ตอนที่ 1460 การเปลี่ยนแปลงของหวงอิงอิง (7)
“ข้าสงสัยจริงๆ ว่าท่านปู่เจ้าอยู่ที่ไหน เมื่อสามปีที่แล้ว จู่ๆ เขาก็มุ่งหน้าไปสังหารคนของหุบเขาพิษแล้วฆาตกรรมหมู่ไปหลายศพ” ประมุขตระกูลจวินยิ้มขมขื่นแล้วส่ายหน้า “จะว่าไปแล้วคนของหุบเขาพิษไปทำอะไรให้ท่านปู่เจ้าโกรธกัน อีกอย่างหุบเขาพิษก็เป็นหนึ่งในขั้วอำนาจของเมืองหลวง แล้วเมื่อสองสามปีก่อนเจ้าเมืองก็มาตามหาข้าเพื่อคิดบัญชีกับอดีตประมุขตระกูล”
หลิงเอ๋อร์กะพริบตา “ปีนั้นท่านปู่ชื่นชอบอัจฉริยะคนหนึ่งแล้วรับนางเป็นหลานสาวของเขา แต่คนจากหุบเขาพิษสังหารนาง ดังนั้นท่านปู่จึงโกรธจัดแล้วไล่ล่าพวกเขา”
“เขาไปแก้แค้นหุบเขาพิษแต่ทิ้งปัญหาใหญ่ไว้ให้ข้าจัดการ! แต่เดิมตระกูลจวินก็มีศัตรูมากอยู่แล้วตอนนี้เขายังไปสร้างเพิ่มอีก” ประมุขตระกูลจวินนวดขมับ “อาจารย์ของข้าคนนี้จะรู้สึกไม่สบายหรือถ้าเขาไม่ได้สร้างปัญหา ตอนนี้ศัตรูล้อมพวกเราแต่เขากลับใช้ชีวิตสุขสำราญอยู่ที่อื่น”
หากเป็นไปได้ ประมุขตระกูลจวินก็อยากจะทิ้งปัญหาพวกนี้แล้วปล่อยให้พวกที่อยากได้ตำแหน่งนี้จัดการไป โชคไม่ดีที่อาจารย์ของเขามีเขาเป็นศิษย์เพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่ดูแลตระกูลจวินก็เหลือทางเดียวคือยกตระกูลให้คนนอก
ไม่ต้องพูดถึงว่าอดีตประมุขจะไม่พอใจ เขาเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
“หลิงเอ๋อร์ คงจะดีถ้าท่านป้าของเจ้ายังอยู่ นางเป็นบุตรสาวโดยสายเลือดของอาจารย์ ดังนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะมีสิทธิ์ในตระกูลจวิน ตอนนั้นข้าก็คงออกเดินทางขึ้นเหนือลงใต้ไปกับท่านแม่เจ้าแล้วลืมปัญหาพวกนี้ไปซะ”
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ประมุขตระกูลมีเรื่องไม่พอใจอดีตประมุขที่ทิ้งตระกูลจวินไปอยู่เต็มอก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเจ้าเจอท่านปู่ เจ้าอย่าลืมบอกเขาว่าการที่เขาหายตัวไปหลายปีมานี้ทำให้ศัตรูของตระกูลจวินทั้งหมดกระสับกระส่ายเพราะอยากจะกำจัดตระกูลจวิน ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ บอกตาแก่นั่นด้วยว่าเขาต้องกลับมา”
“ท่านพ่อสบายใจเถอะ ในใจของท่านปู่ก็รู้เรื่องนี้ดี ถ้าตระกูลจวินเผชิญกับชะตากรรมที่เลวร้าย เขาจะกลับมาแน่นอนเจ้าค่ะ” หลิงเอ๋อร์พูดพร้อมส่งยิ้มเจิดจ้าให้เขา
ถึงอย่างไรตระกูลจวินก็เป็นหยดเลือดและหยาดเหงื่อของอดีตประมุข ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละทิ้งตระกูลไป
“เจ้าควรออกไปหาเพื่อนเก่าแล้วเล่นสนุกกัน ปล่อยข้าอยู่คนเดียวเถอะ”
ประมุขตระกูลจวินนวดขมับเมื่อเขานึกถึงข่าวที่สายสืบเก่งกาจของเขาเพิ่งรายงาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
อดีตประมุขเดินทางอยู่นอกตระกูลโดยไม่กลับมาหลายปีแล้ว ทำให้ศัตรูของตระกูลจวินเชื่อว่าตาแก่นั่นตายไปแล้ว ถ้าอดีตประมุขไม่ได้เพิ่งสังหารคนหุบเขาพิษ ทุกคนก็คงคิดว่าเขาตายไปแล้ว
ถึงอย่างนั้นก็ผ่านมาสามปีแล้ว พรรคเหล่านั้นก็ทนไม่ได้อีกต่อไปจนเริ่มกลับมาลงมืออีกครั้ง
“ท่านประมุขขอรับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงวิตกกังวลก็ดังนั้นจากด้านนอกแล้วไม่นานผู้คุ้มกันก็รีบวิ่งเข้ามา เขากังวลมากจนเกือบจะสะดุดล้ม
ประมุขตระกูลขมวดคิ้วแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น”
“ท่านประมุขตระกูลขอรับ มีบางอย่างเกิดขึ้น มีใครบางคนปล่อยข่าวว่าอดีตประมุขมีหลานสาวที่หายตัวไปอยู่ที่แคว้นเจ็ดเมือง…”
“ว่าอย่างไรนะ” ประมุขตระกูลจวินทุบโต๊ะแล้วยืนขึ้นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง “ข่าวลือแพร่มาจากที่ไหน”
“ตระกูลจวินเป็นคนปล่อยข่าวลือขอรับ”
ประมุขตระกูลกำหมัดแน่น จากที่เห็น ดูเหมือนว่าจะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในตระกูลจวิน แล้วพวกเขาก็ได้ข่าวนี้ไป
“ไปสืบมา ข้าอยากรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว!”
ถ้าเขารู้ว่าใครปล่อยข่าว เขาจะทำให้คนคนนั้นทรมานจนต้องเลือกที่จะตาย!
ตอนที่ 1461 การเปลี่ยนแปลงของหวงอิงอิง (8)
“ข้าเข้าใจแล้วขอรับท่านประมุข!” ผู้คุ้มกันรับคำสั่งแล้วถอยออกไป หลังจากที่ผู้คุ้มออกไปแล้ว ประมุขตระกูลจวินก็นั่งลงด้วยสีหน้าท้อแท้
เขาไม่คิดเลยว่าข่าวนี้จะแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ถ้าคนพวกนั้นรู้ที่อยู่ของหลานสาวอาจารย์เข้าละก็ พวกเขาต้องไปจับตัวนางเพื่อขู่ตระกูลจวินแน่นอน พอถึงตอนนั้นอาจารย์จะต้องบ้าคลั่งแน่!
เช่นนั้นแล้วเขาต้องหานางให้เจอก่อนคนพวกนี้! เมื่อคิดได้อย่างนั้น ประมุขตระกูลจวินก็กำหมัดแล้วตัดสินใจหนักแน่น…
…
นครเล็กๆ ไม่ไกลจากชายแดนเมืองวิญญาณมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าปกติ
สตรีผู้หนึ่งที่กำลังรีบเร่งเดินทางเพิ่งมาถึงจุดหมาย จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหน้านาง “ท่านน้า ข้าขอถามหน่อย ทำไมในนครร้างเล็กๆ แบบนี้ถึงมีคนเยอะขนาดนี้ขอรับ”
สตรีผู้นั้นเหม่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้มลงเห็นใบหน้าเล็กๆ เนียนดุจหยก ตอนแรกนางไม่มีความคิดจะตอบคำถามใครทั้งนั้น แต่เมื่อเห็นเด็กผู้ชายตัวน้อยดูบอบบางและน่าทะนุถนอมก็ทำให้นางยากที่จะปฏิเสธ
“เด็กน้อย ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่คนเดียว บิดามารดาเจ้าไปไหน”
“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าไม่ได้อยู่แถวนี้ ข้าแค่สงสัยว่าทำไมที่นี่ถึงมีคนเยอะ มีอะไรเกิดขึ้นหรือขอรับ” เด็กชายกะพริบตาแล้วถามพร้อมรอยยิ้มสดใส
พูดได้เลยว่าสถานการณ์ไม่ปกติหมายถึงการมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะคิดว่านครเล็กๆ ตรงชายแดนจะต้องมีผู้คนบางตาแต่ตอนนี้นครเล็กๆ แห่งนี้กำลังเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาที่พักได้ ที่สำคัญพรรคที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ก็เป็นไปได้มากว่าจะมีอิทธิพล พวกเขาต้องมาที่นี่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่แน่อาจจะมีสมุนไพรล้ำค่าก็ได้…
เมื่อเขาคิดถึงอาหารเสี่ยวซู่ก็ตัดสินใจจะตามหาว่าเกิดอะไรขึ้น
“เด็กน้อย พวกเรามาที่นี่เพราะมีร่องรอยเทพเซียนในภูเขาอ้าย [1] ”
“ภูเขาอ้าย? ร่องรอยเทพเซียน?”
มีเทพเซียนอยู่ที่แคว้นเจ็ดเมืองด้วยหรือ
สตรีผู้นั้นยิ้มแล้วบอกเด็กชาย “จะดีกว่าถ้าเจ้าไม่รู้เรื่องพวกนี้ ที่สำคัญภายในภูเขาอ้ายก็อันตรายมาก เจ้าควรกลับไปหาบิดามารดาเจ้าได้แล้ว” พูดจบนางก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เด็กชายตัวน้อยครุ่นคิดอยู่นานขณะมองไปยังทิศทางที่นางเดินไปก่อนจะเดินกลับมาที่โรงเตี๊ยม
ขณะเดียวกัน ภายในโรงเตี๊ยม อวิ๋นลั่วเฟิงนั่งอยู่ด้านในขณะกำลังจิบชาอย่างเหม่อลอย ฉาฉานั่งอยู่บนตักนางอย่างเชื่อฟังแล้วเงยหน้ามองเป็นครั้งคราวเพื่อเฝ้าระวังเพราะกลัวว่าจะมีศัตรูพุ่งเข้ามาทำร้ายอวิ๋นลั่วเฟิง
ปัง!
ประตูถูกมือเล็กๆ ข้างหนึ่งเปิดออก แล้วใบหน้าเนียนดุจหยกของเขาก็ปรากฏสู่สายตาอวิ๋นลั่วเฟิง
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วถาม “เจ้าหายไปไหนมา”
“ท่านแม่” เสี่ยวซู่เดินมายืนข้างๆ อวิ๋นลั่วเฟิง “เมื่อกี้ข้าสงสัยว่าทำไมสถานที่รกร้างแบบนี้ถึงมียอดฝีมือเต็มไปหมด เลยออกไปสืบข่าวมา ดูเหมือนว่าจะมีร่องรอยของเทพเซียนปรากฏขึ้นที่ภูเขาที่อยู่แถวนี้”
“ร่องรอยของเทพเซียนงั้นหรือ” ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประกายบางอย่างที่ยากจะสังเกตเห็น
เสี่ยวซู่เงยหน้าแล้วเอื้อมมือไปกอดคออวิ๋นลั่วเฟิง “ท่านแม่ ท่านกำลังตามหาท่านพ่อ ท่านน้าหงหลวน เสี่ยวไป๋และคนอื่นๆ อยู่ไม่ใช่หรือ พวกเขาอาจจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วมาที่ภูเขานี้ก็ได้”
อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปพักนึง “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดูสิ่งที่เขาบอกกันว่าเทพเซียนทิ้งเอาไว้”
ไม่แน่เสี่ยวซู่อาจจะพูดถูก ถ้าอวิ๋นเซียวและคนอื่นๆ มุ่งหน้ามาที่เดียวกัน นางก็อาจจะหาตัวพวกเขาเจอ
“เยี่ยมไปเลย!”
จุ๊บ!
เสี่ยวซู่หอมแก้มอวิ๋นลั่วเฟิง “ท่านแม่ ถ้าในนั้นมีสมุนไพรพลังฌาน ท่านต้องเก็บทุกอย่างไว้ให้ข้านะไม่อย่างนั้นข้าก็จะผลิตผลเปลี่ยนร่างไม่ได้”
——
[1] 艾 ( à i) เป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีลักษณะเป็นพุ่มเล็กๆ มีสรรพคุณทางยา คนไทยรู้จักในชื่อโกฐจุฬาลำพา