ตอนที่ 2066 แผ่นดินเทพวิญญาณ (2)
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองชายวัยกลางคนที่หน้าซีดเผือดแล้วพูดขึ้นช้าๆ “ท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า หงหลวนตายเพื่อครอบครัวของข้า และข้าก็ควรทำทุกอย่างเพื่อนาง! ในอนาคต ถ้าเมืองบูรพาต้องเผชิญกับอันตรายใดๆ ท่านสามารถไปขอความช่วยเหลือที่ตระกูลจวินได้! …
…ในเมื่อหงหลวนตายเพื่อปกป้องครอบครัวของข้า ครอบครัวของข้าเองก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องท่าน!”
หงหลิงอาจยังไม่รู้ว่าเพราะการเสียสละของหงหลวน จึงทำให้เมืองบูรพารอดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดในอนาคตด้วยการปกป้องจากตระกูลอวิ๋น
ในเมื่อหงหลิงไม่อยากได้ผลไม้อีกสองผล อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ได้บังคับ นางเก็บผลไม้ทั้งสองผลแล้วกล่าวลาหงหลิงก่อนจะออกมาพร้อมอวิ๋นเซียว
หงหลิงยืนอยู่ที่ประตูเงียบๆ แล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงจากไป เขายืนตรงนั้นอยู่นานก่อนจะได้สติกลับมา…
“ท่านเจ้าเมือง เหตุใดท่านถึงปฏิเสธผลไม้อีกสองผล” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดด้วยความโกรธ
โอกาสที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วแต่หงหลิงกลับปฏิเสธ แล้วในใจพวกเขาจะไม่ขุ่นเคืองอีกฝ่ายได้อย่างไร
“ใช่แล้ว ท่านเจ้าเมือง ท่านเองก็รู้ดีว่าตอนนี้จวนเจ้าเมืองบูรพาของพวกเราต้องเพิ่มความแข็งแกร่งแล้วเหตุใดท่านถึงปฏิเสธโอกาสดีๆ แบบนี้ ท่านต้องรู้ว่าผลไม้นั่นสร้างผู้ฝึกฌานขั้นเซียนขึ้นมาได้! การมียอดฝีมือขั้นเซียนเพิ่มในจวนของพวกเราอีกสองสามคนไม่ใช่ว่าท่านจะได้ประโยชน์หรอกหรือ”
ผู้อาวุโสอีกคนแสดงสีหน้าไม่พอใจ ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นเจ้าเมือง เขาคงสบถใส่หน้าไปแล้ว เขาเคยเห็นคนโง่มาก่อนแต่ก็ไม่มีใครโง่ขนาดนี้
หงหลิงถอนสายตากลับตาแล้วดวงตาคมดุจมีดของเขาก็กวาดมองผู้อาวุโสพวกนั้นด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนริมฝีปาก
“อย่าลืมว่าในอดีตเจ้าพยายามให้หงหลวนไล่ตระกูลอวิ๋นออกไปตอนที่พวกเขากำลังอาศัยอยู่ที่นี่! ถ้าตระกูลอวิ๋นออกไปจริงๆ เจ้าคิดว่านางจะยังเหลือโอกาสนี้ไว้ให้พวกเราอีกหรือ”
ผู้อาวุโสเงียบไปทันที หลังจากผ่านไปสักพักใหญ่ เขาก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “แต่ไม่ใช่ว่าสุดท้ายแล้วตระกูลอวิ๋นก็ได้อยู่หรอกหรือ คุณหนูใหญ่โยนชีวิตตัวเองทิ้งเพื่อพวกเขาและพวกเราก็สมควรได้รับผลไม้นั้น”
ดวงตาของหงหลิงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ข้อแรก หงหลวนยินดีสละชีวิตตัวเองและไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนอะไร ข้า หงหลิง ไม่ใช่คนที่บีบบังคับคนอื่นด้วยบุญคุณ ข้อสอง…เหตุผลที่ตระกูลอวิ๋นอาศัยอยู่ในจวนของเราก็เพราะหงหลวนเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนและพวกเจ้าก็ไม่มีความสามารถพอจะใช้กำลังไล่พวกเขาออกไป! ถ้านางมีความแข็งแกร่งเท่าเมื่อสองสามปีก่อน พวกเจ้าจะยอมให้ตระกูลอวิ๋นอยู่หรืออย่างไร”
ผู้อาวุโสทั้งหมดเงียบไปทันที ที่เจ้าเมืองพูดคือความจริง เหตุผลที่พวกเขาไม่ได้ไล่ตระกูลอวิ๋นออกไปก็เพราะความแข็งแกร่งของคุณหนูใหญ่และพวกเขาก็ไม่กล้าต่อต้านนาง แต่ว่าถ้าคุณหนูใหญ่ไม่ได้บังเอิญโชคดีผ่านด่านเป็นเซียนล่ะก็ พวกเขาก็น่าจะไม่มีทางปล่อยให้ตระกูลอวิ๋นอยู่…
“ตอนนี้ เจ้ามีสิทธิ์มาขอผลเขฬะมังกรงั้นหรือ” หงหลิงถือผลไม้ไว้แล้วมองมนุษย์ที่มีสีหน้าโลภมากตรงหน้าเขาอย่างดูถูก
เมื่อสังเกตเห็นว่าสายตาของพวกเขาจับจ้องมือของเขาอยู่ ความเย็นเยียบในดวงตาของเขาก็เข้มขึ้น “อะไร พวกเจ้าคิดจะร่วมมือกันเพื่อขโมยผลไม้งั้นหรือ เจ้าไม่กลัวว่าตระกูลจวินจะมาแก้แค้นหรือ ถึงอย่างไรผลไม้นี้ แม่นางอวิ๋นก็มอบให้ข้าด้วยตัวเอง”
คำพูดของเขาตั้งใจสื่อว่า ถ้ากล้าขโมยผลไม้ของเขาไปและตระกูลจวินรู้เข้าล่ะก็ ตระกูลจวินไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปแน่
อย่างที่คิด…เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของหงหลิง มุมปากของพวกเขาก็กระตุก แล้วก็ไม่มีใครกล้าขโมยในมือหงหลิงอีก ยิ่งไปกว่านั้น…
ตอนที่ 2067 แผ่นดินเทพวิญญาณ (3)
หงหลิงเป็นเจ้าเมืองของพวกเขา และพวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม!
“ท่านเจ้าเมือง ท่านเข้าใจพวกเราผิดแล้ว พวกเราจะไปขโมยผลเขฬะมังกรจากท่านได้อย่างไร ข้าพูดไปตั้งแต่แรกแล้วว่าข้าอยากให้จวนเจ้าเมืองของพวกเราแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่เพราะความเห็นแก่ตัวของข้า ข้าขอให้ท่านเข้าใจด้วย”
เพื่อจวนเจ้าเมืองงั้นหรือ หัวใจของหงหลิงยิ่งเย็นเยียบขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายน่าขนลุกอีกครั้ง แล้วกวาดสายตาไปที่ใบหน้าไร้ยางอายของคนเหล่านี้ก่อนจะเดินเข้าไปในสวนของจวน…
ตอนนี้ลำไส้ของพวกเขาบิดเพราะความเสียใจ ถ้าตอนนั้นพวกเขาไม่ได้คัดค้านคุณหนูใหญ่หัวชนฝา ไม่แน่ท่านเจ้าเมืองอาจไม่โหดร้ายแบบนี้
ความจริงแล้วพวกเขาทั้งหมดเข้าใจหงหลิงผิด
ที่เขาไม่ยอมรับคนพวกนี้ไม่ใช่เพราะการต่อต้านอย่างหนักของพวกเขา เพราะวัตถุประสงค์ของพวกเขาก็พูดได้ว่าทำเพื่อจวนเจ้าเมือง แต่ว่า…หลังจากที่หงหลวนตาย พวกเขาไม่ได้เสียใจกับการตายของนาง กลับเอาแต่คิดจะประจบประแจงอวิ๋นลั่วเฟิง
ถ้าพวกเขาอยากจะเอาใจอวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่เป็นไร แต่ปัญหาก็คือวิธีที่พวกเขาปฏิบัติกับนางก่อนหน้านี้ต่างหาก! การมาทำตัวแบบนี้ตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นพวกปากว่าตาขยิบหรอกหรือ
แค่ไม่ไล่พวกเขาออกจากจวนเจ้าเมืองบูรพาก็นับว่าปฏิบัติกับพวกเขาอย่างดีแล้ว ดังนั้นเขาจะยอมช่วยคนพวกนี้ให้ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างไร
…
แน่นอนว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนเจ้าเมือง หลังจากที่นางจากไป นางก็มุ่งหน้าไปที่สำนักศึกษาเมืองประจิมกับอวิ๋นเซียวทันที ขณะที่อู๋เหยียนไล่ตามพวกเขาอยู่ด้านหลังเงียบๆ
ภายในสำนักศึกษาเมืองประจิม ตอนนี้ซวีคงกำลังสอนศิษย์แล้วบังเอิญเจออวิ๋นลั่วเฟิงเดินเข้ามาทำให้ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที
“แค่กๆ” เสวี่ยอิงไอเบาๆ และพูดกับคนที่เขากำลังสอนจนกระทั่งเด็กหนุ่มไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธ “อู๋ฟัง ออกไปก่อน”
“ขอรับ ผู้อาวุโสเสวี่ยอิง” ชายหนุ่มที่ชื่ออู่เฟิงผ่อนคลายแล้วเดินออกจากห้องทำงานของผู้อาวุโส
ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่ได้ยินแต่เขาก็ได้ยินเสียงผู้อาวุโสซวีคงระเบิดหัวเราะดังลั่น
“เฟิงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่”
ฝีเท้าของอู๋ฟังหยุดอย่างสงสัย เขารู้จักนิสัยของอาจารย์ของเขาดีและเมื่อไหร่กันที่เขาหัวเราะได้อย่างสบายใจแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สตรีที่ชื่อเฟิงเอ๋อร์คนนี้มีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่
“ทำไม” เสวี่ยอิงหันไปว่าซวีคง “เฟิงเอ๋อร์กลับมาเยี่ยมพวกเราไม่ได้หรืออย่างไร”
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ข้าก็แค่ไม่คิดว่าศิษย์รักของข้าจะกลับมาและข้าก็แค่แปลกใจเกินไป…” ซวีคงลูบจมูกและอธิบายเสียงอ่อน
อู๋ฟังที่ออกจากห้องทำงานผู้อาวุโสไปแล้วก็ชะงักทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสซวีคง
เฟิงเอ๋อร์?
แล้วยังเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสทั้งหลายด้วยงั้นหรือ หรือว่านางจะเป็นอัจฉริยะไร้คู่แข่งอวิ๋นลั่วเฟิงคนนั้นที่สามารถสั่นสะเทือนทั้งโลกได้
หัวใจของอู๋ฟังกระตุกทันที เขาระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ไม่ได้
พระเจ้า อัจฉริยะคนนั้นเป็นศิษย์ของสำนักพวกเขาจริงๆ และเขายังได้เจอนางด้วย!
เขาอยากจะขอลายเซ็นนางจริงๆ …
แต่เมื่อนึกถึงนิสัยร้ายกาจของอาจารย์เขา สุดท้ายอู๋ฟังก็ไม่กล้าพอจะก้าวเข้าไปในห้องอีกครั้ง
“เฟิงเอ๋อร์เป็นคนที่ข้าคิดถึงมากที่สุด” จู่ๆ ซวีคงถอนหายใจ “ไม่เหมือนกับศิษย์ที่ข้าพึ่งรับมา ตอนนั้นข้าคิดว่าพรสวรรค์ของเขาดี ถึงแม้ว่าเขาจะเทียบกับเจ้าไม่ได้ แต่ใครจะไปคิดว่าเจ้าเด็กเลวนั่นจะเก่งแต่เรื่องสร้างปัญหา”