ตอนที่ 2171 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (12)
“หนานกงอวิ๋นอี้!” ชายคนนั้นกำหมัดแน่นขณะที่ดวงตาแดงก่ำแล้วมองหนานกงอวิ๋นอี้ด้วยสายตาเดือดดาลโดยไม่ละสายตา “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณปู่ล่ะก็ จำไว้ว่าแกคือตัวการ และฉันจะไม่มีทางปล่อยแกไปแน่!”
หงหลวนที่ตอนแรกวิตกกังวลก็โมโหทันทีที่ได้ยินคำพูดของเขา “หนานกงกำลังรู้สึกเสียใจที่ท่านปู่หนานกงประสบอุบัติ ตอนนี้เจ้ายังพยายามจะผลักความรับผิดชอบให้เขาอีกหรือ”
หนานกงอวิ๋นอี้เงียบขณะที่หมัดที่กำแน่นของเขาค่อยๆ สั่น ดวงตาของเขายังไม่ละไปจากห้องฉุกเฉินเลยจนทำให้ดวงตาของเขาแดงก่ำ
“ฉันพูดอะไรผิดล่ะ” ชายคนนั้นส่งเสียงขึ้นจมูก “ก่อนหน้านี้ หลานเอ๋อร์โทรมาบอกฉันว่าถ้าไม่ใช่เพราะแกโทรเรียกคุณปู่ เขาก็คงไม่รีบออกมาหาแก แล้วก็คงไม่ประสบอุบัติเหตุแบบนี้”
หนานกงอวิ๋นอี้เลื่อนสายตาจากห้องฉุกเฉินแล้วใช้สายตาเย็นชามองชายคนนั้น “ผมน่ะหรือโทรเรียกคุณปู่”
“คุณพ่อค่ะ!” หนานกงหลานลุกขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “อันที่จริงแล้ว หนูก็ไม่มั่นใจว่าพี่เป็นคนโทรหาคุณปู่หรือเปล่า หนูรู้แค่ว่าหลังจากที่คุณปู่รับโทรศัพท์ เขาก็ตื่นเต้นแล้วบอกว่าพี่กลับมาแล้วและหุนหันจะออกไปหาเขา คุณปู่วิ่งออกไปและหนูก็ห้ามไม่ทัน…แต่ว่าเขาก็ถูกรถชนทันทีที่เขาออกไปไม่นาน ไม่แน่สายนั้นอาจจะไม่ได้มาจากพี่ก็ได้นะคะ”
หนานกงหลานขมวดคิ้วและเสแสร้งราวกับว่าเธอพยายามจะปกป้องหนานกงอวิ๋นอี้ แต่ว่าคำพูดของเธอก็สื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะสายเรียกเขานั้น คุณปู่ของพวกเขาก็คงไม่ต้องประสบอุบัติเหตุ
ตอนนี้พ่อของเธอกำลังโกรธจัด เขาต้องไม่สืบหาความจริงแน่นอนว่าที่จริงแล้วใครเป็นคนโทรมา ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ในอนาคตรู้แล้วอย่างไร เธอไม่ได้พูดตรงๆ ว่าหนานกงอวิ๋นอี้เป็นคนโทรและเรื่องทั้งหมดเป็นแค่การเข้าใจผิด
ปัง!
ชายคนนั้นต่อยหนานกงอวิ๋นอี้อย่างแรง แต่ก่อนที่เขาจะสัมผัสอีกฝ่าย เขาก็ถูกหงหลวนหยุดเอาไว้
นัยน์ตาของนางลุกโชนด้วยความโกรธขณะรอยยิ้มเยาะปรากฏบนใบหน้า “ข้าไม่เคยเจอบิดาแบบเจ้ามาก่อนเลย”
ตูม!
พูดจบนางก็เตะเข้าที่หน้าของชายคนนั้น และชายสูงเกือบสองเมตรก็กระเด็นลอยออกไปเพราะลูกเตะของนางทันที
“ที่รัก!”
“คุณพ่อ!”
หนานกงหลานและจ้าวเหม่ยเสวี่ยหน้าซีดด้วยความกลัวแล้วรีบวิ่งไปหาเขา เมื่อพวกเธอมองชายที่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับ พวกเธอก็จ้องหงหลวนอย่างเดือดดาล
“เร็วเข้า เรียกตำรวจมาจับผู้หญิงคนนี้ที่ทำร้ายสามีของฉัน!”
“ฉันอยากเห็นนักว่าใครกล้า!”
หนานกงอวิ๋นอี้ดึงหงหลวนเข้ามาด้านหลังเขาเพื่อปกป้อง ขณะที่ดวงตาของเขาแสดงความเสียใจ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมไม่อยากสู้กับคุณที่นี่ ไม่อย่างนั้นพวกคุณทุกคนก็คงยืนไม่ได้แล้ว!”
ไฟของห้องฉุกเฉินดับลงและเจ้าหน้าที่สองคนก็เข็นเตียงออกมา เมื่อเห็นชายชราที่นอนไม่ได้สติ ดวงตาของหนานกงอวิ๋นอี้ก็แดงก่ำขณะที่เขาเดินไปหาเตียง
“คุณปู่ ผมกลับมาแล้วครับ…” น่าเสียดายที่ผมมาช้าไป
แพทย์มองฝูงชนอย่างเฉยชาก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงทางการว่า “ที่นี่คือโรงพยาบาล ถ้าพวกคุณจะทะเลาะกันก็ไปสู้กันข้างนอก อย่ามาสร้างปัญหาข้างในนี้!”
อย่างที่คิด…คำพูดของแพทย์มีผลมากกว่า ชายคนนั้นลุกขึ้นมาโดยมีภรรยาของเขาพยุง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่จ้องหนานกงอวิ๋นอี้แต่เขาก็ยังเงียบ ถึงอย่างไรเหม่ยเสวี่ยก็เรียกตำรวจแล้ว และอาการบาดเจ็บของเขาก็เอาไว้รักษาหลังจากที่ตำรวจมาถึงได้
ตอนที่ 2172 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (13)
“ลั่วเฟิง?” ทันใดนั้นหงหลวนก็สัมผัสได้ถึงฝีเท้าด้านหลังและรีบหันไปมอง เมื่อเห็นร่างคุ้นเคยปรากฏตัว ใบหน้าของนางเผยความดีใจ “ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่เสียที”
อาจจะเป็นคำพูดของหงหลวนทำให้ในที่สุดหนานกงอวิ๋นอี้ก็ได้สติ ทันใดนั้นเขาก็ดึงแขนเสื้อของอวิ๋นลั่วเฟิง สีหน้าของเขาดูเหมือนกำลังไขว่คว้าหาที่พึ่งสุดท้าย…
“อวิ๋นลั่วเฟิง รีบช่วยท่านปู่ของข้าเร็ว มีแค่เจ้าเท่านั้นที่ทำได้!”
หนานกงหลานยิ้มเยาะ “นายไม่ได้ยินที่หมอบอกหรือไง ถ้าคุณปู่ทนผ่านคืนนี้ไปไม่ได้ก็หมดหวังแล้ว นายกล้าขอให้ผู้หญิงคนนี้ช่วยชีวิตคุณปู่งั้นเหรอ นายคิดว่าเธอเป็นฮัวโต๋ [1] กลับชาติมาเกิดหรือไง”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหนานกงอวิ๋นอี้ก็คงโจมตีนางแล้ว แต่ว่าเรื่องสำคัญตอนนี้คือให้อวิ๋นลั่วเฟิงช่วยท่านปู่ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจหนานกงหลานและมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาอ้อนวอน
“ได้” อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปชั่วครู่แล้วพยักหน้า “ข้าต้องการที่เงียบๆ และห้ามใครรบกวนข้าทั้งนั้น”
หนานกงอวิ๋นอี้รู้สึกมีความหวัง เขามั่นใจในความสามารถของอวิ๋นลั่วเฟิงมาก ต่อให้ตายสตรีผู้นี้ก็สามารถดึงกลับมาจากโลกหลังความตายได้
“คุณผู้หญิง ที่นี่คือโรงพยาบาล” เมื่อเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงผลักเตียง แพทย์คนหนึ่งก็ขมวดคิ้วและเดินเข้ามาขวางทางเธอ “ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะไม่รบกวนคนไข้”
“ไสหัวไป!” เสียงของอวิ๋นลั่วเฟิงเย็นชาจนทำให้แพทย์คนนั้นตัวสั่น
เขาไม่เคยคิดจะมีคนที่เย็นชาถึงขนาดนี้ แต่ว่าเมื่อนึกถึงตัวตนของชายชรา เขาก็กัดฟันพูด “ผมไม่สามารถปล่อยให้คุณทำอะไรที่เป็นอันตรายกับคนไข้ได้”
“อวิ๋นเซียว” เมื่อเห็นว่าอาการของชายชราไม่ค่อยดี นางก็เกียจคร้านเกินกว่าจะพูดกับแพทย์ที่ดื้อดึงคนนี้อีกแล้วเอ่ยปากเรียก
ตอนที่แพทย์คนนั้นตั้งใจจะพูดต่อ ร่างสีดำร่างหนึ่งก็มาปรากฏตัวข้างหน้าเขาและคว้าตัวเขาขึ้นคล้ายกับเหยี่ยวกำลังจับลูกเจี๊ยบและลากอีกฝ่ายออกไป…
ทุกคนตกตะลึง คนที่มาปรากฏตัวที่นี่วันนี้เป็นคนไม่ปกติกันหมดเลยงั้นหรือ
คนแรกก็ผู้หญิงในชุดคลุมสีแดงที่เตะท่านประธานหนานกงจนทำให้เขาลอยกระเด็นออกไป และตอนนี้ก็ผู้ชายที่สามารถยกตัวแพทย์ที่แข็งแรงคนหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ต่อให้พวกเขาเป็นนักยกน้ำหนัก พวกเขาก็ไม่น่าจะแข็งแรงขนาดนั้น
ตอนที่ทุกคนตะลึง อวิ๋นลั่วเฟิงก็ผลักเตียงของชายชราเข้าไปในห้องฉุกเฉิน…
“แค่กๆ!” ในที่สุด ชายที่ล้มกองอยู่บนพื้นก็ได้สติแล้วไอแห้งๆ ออกมา เขาตะโกนอย่างเดือดดาลใส่แพทย์และพยาบาล “พวกแกจะยืนอยู่ที่นี่เฉยๆ ทำไม พวกแกยอมให้คนที่ไม่มีแม้แต่ใบประกอบวิชาชีพรักษาพ่อฉันงั้นเหรอ ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ใครจะรับผิดชอบ”
ตั้งแต่ต้นหงหลวนไม่ได้สนใจสีหน้าของเขาแม้แต่น้อย บุรุษผู้นี้กังวลเกี่ยวกับชายชราจริงๆ เพราะท่านปู่หนานกงเป็นบิดาโดยสายเลือดของเขา ดังนั้นเขาจะไม่กังวลได้อย่างไร แต่ว่าจ้าวเหม่ยเสวี่ยและหนานกงหลานไม่ได้ดูเสียใจเลยแม้แต่น้อย กลับกันหลังจากที่ได้ยินว่าชายชราอาจจะทนผ่านวันนี้ไปไม่ไหว ร่องรอยความดีใจก็พาดผ่านใบหน้าของพวกนางแวบหนึ่ง
ใช่แล้ว ความสุข!
หงหลวนเริ่มครุ่นคิด ดูเหมือนว่าข้าจะต้องให้หนานกงไปสืบเกี่ยวกับอุบัติเหตุของท่านปู่เขา…
ตอนนั้นเองตำรวจกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาแล้วพูดอย่างเคร่งเครียดว่า “ก่อนหน้านี้ใครเป็นคนเรียกตำรวจมาครับ”
“ฉันเอง” จ้าวเหม่ยเสวี่ยกัดริมฝีปากแล้วพูดขึ้น ตอนนี้เองที่ตำรวจสังเกตเห็นชายคนนั้นและจ้าวเหม่ยเสวี่ย
“คุณชายหนานกง คุณหญิง ทำไมพวกคุณถึงมาอยู่ที่นี่ครับ”
——
[1] หมอฮัวโต๋ เป็นแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์จีน