ตอนที่ 2177 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (18)
“ไม่บ่อยนักที่เจ้าจะขอความช่วยเหลือจากข้าและในเมื่อเจ้าเอ่ยขอก็หมายความว่าจะต้องเป็นเรื่องสำคัญที่มีแค่หนูหาทองเท่านั้นที่ช่วยได้”
หลังจากผ่านมาหลายปี นางก็เข้าใจหงหลวนอย่างถ่องแท้และถ้าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายจริงๆ อีกฝ่ายก็คงไม่มาขอความช่วยเหลือจากนางแน่…
“ที่จริงแล้ว…” ดวงตาของหงหลวนสว่างวาบ “ข้ารู้สึกได้ว่าอุบัติเหตุของท่านปู่ของหนานกงอวิ๋นอี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น ข้าสงสัยว่าแม่เลี้ยงของเขาจะเป็นคนทำ ข้าเลยคิดจะใช้หนูหาทองตามพวกเขาแล้วแอบฟังบทสนทนาที่พวกเขาคุยกัน!”
อวิ๋นลั่วเฟิงกะพริบตา “เจ้าต้องการปากกาอัดเสียงหรือไม่”
“ปากกาอัดเสียง?” หงหลวนดูสับสน “คืออะไร”
“ข้าไม่สามารถอธิบายในระยะเวลาสั้นๆ ได้ เอาเป็นว่า ข้าจะส่งหนูหาทองพร้อมกับปากกาอัดเสียงไปให้เจ้า” ตอนที่หงหลวนต้องการคำอธิบาย เสียงสบถก็ดังขึ้นจากด้านหน้า
“เด็กชั้นต่ำพวกนี้มาจากไหนถึงกล้ามาตีลูกฉัน! วันนี้ฉันจะสั่งสอนแทนแม่แกเอง!”
หลังสิ้นเสียงตะโกนอย่างอารมณ์ร้าย เสียงดื้อดึงก็ดังขึ้น “ท่านแม่ของข้าสอนว่าเป็นความผิดของบิดาที่สั่งสอนบุตรพวกเขาไม่ดี บุตรชายเจ้าทำตัวมากตัณหาตั้งแต่อายุยังน้อยถึงขนาดต้องการจะลวนลามเทียนเอ๋อร์ ข้าแค่ผลักเขาออกไปและไม่ได้ทำอะไรผิดเลย!”
“ดี ดี แกยังกล้าเล่นลิ้นอยู่แบบนี้! วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”
…
สีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงมืดครึ้มขึ้นช้าๆ นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของนางมองตามไปยังจุดที่เกิดเสียง
บริเวณที่ไม่ไกลจากจุดที่นางอยู่มากก็เห็นอวิ๋นชูเทียนกำลังซ่อนอยู่ข้างหลังอวิ๋นเนี่ยนเฟิงขณะที่พวกเขาโดนล้อมเอาไว้ พวกเขากะพริบดวงตากลมใสซื่อแล้วจ้องไปที่สตรีอารมณ์ร้ายคนนี้
ผู้หญิงคนนี้อายุราวสี่สิบปีแล้วเธอก็อุ้มเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ในชุดอดิดาสอยู่ แต่ว่าตอนนี้เด็กผู้ชายคนนั้นกำลังร้องไห้จ้า
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ซุบซิบและชี้นิ้วไปยังผู้หญิงคนนั้นที่ทำตัวหน้าไม่อาย ขณะที่เธอเดินไปหวังจะคว้าตัวอวิ๋นเนี่ยนเฟิง…
เขากำหมัดแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะท่านแม่บอกเขาว่าเขาไม่สามารถสังหารคนในหวาเซี่ยเฉยๆ ได้ เขาคงจบชีวิตนางไปแล้ว!
พรึบ!
ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวตรงหน้าอวิ๋นเนี่ยนเฟิง จู่ๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งยื่นออกมาแล้วดึงอวิ๋นเนี่ยนเฟิงกับอวิ๋นชูเทียนเข้าไปในอ้อมกอด ผู้หญิงคนนั้นหยุดไม่ทันทำให้เธอล้มลงไปที่พื้น
ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะของพวกเขาทำให้เธอโกรธจัดเพราะความอับอาย
เธอรีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็วขณะที่จ้องชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำตรงหน้านางอย่างมาดร้าย
“สามีของฉันเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนี้ แกกล้าทำร้ายฉันตรงหน้าโรงพยาบาลงั้นหรือ ฉันจะให้สามีฉันไล่ครอบครัวของแกออกจากโรงพยาบาล!”
ที่นี่เป็นเขตพักฟื้นของโรงพยาบาลดังนั้นคนที่มาที่นี่ก็ต้องมาเยี่ยมคนไข้ ในเมื่อสามีของเธอมีอำนาจระดับสูง เขาก็สามารถหาข้ออ้างไล่พวกเขาออกไปได้ไม่ยาก
จากนั้นเสียงกระจ่างใสก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “ภรรยาของอาจารย์ คุณนี่น่าประทับใจจริงๆ ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าอาจารย์ของฉันเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันนะ”
ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะระเบิดอารมณ์ แต่ทันทีที่เธอหันมามองแล้วเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา “กรี๊ดดดด ผี!”
คนรอบข้างหวาดกลัวเสียงกรีดร้องของเธอ และตอนที่พวกเขาตั้งใจจะด่า พวกเขาก็เห็นหญิงสาวในชุดคลุมสีขาวเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น หญิงสาวสวมชุดโบราณสีขาวและดูงามล่มจมเมืองจนดึงดูดสายตาของทุกคนทันที
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ผู้ชายคนนั้นเป็นสามีเธองั้นเหรอ
“โห เวลาพวกเขายืนข้างกันก็ดูเหมือนคู่รักนะ ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะมีลูกหน้าตาดีแบบนี้ อย่างว่าแหละ พันธุกรรมพวกเขาดีอะ ลูกก็เลยออกมาหน้าตาดีขนาดนี้”
ตอนที่ 2178 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (19)
“เร็ว รีบถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงเว่ยปั๋ว แม้แต่ดาราในทีวียังไม่สวยหล่อเท่าพวกเขาเลย จะเรียกพวกเขาว่าครอบครัวเทพเซียนก็คงไม่เกินไป”
คนที่เดินผ่านบางคนก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วลงภาพพวกเขาลงในโลกออนไลน์…
อวิ๋นชูเทียนรีบปิดตาเพราะมีแสงไฟจากโทรศัพท์ทำให้นางรู้สึกอึดอัด…
“แก…แกเป็นคนหรือเป็นผี” ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันแน่น
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มหวาน “คุณเคยเจอผีที่กล้าออกมากลางวันแสกๆ ไหมล่ะ”
“แกไม่ใช่ผีงั้นเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นตะลึงไปครู่หนึ่งแต่ภายในก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “แกยังไม่ตายอีกเหรอ”
“ดูเหมือนว่าการตายของฉันจะรบกวนคุณเหลือเกิน ฉันแค่อยากรู้ว่าสามีของคุณเป็นรองผู้อำนวยการตั้งแต่เมื่อไหร่” อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเด็กผู้ชายตัวน้อยในอ้อมแขนของนางแล้วเลิกคิ้ว “เจ้าตัวน้อยนี้ดูอายุสักสี่ขวบ ก็หมายความว่าคุณมีเขาตอนที่ฉันหายตัวใช่รึเปล่า”
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นดูกระอักกระอ่วน “ถ้าไม่ใช่เพราะฟู่หรูคิดว่าแกตายแล้ว เขาก็คงไม่กระทบกระทั่งกับอาจารย์ใหญ่หรอก ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ใหญ่ก็คงไม่หาข้ออ้างมาพักงานเขา ตอนนี้แกยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ”
พักงานงั้นหรือ
อวิ๋นลั่วเฟิงตะลึง เหตุใดผู้มีพระคุณของนางถึงไม่ได้บอกเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้มีพระคุณของนางก็เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แล้วเขาจะถูกพักงานโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร ต้องมีเหตุผลเบื้องหลังที่นางไม่รู้แน่..
“คุณหมายความว่า คุณใช้ชีวิตร่วมสุขกับอาจารย์ของฉันได้แต่คุณไม่ยอมร่วมทุกข์ในช่วงเวลาลำบากด้วยกันใช่ไหม ตอนที่เขายังเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เขาก็ให้เกียรติคุณแล้วคุณก็ได้เสวยสุขกับเงินทองทรัพย์สินเขา พออาจารย์ของฉันถูกพักงาน คุณก็ทิ้งเขาทันทีแล้วมาวิ่งไล่ตามรองผู้อำนวยการ ฉันพูดถูกไหม”
“แก…” ผู้หญิงคนนั้นหน้าซีดด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าตัวเองทำผิด
ใครบอกให้เขาถูกพักงานล่ะ เรื่องนี้จะมาโทษฉันได้เหรอ
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น เมื่อเงยหน้าขึ้นไป ผู้หญิงคนนั้นก็เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วความดีใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางขณะที่พูดว่า “ที่รัก คุณมาแล้ว”
“ชุนหวา ผมได้ยินว่ามีคนรังแกลูกสุดที่รักของผมงั้นเหรอ” สายตาที่เขาใช้มองอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวเป็นประกาย “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การอยู่ในที่สาธารณะก็ไม่ดีนักหรอก ไว้เราไปคุยกันที่ห้องทำงานผมแทนเถอะ”
ฮึ่ม! พอพวกเขาเข้าไปห้องทำงาน เขาก็จะสามารถลงมือได้เต็มที่! ถ้าเขาไม่กลัวว่าจะกระทบชื่อเสียงของตัวเอง เขาไม่มีทางทำตัวสุภาพกับคนพวกนี้ในที่สาธารณะแน่!
“ดูเหมือนว่าคุณก็รู้เหมือนกันนี่ว่ามันไม่ดี” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบางและดวงตาของนางก็หยุดอยู่ที่ใบหน้างามของชุนหวา “ก่อนหน้านี้ภรรยาของคุณตะโกนโหวกเหวกอยู่ในที่สาธารณะและทำตัวไร้เหตุผล ทำไมเธอถึงไม่มีมารยาทขั้นพื้นฐานบ้างเลยล่ะ”
อาจารย์ของนางกับภรรยามีข้อแตกต่างกันมากโขอยู่ เมื่อปีนั้นฝ่ายหญิงเป็นคนตามตื๊ออาจารย์ของนาง และทั้งคู่ก็มีอายุต่างกันถึงสิบปีทำให้อาจารย์ของนางรักภรรยามาก เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ทำงานบ้านแม้แต่น้อย ทุกๆ เดือนเขาจะยกเงินเดือนให้เธอ
ถึงแม้ว่าเงินเดือนของเขาจะหมดไปกับของใช้ฟุ่มเฟือยและเครื่องสำอาง อาจารย์ก็ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียว ต่อให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดกับบุตรสาว เขาก็ยังตามใจภรรยา ดังนั้นเธอจึงดูแลตัวเองอย่างดีและแม้จะอายุสี่สิบแล้ว เธอก็ยังดูราวกับอายุสามสิบต้นๆ ไม่แปลกใจเลยที่สามารถยั่วยวนรองผู้อำนวยการคนนี้ได้
ดวงตาของรองผู้อำนวยการเข้มขึ้นแล้วมองเซวียชุนหวา