แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะจำสิ่งนี้ไว้” อวิ๋นลั่วเฟิงยืนขึ้นช้าๆ แล้วเดินเข้าไปใกล้เขา “บุตรสาวตระกูลอวิ๋นของข้าไม่ได้แต่งออกไปง่ายๆ ถ้าเจ้าอยากแต่งงานกับนาง เจ้าต้องแข็งแกร่งพอจะปกป้องนางและห้ามให้นางเป็นอันตรายแม้แต่นิดเดียว!”
คำขอของอวิ๋นลั่วเฟิงคือนางจะไม่มีทางยอมหลบอยู่ข้างหลังอวิ๋นเซียว แต่นางจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา
แต่ว่านางพยายามอย่างหนักที่จะป้องกันไม่ให้คนในครอบครัวได้รับอันตราย ถ้าสุ่ยเอ๋อร์โดยทำร้ายหลังจากที่ยกให้อู๋เหยียนแล้ว การให้สุ่ยเอ๋อร์อยู่ข้างนางก็คงดีกว่า นางจะได้ปกป้องอีกฝ่ายไปตลอดชีวิต
“ข้าจะปกป้องสุ่ยเอ๋อร์” สีหน้าของอู๋เหยียนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขณะที่พูดอย่างริงจัง
“ข้าไม่สนว่าเบื้องหลังเจ้าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าเจ้าจะมาจากที่ไหน ถ้าอยากแต่งงานกับครอบครัวของเราเจ้าห้ามรับอนุภรรยาโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะถอนรากถอนโคนทุกความรู้สึกที่สุ่ยเอ๋อร์มีต่อเจ้า!”
ตอนที่ 2063 อวิ๋นรั่วสุ่ยและอู๋เหยียน (5)
อวิ๋นรั่วสุ่ยเป็นบุตรสาวของท่านอาและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนาง ต่อให้นางไม่ได้ติดต่อสุ่ยเอ๋อร์มาหลายปี นางก็ยังนับอีกฝ่ายเป็นน้องสาวดังนั้นนางจะยอมปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายอีกฝ่ายได้อย่างไร
เมื่อคิดถึงครอบครัวของตัวเอง เขาก็หยุดไปครู่หนึ่งแล้วตอบคำถามของอวิ๋นลั่วเฟิง “ถ้าในอนาคตสุ่ยเอ๋อร์กับข้าตกหลุมรักกัน ข้าจะต่อสู้เพื่อการนั้นเอง”
“แล้วถ้าเจ้าทำไม่ได้ล่ะ” นางหรี่ตาแล้วถามต่อ
“ถ้าข้าทำไม่ได้ ข้าจะมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอวิ๋นในฐานะลูกเขยที่แต่งเข้ามา” เขาพูดอย่างมุ่งมั่น
ถ้าเป็นคนพวกนั้นต่อต้านเขาหรือบังคับให้เขารับอนุภรรยา เขาจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่ออยู่เคียงข้างนางตลอดไป
“ได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ ถ้าเจ้าผิดคำพูดล่ะก็…” ตอนที่นางพูด อวิ๋นเซียวที่โอบกอดนางอยู่ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมา
เมื่ออยู่ภายใต้กลิ่นอายกดดันอันทรงพลังก็ทำให้อู๋เหยียนหน้าซีด ร่างกายของเขาโงนเงนแต่เขามุ่งมั่นที่จะยืนขึ้นด้วยดวงตาแน่วแน่
“นี่เป็นข้อเรียกร้องของข้าจากเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าเองก็คงรู้ว่าสุ่ยเอ๋อร์เป็นบุตรสาวคนเดียวของท่านอาและท่านอาหญิง ถ้าในอนาคตเจ้าอยากแต่งงานกับนาง เจ้ายังต้องได้รับคำอนุญาตจากพวกเขา แต่ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องในอนาคต ตอนนี้ให้ข้าได้ปลดผนึกร่างกายเจ้าก่อน”
“ตกลง” ดวงตาของอู๋เหยียนเป็นประกาย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสุ่ยเอ๋อร์ก็ค่อยคิดในอนาคต
ถึงแม้ตอนนี้เขาชื่นชมสุ่ยเอ๋อร์อยู่แต่ก็แค่นั้น ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะพัฒนาไปทางไหนไม่ใช่หรือ แล้วอีกอย่างเรื่องที่สำคัญกว่านั้นก็คือผนึกที่อยู่ในร่างเขานั่นล่ะ
…
ผนึกในตัวเขาสร้างปัญหาให้มากกว่าที่คิด คนที่ผนึกเขาเองก็ทรงพลังมาก ถ้าเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงในอดีตคงไม่สามารถทำลายผนึกนี้ได้ แต่ตอนนี้นางผ่านด่านเป็นเซียนจักรพรรดิแล้ว
สำหรับนางแล้วผนึกนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มในการทำลายผนึกนี้…
เช้าตรู่วันต่อมา
เขาเดินออกจากห้องของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วสัมผัสได้ถึงพลังฌานที่วนเวียนอยู่ในโลกนี้ และร่างกายของเขาก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จนทำให้เขาเผยยิ้มงดงามออกมา
“ครั้งนี้ข้าไม่มั่นใจว่าข้าจะกลับมาเมื่อไหร่หลังจากที่ออกไปกับคุณหนูใหญ่” ใบหน้าอ่อนเยาว์และน่าเอ็นดูของอวิ๋นรั่วสุ่ยปรากฏขึ้นในความคิดของอู๋เหยียน และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา “ดังนั้นข้าต้องไปกล่าวอำลานางก่อน”
การตามหาตัวอวิ๋นรั่วสุ่ยง่ายมาก อู๋เหยียนเห็นเสี่ยวรั่วสุ่ยนั่งอยู่ที่ลำธารเล็กๆ ด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
แขนของอวิ๋นรั่วสุ่ยเท้าอยู่บนพื้นขณะที่เท้าเล็กๆ ของนางอยู่ในลำธารเย็นจัดราวกับน้ำแข็ง ใบไม้ที่ร่วงลงมากระจัดกระจายลงบนใบหน้าดุจหยกของนาง
“สุ่ยเอ๋อร์” จู่ๆ ก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังทำให้นางผุดลุกขึ้นทันที จากนั้นนางก็เห็นเด็กหนุ่มมาอยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “อากาศยังเย็นอยู่เลย ถ้าเจ้าเป็นหวัดล่ะ”
อวิ๋นรั่วสุ่ยหน้าซึมราวกับว่านางเป็นเด็กที่ทำความผิด “ท่านพี่อู๋เหยียน ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าผิดไปแล้ว”
ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะอวิ๋นลั่วเฟิงถามคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา เขาจึงรู้สึกอยากจุมพิตนางสักทีเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยสำนึกผิดอย่างน่าเอ็นดู
เด็กหนุ่มตกใจกับความคิดที่แล่นอยู่ในสมองตัวเองจึงรีบหันหน้าหนีด้วยความกระอักกระอ่วน ด้วยเกรงว่าเขาจะเผลอทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้น