ตอนที่ 1354 การตื่นขึ้นของเสี่ยวไป๋ (4)
“ข้าลืม…” เสี่ยวโม่ลืมจริงๆ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดมากเมื่อคิดว่าเขาลืมเรื่องสำคัญขนาดนี้ไป!
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแล้วเดินไปหาเสี่ยวไป๋ นางย่อตัวลงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”
เด็กสาวมองหน้าด้วยสายตาว่างเปล่าแล้วถาม “ท่านเป็นใคร”
ท่านเป็นใครงั้นหรือ
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแน่นขึ้นแล้วหันไปหาเสี่ยวโม่ “นางสูญเสียความทรงจำงั้นหรือ”
“ตอนแรกข้าบอกแล้วว่าวิญญาณของนางยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ แล้วการตื่นก่อนเวลาก็ยิ่งทำให้สติปัญญาไม่สมบูรณ์ ก็เลย…ทำให้นางสูญเสียความทรงจำทั้งหมด” เสี่ยวโม่ก้มหน้าด้วยความละอายใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เสี่ยวไป๋ก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาก่อนเวลาอันสมควร
“แล้วพวกเราจะแก้ไขได้อย่างไร” อวิ๋นลั่วเฟิงถามอย่างใจเย็น
“ต้องได้ผลไม้วิญญาณลูกที่สามมา!”
ผลไม้วิญญาณลูกที่สามงั้นหรือ ดูเหมือนว่า…นางต้องออกจากเมืองบูรพาก่อนกำหนดแล้ว!
“เสี่ยวโม่ ในเมื่อเสี่ยวไป๋ฟื้นแล้ว มิติคัมภีร์ก็คงไม่ยอมให้นางอยู่ที่นี่อีก ดังนั้นข้ามอบหมายให้เจ้าออกไปดูแลเสี่ยวไป๋ด้วย”
“อะไรนะ” เสี่ยวโม่ตะโกนอย่างวิตก “ท่าานต้องการให้ข้าดูแลเด็กปีศาจนี่หรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลื่อนสายตามาหาเขา ทำให้เสี่ยวโม่ตกใจจนตัวแข็ง อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเย็นเยียบแล้วจำใจพูดอย่างไม่พอใจ “ก็ได้ ข้าจะดูแลนางเอง…เป็นความผิดข้าเองที่ทำให้นางได้สติก่อนเวลา ดังนั้นข้าจะดูแลเป็นการชดเชย”
เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินคำพูดเขา นางก็ก้มหน้ามองเด็กสาวที่อยู่ข้างหน้านาง “เสี่ยวไป๋ เจ้าต้องจำข้าให้ได้ ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า!”
“อาจารย์?” เด็กสาวเบิกตากวางแล้วกะพริบตาปริบๆ “ท่านเป็นอาจรย์ของข้า แล้วข้าก็ชื่อเสี่ยวไป๋งั้นหรือ”
“ถูกต้อง เจ้าชื่อหลินรั่วไป๋!”
หลินรั่วไป๋…
เด็กสาวพึมพำเรียกชื่อชื่อตัวเองเบาๆ แล้วก็เผยรอยยิ้มสดใสกว่าแสงดวงอาทิตย์ ทำให้นางดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
“เข้าใจแล้ว ข้ามีชื่อว่า…หลินรั่วไป๋”
เสี่ยวโม่ไม่รู้ว่าทำไมแต่รอยยิ้มของนางทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะ
นางแตกต่างจากหลินรั่วไป๋ที่ดุร้ายและขี้แกล้งก่อนหน้านี้ ตอนนี้นางดู ไร้เดียงสาและน่าเอ็นดูเหลือเกิน! นางดูเหมือนน้องสาวข้างบ้านที่ทำให้อยากแสดงความอ่อนโยนให้นางเห็น เมื่อเสี่ยวโม่คิดถึงตรงนี้เขาก็ส่ายหน้าเพื่อสะบัดความคิดออกไป
ยังไงหลินรั่วไป๋ก็ยังเป็นหลินรั่วไป๋ ถึงแม้สติปัญญานางจะยังไม่สมบูรณ์ เขาก็ไม่มีทางตกหลุมรักสตรีคนนี้แน่!
“อาจารย์”
หลินรั่วไป๋ยืนขึ้นแล้วเกี่ยวแขนอวิ๋นลั่วเฟิง เหลือบตากลมโตสดใสขึ้นมองนางแล้วพูดอย่างอ่อนหวานนุ่มนวลว่า “เสี่ยวไป๋หิวแล้วเจ้าค่ะ…”
“หน้าไม่อาย!” เสี่ยวโม่ส่งเสียงขึ้นจมูก เขาเกลียดการที่หลินรั่วไป๋ทำตัวตัวน่ารักเพื่อรบกวนอวิ๋นลั่วเฟิง ตรงกันข้ามเขารู้สึกว่าหลินรั่วไป๋ที่ขี้แกล้งยังน่าชื่นชอบมากกว่า…
“เสี่ยวไป๋หมดสติไปนาน นางต้องหิวอยู่แล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงลูบศีรษะหลินรั่วไป๋แล้วเผยสายตาผ่อนคลาย “ไปกันเถอะ พวกเราจะพานางออกไปอะไรกินกัน”
“นายหญิง ข้าก็อยากไปด้วยเหมือนกัน” หั่วหั่วทำปากยื่นแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างแง่งอน
ถึงแม้ว่าเสี่ยวซู่จะไม่ชอบกินอาหารของมนุษย์แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ในมิติคัมภีร์เซียนคนเดียว ดังนั้นเขาเลยใช้แขนขาเกาะอวิ๋นลั่วเฟิงแน่นไม่ยอมให้นางไป
“ก็ได้ พวกเราไปกันหมดเลยก็แล้วกัน”
ต่อหน้าคนของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เคยใจร้ายนางเลยไม่ปฏิเสธคำขอของทุกคน
…
ตอนที่อวิ๋นลั่วเฟิงพทุกคนออกไปหาอะไรกินดิ่มเพื่อเฉลิมฉลอง เจ้าเมืองอุดร หลิงลี่ ก็นำกลุ่มคนมาที่จวนเจ้ามืองบูรพา
ตอนที่ 1355 การตื่นขึ้นของเสี่ยวไป๋ (5)
หงหลิงคาดเดาได้ว่ายังไงเหตุการณ์นี้ก็ต้องเกิดขึ้น เขาจึงส่งคนไปเรียกหงหลวนแล้วนั่งรอในห้องโถงรับรอง
สักพักชายวัยกลางคนก็เดินก้าวเร็วๆ นำเข้ามาในห้องโถงแล้วมาปรากฏตัวข้างหน้าหงหลิง
หงหลิงหัวเราะอย่างจริงใจ “เจ้าเมืองหลิง ในที่สุดท่านก็มาถึง ท่านมาได้เหมาะเจาะจริงๆ ข้ามีเรื่องจะบอกท่านพอดี” หงหลิงไม่รอให้หลิงลี่ได้พูดเขาก็พูดตรงเข้าประเด็น “ข้าอยากยกเลิกสัญญาการแต่งงานระหว่างทั้งสองเมือง”
“ยกเลิกตอนนี้งั้นหรือ” หลิงลี่หลุบตาต่ำแล้วรีบถาม “เจ้าเมืองหง ท่านหมายความว่าอย่างไร”
“เรื่องนี้ท่านควรถามนายน้อยของจวนท่านนะ” หงหลิงย้ายสายตาไปที่หลิงเฉินที่ก้มหน้าอยู่ “ข้าเชื่อว่าเขาจะให้คำอธิบายให้ท่านได้แน่”
เมื่อเห็นบุตรชายตัวเองมีสีหน้าเศร้าสร้อย หลิงลี่ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าแล้วพูดว่า “เจ้าเมืองหง ข้าเจอหลวนเอ๋อร์”
หงหลิงยิ้ม “ข้าให้คนไปตามนางแล้ว”
ไม่นานร่างที่สวมชุดแดงก็เดินเข้ามา สตรีผู้นี้มีรูปร่างไร้ที่ติ ทั้งดวงตารูปเม็ดอัลมอนด์ คิ้วคมและริมฝีปากสีแดงทำให้นางมีเสน่ห์อย่างยากจะอธิบาย
ตั้งแต่ที่หงหลวนก้าวเข้ามาในห้อง สายตาของหลิงเฉินก็จับจ้องไปที่นางโดยไม่ละสายตา เขามองนางด้วยสายตาสำนึกผิดอยู่ตลอดเวลา
“ท่านเจ้าเมืองหลิง ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือเจ้าคะ” หงหลวนหยุดแล้วหันไปหาหลิงลี่ “ท่านมาที่นี่เพื่อยกเลิกการแต่งงานใช่หรือไม่เจ้าคะ”
เมื่อได้ยินวิธีที่หงหลวนเรียกตัวเอง หลิงลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “หลวนเอ๋อร์ ปกติหลานเรียกลุงว่าท่านลุง เหตุใดวันนี้จึงเรียกห่างเหินนัก ลุงรู้ว่าบุตรชายลุงทำผิดต่อหลาน ลุงก็เลยพาเขามาขอโทษหลานโดยเฉพาะ! แล้วยังนำสตรีคนนั้น เซี่ยชูมาด้วย ตราบใดที่ทำให้หลานหายโกรธได้ นางจะถูกลงโทษตามเท่าที่หลานต้องการ!”
หงหลวนยิ้มเยาะ “ท่านเจ้าเมืองหลิงเจ้าคะ ครั้งหนึ่งหลิงเฉินและเซี่ยชูเคยมีบุตรด้วยกัน เหตุใดท่านยังคิดว่าข้าจะยอมรับเขาอีก”
สีหน้าเคร่งเครียดของหลิงลี่ดูไม่ได้ “เฉินเอ๋อร์เป็นบุรุษ ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเคยมีสตรีข้างกาย อีกอย่างลุงก็สัญญากับหลานแล้วว่าในอนาคต จวนเจ้าเมืองอุดรจะไม่ยอมให้มีสตรีคนใดปรากฏตัว หลานสบายใจได้”
เพื่อการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองบูรพา ครั้งนี้หลิงลี่จึงเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาโดยที่หลิงเฉินไม่ได้พูดอะไร หลังจากสิ่งที่เขาพบเจอจากเซี่ยชู เขาก็ตัดสินใจทำตามที่บิดาบอก
“ต้องขออภัยด้วย” หงหลวนเลิกคิ้ว “ข้ามีคติของตัวเองว่าจะไม่รับบุรุษที่ผ่านสตรีคนอื่นมาก่อน!”
“หงหลวน!” หลิงลี่ต่อว่าอย่งโกรธเคือง แต่ทันทีที่เขาตะโกนออกไป หงหลิงก็วางมือบนโต๊ะ ดวงตาฉายแววยโสและดุร้าย
“เจ้าเมืองหลิง เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไร บุตรสาวข้าใช่คนที่เจ้าจะมาตะคอกใส่ได้หรือ!”
หลิงลี่ได้ยินคำพูดเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดอารมณ์ขุ่นเคืองในใจเอาไว้ก่อนพูดต่อ “หลวนเอ๋อร์ ลุงหวังว่าหลานจะคิดให้ดี มีบุรุษไม่กี่คนที่ยอมมีสตรีเพียงคนเดียวทั้งชีวิต ไม่สิ ไม่มีเลยต่างหาก! แล้วหลิงเฉินก็ยอมไม่มีอนุสักคน ในอนาคตเขาก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นเหมือนกัน”
หลังจากหลิงลี่พูดจบ เขาก็ส่งสายตาแฝงความนัยให้หลิงเฉิน
หลิงเฉินเห็นสัญญาณก็ตอบสนองทันทีแล้วรีบพูด “ข้าสาบานว่าตราบใดที่หลวนเอ๋อร์ยินดีแต่งงานกับข้า ข้าจะไม่ยอมให้สตรีคนใดเข้ามาในจวนเด็ดขาด!”
เขากล่าวว่าเขาจะไม่ยอมให้สตรีคนใดเข้าจวนในขณะที่คำพูดของหลิงลี่ก่อนหน้านี้บอกว่าหลิงเฉินจะไม่รับอนุคนใดเข้ามา
ทั้งคู่ไม่มีใครมั่นใจว่าในอนาคตหลิงเฉินจะไม่หาสตรีคนอื่นเพิ่ม
บุรุษทั่วไปจะไม่มีความปรารถนาใดๆ ตอนเขาอยู่ห่างจากภรรยาได้อย่างไร ตราบใดที่หลิงเฉินไม่รับอนุ ก็ไม่เป็นไรที่เขาจะหาสตรีคนอื่นมาดับความปรารถนาในใจเขา…