ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1436 สมบัติของเจวี๋ยเชียน (1) / ตอนที่ 1437 สมบัติของเจวี๋ยเชียน (2)

ตอนที่ 1436 สมบัติของเจวี๋ยเชียน (1)

 

 

ตอนนั้นเองท้องฟ้าก็มืดมัวเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองจนบดบังดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ทำให้บรรยากาศขมุกขมัวและเย็นยะเยือก

 

 

โม่เชียนเฉิงคล้ายโดนปีศาจครอบงำจนสูญเสียสติแล้วโจมตีจีจิ่วเทียนเหมือนคนบ้า เส้นผมสีดำสนิทของเขาปลิวไปตามสายลมที่พัดแรง

 

 

ปัง!

 

 

จีจิ่วเทียนถูกหมัดทรงพลังที่สามารถทลายปฐพีได้ของเขากระแทกเข้าที่หน้าอกจนกระอักเลือด แต่ใบหน้างดงามที่เชิดขึ้นยังคงมีรอยยิ้มเย้ยหยันประดับอยู่

 

 

“โม่เชียนเฉิง ข้าพูดความจริง ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม!”

 

 

“หุบปาก หุบปาก!”

 

 

โม่เชียนเฉิงปล่อยกลิ่นอายทรงพลังอีกครั้งแล้วใช้พลังฌานโจมตีจีจิ่วเทียนจน ละอองฝุ่นหนาแน่นในอากาศพลันฟุ้งกระจายแล้วทิ้งหลุมลึกไว้บนพื้น

 

 

ตูม!

 

 

จีจิ่วเทียนยกมือกันการโจมตี เขาทำได้แค่ถอยหลังหลบการโจมตี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังแสดงสีหน้าเหยียดหยามอยู่เหมือนเดิม

 

 

โม่เชียนเฉิงโกรธจนตัวสั่น น่าขำจริงๆ ที่จีจิ่วเทียนบอกว่าเจ้าโง่เจวี๋ยเชียนขังเขาไว้ในสถานที่รกร้างแห่งนี้เพื่อปกป้องเขา!

 

 

เจวี๋ยเชียนแค่ต้องการแก้แค้นข้าเท่านั้น!

 

 

จีจิ่วเทียนโกหก!

 

 

สิ่งที่เขาพูดเหลวไหลทั้งเพ!

 

 

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังพยายามโน้มน้าวตัวเองก็พุ่งไปข้างหน้าจีจิ่วเทียนแล้วตวัดขาเตะเข้าที่อกเขาอย่างแรง

 

 

จีจิ่วเทียนยกมือขึ้นกันการโจมตี แต่ความแข็งแกร่งของโม่เชียนเฉิงนั้นมีมากกว่าเขา เขาเตะจีจิ่วเทียนจนปลิวไปไกล มุมปากเขามีเลือดไหลออกมา

 

 

“เสี่ยวโม่ เจ้ามีวิธีจัดการกับเขาหรือไม่”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงกำหมัดด้วยความกังวล

 

 

โม่เชียนเฉิงเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่นางเคยเจอมา…

 

 

ตูม ตูม ตูม!

 

 

โม่เชียนเฉิงโจมตีไม่หยุด เขาใช้ขาทั้งสองข้างเตะจีจิ่วเทียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนตะคอกด้วยเสียงสั่นๆ จากความโกรธ “จีจิ่วเทียน ข้าอยากให้เจ้าบอกว่าเจวี๋ยเชียนเกลียดข้า!”

 

 

“เขาไม่ได้เกลียดเจ้า”

 

 

จีจิ่วเทียนพูดด้วยเสียงเบาอย่างอ่อนแรงแต่ก็ทำให้หัวใจของโม่เชียนเฉิงสั่นสะท้านอย่างมาก

 

 

“เขาไม่มีทางเกลียดเจ้า!”

 

 

“ไม่! เจ้าโกหก!” ดวงตาของชายหนุ่มยิ่งแดงก่ำแล้วลงมือโจมตีรุนแรงขึ้น

 

 

แต่ว่าเขาโจมตีสะเปะสะปะไปเรื่อยด้วยความกระวนกระวายใจ เห็นได้ชัดว่าคำพูดของจีจิ่วเทียนทำให้เขาว่อกแว่ก

 

 

ปัง!

 

 

การเตะครั้งสุดท้ายของเขาทำให้จีจิ่วเทียนทนการโจมตีต่อไปไม่ได้แล้วล้มลงพื้นอย่างแรงจนเกิดเป็นหลุมลึก

 

 

ชายหนุ่มนอนอยู่ในหลุม เสื้อคลุมสีแดงของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดแต่เขาก็ยังรักษารอยยิ้มเยาะเย้ยไว้บนใบหน้างดงามอยู่ดี

 

 

“จีจิ่วเทียน พูดออกมาว่าเจ้าโกหกข้า! เจวี๋ยเชียนไม่เคยเป็นห่วงข้า เขาแค่ต้องการแก้แค้นเท่านั้น!” ชายหนุ่มกัดฟัน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขายกมือขึ้นเล็กน้อยแล้วพายุรุนแรงก็ปรากฏขึ้นในมือเขา

 

 

พายุลูกนี้รุนแรงจนทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ใครก็ตามที่โดนการโจมตีนี้ วิญญาณของเขาจะต้องแตกสลายแล้วไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้อีก!

 

 

“ถ้าเจ้ายอมพูดออกมา ข้าจะปล่อยเจ้าไป ไม่อย่างนั้นข้าจะสังหารเจ้าทันที!”

 

 

เสื้อคลุมของเขาสะบัดไปตามแรงลมทำให้เขาดูบ้าคลั่งแต่ขณะเดียวกันก็ทรงพลัง

 

 

จีจิ่วเทียนหัวเราะเยาะแล้วจ้องดวงตาแดงก่ำของโม่เชียนเฉิงก่อนจะเปิดปากพูดอย่างใจเย็น “ข้าไม่เคยกลับคำพูดของตัวเอง”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1437 สมบัติของเจวี๋ยเชียน (2)

 

 

ภายใต้ท้องฟ้าสีเทา เสียงฟ้าร้องดังขึ้นแล้วสายฟ้าก็ปรากฏขึ้น สายลมแรงจำนวนหลายสายมารวมตัวกันในฝ่ามือของชายหนุ่มแล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พายุดูรุนแรงเหมือนว่ามันสามารถทำลายทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง

 

 

“จีจิ่วเทียน!” อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแล้วรีบวิ่งไปหาจีจิ่วเทียน นางพยุงร่างที่อ่อนแรงของเขาแล้วขมวดคิ้ว “ให้ข้าพาเจ้าออกไปเถอะ”

 

 

จีจิ่วเทียนยิ้ม “เฟิงเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าพวกเรายังจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้อีกหรือ”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบ เป็นครั้งแรกที่นางรู้เสียใจ นางเสียใจที่เลือกเข้ามาในดินแดนแห่งจินตนาการ…แล้วลากจีจิ่วเทียนเข้ามาเกี่ยวด้วย

 

 

“ฮึ่ม!” โม่เชียนเฉิงจ้องคนทั้งคู่ที่อยู่ในหลุมแล้วดวงตาแดงก่ำของเขาก็ส่องประกายสังหาร “จีจิ่วเทียน ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะไม่พูดก็ปล่อยข้าส่งเจ้าไปยังโลกหลังความตายเพื่อไปอยู่กับเจวี๋ยเชียนเถอะ!”

 

 

สายลมรุนแรงพุ่งขึ้นฟ้าแล้วกระจายไปทั่วทั้งหุบเขา อวิ๋นลั่วเฟิงพยายามยืนอยู่ท่ามกลางแรงลมแต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้

 

 

นี่เป็นความแข็งแกร่งของโม่เชียนเฉิง!

 

 

ไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเขาอีกแล้ว!

 

 

“ไปตายซะ!”

 

 

เสียงของโม่เชียนเฉิงเต็มไปด้วยควมโกรธ พายุในมือเขาเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ไม่มีใครต้านทานพลังเขาได้ ตอนนี้พวกนางไม่ต่างกับลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือด

 

 

“ไม่นะ!” อวิ๋นลั่วเฟิงตกใจ “ข้าจะมาตายที่นี่ไม่ได้ อวิ๋นเซียวยังรอข้าอยู่ แล้วข้าก็ทนมองจีจิ่วเทียนต้องตายเพราะข้าไม่ได้…”

 

 

ดังนั้นนางจะมายืนรอความตายอยู่เฉยๆ ไม่ได้

 

 

เมื่อคิดได้อย่างนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็วางตัวจีจิ่วเทียนลงแล้วจ้องใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางพายุก่อนจะเดินโซเซไปหาเขา

 

 

“เจ้าคิดจะทำอะไร”

 

 

เมื่อจีจิ่วเทียนเห็นท่าทางของอวิ๋นลั่วเฟิง สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปก่อนพยายามลุกขึ้นยืน “เจ้าสู้เขาไม่ได้!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยังคงใช้ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องไปที่โม่เชียนเฉิงเหมือนไม่ได้ยินเสียงเตือนของเขา

 

 

“โม่เชียนเฉิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงได้เป็นผู้สืบทอดของเจวี๋ยเชียน” เสียงสงบนิ่งและเย็นชาของนางดังขึ้นท่ามกลางพายุ

 

 

โม่เชียนเฉิงชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเสียดสี “เจ้าคิดว่าข้าจะยอมปล่อยเจ้าเพราะเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเจวี๋ยเชียนงั้นหรือ เจ้าคิดผิดแล้ว ถ้าเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจวี๋ยเชียน ข้าก็อาจจะยอมปล่อยเจ้าไป แต่ในเมื่อเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเขา ข้าก็ต้องสังหารเจ้า!”

 

 

พูดจบโม่เชียนเฉิงก็ปล่อยกลิ่นอายสังหารรุนแรงออกมาอีกครั้ง

 

 

ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงหยุดอยู่ที่โม่เชียนเฉิงก่อนดวงตาร้ายกาจของนางจะส่องประกายบางอย่าง ถึงแม้ว่านางจะต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตแต่นางก็ยังคงความใจเย็น สงบนิ่งและไม่รีบร้อน

 

 

“เจ้าคิดว่าคนที่รักสันโดษแบบเจวี๋ยเชียนจะรับใครก็ไม่รู้มาเป็นผู้สืบทอดจริงหรือ”

 

 

โม่เชียนเฉิงขมวดคิ้วแต่ในมือเขายังรวมรรวบพลังเอาไว้อยู่

 

 

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

 

 

เมื่อโม่เชียนเฉิงพูดจบ พายุในมือเขาก็รวมกันเป็นรูปร่างเหมือนลูกบอลขนาดยักษ์แล้วขว้างใส่อวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

เมื่อฉาฉาเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงตกอยู่ในอันตราย มันก็พุ่งเข้ามาแล้วเห่าใส่โม่เชียนเฉิง ดวงตามันจับจ้องไปที่ลูกบอลลมยักษ์ มันไม่ยอมถอยหนีไปไหนถึงแม้ว่ามันจะตัวสั่นด้วยความกลัว

 

 

“นั่นก็เพราะว่า…” อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้สนใจฉาฉาแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าคือเจวี๋ยเชียนที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ดังนั้นวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของเขาจึงมอบทรัพย์สมบัติของเขาให้ข้า”

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

Author:
อวิ๋นลั่วเฟิง นักเรียนแพทย์หัวกะทิได้ย้อนอดีตกลับไปอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่สุดสำรวย สตรีผู้มีชื่อฉาวคาวกระฉ่อนว่าเป็นเพียงสวะของสกุล ซ้ำร้ายยังหน้าหนาไปฉุดหนุ่มรูปงามทั้งที่ตนมีคู่หมั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท เรื่องน่าอับอายนี้เป็นเหตุให้นางโดนถอนหมั้นจนตัดสินใจปลิดชีวิตตนไปด้วยความเจ็บปวด ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉายาคุณหนูสวะนั้นหรือเป็นเพียงคำลวง แพทย์หญิงอัจฉริยะต่างหากที่เป็นของจริง! ไหนจะมี ‘ชายปริศนา’ ที่โผล่มาบอกให้นาง ‘รับผิดชอบ’ เขา ทั้งยังคอยติดตามอยู่ข้างกายไม่ห่างพร้อมประกาศว่า “ใครหน้าไหนที่จะมาทำร้ายสตรีของข้าก็ดาหน้ากันเข้ามา แต่จงจำไว้ว่ามันจะไม่มีวันได้มีชีวิตกลับไป!” เช่นนี้แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงจะรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรดีเล่า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset