ตอนที่ 1386 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (8)
ตอนนี้หงหลวนราวกับนักรบถือกระบี่ยาวในชุดเกราะสีแดง!
นางสังหารทุกอย่างที่ผ่านหน้าและปลิดชีพคนไปนับไม่ถ้วน!
ตั้งแต่ที่นางจากเมืองบูรพามากับอวิ๋นลั่วเฟิงเมื่อหลายเดือนก่อน นางก็สังหรณ์ใจว่านางต้องเผชิญหน้ากับศัตรูน่าเกรงขามมากมายในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นเพื่ออวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว ถึงแม้นางจะต้องทนกับผลข้างเคียงจากการเพิ่มพลัง นางก็ไม่เสียใจ!
…
ภายในห้อง อวิ๋นลั่วเฟิงมุ่งความสนใจไปที่การเอาแก่นเลือดออกจากหัวใจของอวิ๋นเซียวเพียงอย่างเดียวโดยไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย แต่นางก็เชื่อในตัวหงหลวน นางเชื่อว่านางต้องขัดขวางคนพวกนั้นได้แน่!
สายตาของอวิ๋นเซียวจับจ้องอยู่ที่อวิ๋นลั่วเฟิง อาจเป็นเพราะเสี่ยวโม่ส่งพลังฌานจำนวนมากจากมิติคัมภีร์เซียนให้เขา เขาเลยไม่รู้สึกเจ็บมาก ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเจ็บอยู่บ้าง ดังนั้นสายตาของอวิ๋นเซียวจึงย้ายไปมองอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ แล้วเขาก็นึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้ใช้เวลาบนเตียงกับเด็กสาวเพื่อหันเหความสนใจ
“นายหญิง” เหงื่อไหลลงจากหน้าผากของเสี่ยวโม่ ใบหน้าซีดเซียวของเขาหันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิง “ถึงแม้ว่าภายในมิติคัมภีร์เซียนจะมีพลังฌานมากมายและข้าก็บอกท่านว่ามิติสามารถให้พลังฌานกับท่านได้ไม่กำจัด แต่ความจริงแล้ว…พลังฌานในมิติคัมภีร์มีจำกัด ตอนนี้ข้าสัมผัสได้ว่าครั้งนี้พวกเราใช้มากเกินไปและมิติคัมภีร์เซียนก็ทนมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ขมวดคิ้วเลยสักนิดเดียว “ทำต่อไป!”
“เข้าใจแล้ว” เสี่ยวโม่ไม่พูดอะไรอีก เขาใช้มือส่งพลังฌานให้อวิ๋นเซียวเพื่อลดความเจ็บปวดจากการผ่าตัดที่หัวใจของเขา
“เฟิงเอ๋อร์ พอเถอะ…” อวิ๋นเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่เหลือข้าทนได้ ให้เสี่ยวโม่หยุดเถอะ”
“ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าใช้พลังมากกว่านี้ก็หยุดพูด!” อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนอย่างหัวเสีย ทันทีที่นางนึกได้ว่าอวิ๋นเซียวปิดบังเรื่องสำคัญกับนาง นางก็ยิ่งไม่พอใจ
อวิ๋นเซียวมองเสี่ยวโม่ที่ร่างเริ่มสั่นเทิ้ม หัวใจของเขาก็อึดอัด มือที่วางอยู่ข้างๆ กำหมัดแน่น…
เสี่ยวซู่มองอวิ๋นลั่วเฟิงทีมองเสี่ยวโม่ทีหน้าซีดเผือดที เขายื่นมือไปเกาก้นของตัวเองก่อนจะดึงดอกเบญจมาศออกมา ถูกต้อง เป็นดอกเบญจมาศสีเหลืองจริงๆ
หั่วหั่วมองเสี่ยวซู่อย่างพูดไม่ออก บั้นท้ายของเด็กคนนี้เป็นกระเป๋าสมบัติหรือ เหตุใดจึงมีทุกอย่างอยู่ในนั้น
หลังจากที่เสี่ยวซู่ดึงดอกเบญจมาศออกมาแล้ว เขาก็ส่งเถาวัลย์ไปรัดตัวอวิ๋นเซียวให้อยู่กับที่แน่นขึ้นก่อนจะเข้าไปในมิติคัมภีร์เซียน
แต่เดิมมิติคัมภีร์เซียนมีพลังฌานหนาแน่นมาก ทว่าตอนนี้ที่นี่ช่างดูรกร้าง สมุนไพรที่ถูกปลูกไว้ในแปลงก็เ**่ยวเฉาและปลิวไปตามลม ทันทีที่เขาเห็นว่าแหล่งอาหารเขากลายเป็นแบบนี้ เสี่ยวซู่ก็โกรธจัดจนผมตั้ง ตาแดงก่ำ
ถ้ามิติคัมภีร์เซียนเป็นคน เสี่ยวซู่ต้องรีบเข้าไปตีเขาแน่นอน! แต่ว่าเสี่ยวซู่ไม่สามารถตีมิติคัมภีร์เซียนได้จึงทำได้แค่คิดวิธีรักษามิติที่ใกล้จะพังทลายเอาไว้ ที่สำคัญที่สุดคือช่วยเหลือแหล่งอาหารของเขา!
ผลก็คือเสี่ยวซู่หาจุดที่เหมาะสมแล้วปลูกต้นอ่อนของดอกเบญจมาศที่เขาดึงออกมาจากบั้นท้ายลงไป จนกระทั่งเขาเห็นดอกเบญจมาศน้อยๆ ค่อยๆ โต เขาถึงตบมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ
การพังทลายของมิติคัมภีร์เซียนเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่การสูญเสียแหล่งอาหารนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก! เขาจะทนอดอยากได้อย่างไร
แต่ว่าการเติบโตของดอกเบญจมาศช้าเกินไปหน่อย เสี่ยวซู่รับไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงปลดกางเกงแล้วเริ่มปัสสาวะใส่ดอกเบญจมาศน้อย…
ตอนที่1387 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (9)
ไม่นานหลังจากนั้นดอกเบญจมาศน้อยก็โตอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ กลายเป็นดอกเบญจมาศยักษ์ที่ใหญ่กว่าต้นไม้ขนาดใหญ่เสียอีก ความจริงแล้วนี่เป็นเมล็ดพืชที่แค่เลียนแบบดอกเบญจมาศเฉยๆ เสี่ยวซู่ใช้มันช่วยรักษามิติคัมภีร์เซียน อ้อ ใช่ ไม่สิ เพื่อรักษาแหล่งอาหารเขาไว้ต่างหาก ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมรูปร่างถึงเหมือนดอกเบญจมาศ [1] เสี่ยวซู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน…
…
ภายในห้อง ทั้งเสี่ยวโม่และอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้สังเกตว่าเสี่ยวซู่หายไปและก็ไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติคัมภีร์เซียน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าดอกเบญจมาศดอกหนึ่งกำลังเติบโตจนบานสะพรั่งอยู่ในมิติ
“นายหญิง อีกไม่นานมิติคัมภีร์เซียนจะทนไม่ได้อีกต่อไป” เสี่ยวโม่มองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยใบหน้าซีดเผือด “หากท่านยังรักษาอวิ๋นเซียวไม่เสร็จ อีกไม่นานมิติจะพังทลาย”
พลังฌานที่อวิ๋นลั่วเฟิงใช้เป็นด้ายแบบพิถีพิถันเหมือนการค่อยๆ คัดเลือกใบชา แต่ตอนนี้ก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง นางใช้พลังเป็นน้ำ และไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำที่ใหญ่แค่ไหนก็ทนดื่มมันไม่ได้อยู่ดี
“เสี่ยวโม่ ข้าเกือบจะเสร็จแล้ว เจ้าทนอีกนิดเดียว”
พวกเขาผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้ว ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่านางจะต้องเสียสละตัวเอง นางก็ไม่ยอมให้อวิ๋นเซียวต้องทนรับความเจ็บปวดนี้!
ร่างของเสี่ยวโม่สั่น เขามองอวิ๋นลั่วเฟิง ความแน่วแน่ค่อยๆ ปรากฏบนดวงตาสดใสของเขา
“นายหญิง ท่านยังจำตัวตนที่ข้าเคยพูดถึงได้หรือไม่” เสี่ยวโม่ยิ้ม “การคงอยู่ของข้าเกิดจากพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียน ในเมื่อพลังฌานส่วนใหญ่ในมิติใช้ไปกับข้าแล้ว ถ้าเรายังทำแบบนี้ต่อไป ข้าก็จะต้องตายอย่างแน่นอน”
“แต่ว่า…” เขาเงยหน้ามองด้วยน้ำตาคลอ “ในเมื่อร่างกายถูกสร้างจากพลังฌานของมิติ ข้าก็สามารถเปลี่ยนตัวเองไปเป็นพลังฌานและช่วยลดความเจ็บปวดของอวิ๋นเซียวได้”
“เสี่ยวโม่!” หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงบีบรัด “มิติสามารถทนได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยพูดว่าพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียนมีมากมายไม่มีวันหมดหรอกหรือ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ถึงขนาดที่เจ้าพูดแต่ก็ควรจะทนได้อีกสักหน่อย”
เสี่ยวโม่ส่ายหน้า “แม้จะมีฐานะผู้ปกป้องมิติคัมภีร์เซียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ขอบเขตของพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียน ดังนั้นข้าไม่สามารถรวบรวมมันได้อีก อย่างน้อยข้าก็ไม่ยอมให้ท่านตาย!”
เมื่อมิติพังทลาย พวกเขาทั้งคู่จะต้องตาย ดังนั้นจะดีกว่าถ้าเขาจากไปคนเดียว เขาเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่แรกเขาก็ไม่มีชีวิต แล้วมิติคัมภีร์เซียนก็ให้สติปัญญาเพื่อยอมให้ได้พบนายหญิง…กับเสี่ยวไป๋
เสี่ยวโม่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดถึงเด็กสาวซื่อบื้อน่าเอ็นดูคนนั้นในช่วงเวลาแบบนี้
“เสี่ยวโม่!” อวิ๋นลั่วเฟิงหน้าเปลี่ยนสีทันที “ข้าไม่ยอมให้อวิ๋นเซียวทรมานจากความเจ็บปวดแล้วก็ไม่ยอมให้เจ้าจากไปเหมือนกัน! ดังนั้นอย่าทำอะไรโง่ๆ นะ!”
“นายหญิง ข้าพอใจแล้วที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนี้มีโอกาสได้พบท่าน ใช่แล้ว อย่าลืมบอกเสี่ยวไป๋ด้วยว่าถ้าข้าได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์ ชาติหน้าข้าอยากแต่งงานกับนาง”
เขารู้ดีว่านี่เป็นคำขอธรรมดา แต่สำหรับเขา เขาเป็นแค่ก้อนพลัง เขาไม่มีชีวิตแล้วก็ไม่มีวิญญาณ แล้วเขาจะกลับมาเกิดใหม่ได้อย่างไร ถ้าเขาหายไป เขาก็ไม่มีทางมีตัวตนอยู่ตนโลกนี้ได้อีกต่อไป…
“เฟิงเอ๋อร์” เมื่อเห็นเสี่ยวโม่กำลังจะเสียสละตัวเอง อวิ๋นเซียวก็ยกมือขึ้นจับมืออวิ๋นลั่วเฟิง “ท่านทำมามากพอแล้ว แทนที่จะปล่อยให้เขาหายไป ข้ายินดีทนรับความเจ็บปวด”
อวิ๋นเซียวจะไม่รู้ว่าเสี่ยวโม่สำคัญกับนางได้อย่างไร ถ้าเสี่ยวโม่หายไปเพราะเรื่องนี้จริงๆ นาง…ต้องเจ็บปวดไปทั้งชีวิตแน่นอน
——
[1] ดอกเบญจมาศเป็นคำแสลงในภาษาจีนแปลว่า ทวารหนัก