ตอนที่ 14 เยี่ยมเยือน
“พี่สอง… พี่สองกลับมาแล้วงั้นเหรอครับพ่อ ?”
หลี่ฮ่าวพูดด้วยอารมณ์หลากหลายที่ผสมปนเปกันอยู่ในใจ เมื่อเขายังเด็ก เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เชียนอย่างมาก แต่มันเป็นเพราะเขาเองแท้ ๆ ที่ทําให้เย่เชียนต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไป และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดกับเย่เชียนมาตลอด หากไม่ใช่เพราะเขา ป่านนี้เย่เชียนก็คงจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ไปนานแล้ว
“พี่แกเพิ่งจะกลับมาเมื่อวานนี้เอง แต่ตอนนี้เขาถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว…” หยางเจียนกัวพูดอย่างเศร้าใจ
“พ่อครับ… พ่อไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวผมจะช่วยพี่สองเอง!” หลี่ฮ่าวพูดอย่างหนักแน่น
“ได้ยินแกพูดเช่นนี้ พ่อเองก็หมดห่วง” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายใจ
หลังจากวางสายไป หลี่ฮ่าวก็ไม่รีรอรีบหาเบอร์โทรศัพท์ของสถานีตำรวจย่อยที่จับกุมตัวเย่เชียนเอาไว้ แต่ตอนนี้มันก็สี่ทุ่มแล้วตํารวจส่วนมากก็คงจะเลิกงานกลับบ้านกันหมดแล้ว เหลือเพียงส่วนน้อยที่ยังต้องเข้าเวรประจําการ เมื่อตำรวจคนหนึ่งรับสายของหลี่ฮ่าว เขาก็ตกใจเพราะตําแหน่งของหลี่ฮ่าวนั้นก็คือหัวหน้าของเขาและพรรคพวกนั่นเอง
วินาทีที่มีคนรับสาย หลี่ฮ่าวก็ยิงคําถามใส่ทันที
“วันนี้พวกคุณจับผู้ต้องหาที่ชื่อเย่เชียนมาใช่ไหม ?”
ตำรวจที่อยู่ปลายสายรู้สึกงุนงง ทําไมผู้ที่เป็นถึงอธิการสำนักงานความมั่นคงถึงได้โทรศัพท์สายตรงมาถามถึงผู้ต้องหา หรือพวกเขาจะเป็นญาติหรือเป็นเพื่อนกัน ? อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าที่จะถามอะไรกลับไปจึงได้แต่ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา
“ใช่ครับท่านอธิการ… เมื่อเช้านี้ทางเราได้รับแจ้งความว่ามีบุคคลในเซียนเจียงหัวหยวนถูกทําร้ายร่างกาย บ่ายวันนี้เราจึงเข้าไปจับกุมตัวผู้ต้องหา เขามีชื่อว่าเย่เชียน ถูกนําตัวมาจากโรงพยาบาลเหรินเหมินโดยร้อยเอกหวังครับท่าน…”
“ใครเป็นคนแจ้งความ ?” หลี่ฮ่าวถามต่อ
“คนที่แจ้งความคือนายหัวของเหมืองถ่านหินในมณฑลซานซีครับ… เขาถูกทําร้ายร่างกายในคอนโดของตัวเอง เราตั้งข้อสงสัยว่าผู้ต้องหาต้องการขู่กรรโชกทรัพย์ แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินสดติดตัวมากพอ ผู้ต้องหาจึงลงมือทําร้ายร่างกายผู้เสียหายครับท่าน” ตํารวจที่ประจําการรายงานอย่างละเอียด
หลี่ฮ่าวกําลังใช้ความคิดกลั่นกรองข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับมา ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ได้พบเย่เชียนมานานแล้ว แต่เขาก็รู้จักเย่เชียนดีกว่าใคร เย่เชียนไม่ใช่คนที่จะรีดไถเงินจากผู้ใด เขาต้องมีเหตุผลที่ดีกว่านี้อย่างแน่นอน เพื่อแลกกับการกระทำอันอุกอาจบ้าบิ่นเช่นนี้ มีใครที่ไหนบ้างที่ไปรีดไถเงินคาบ้านของคนอื่นและลงมือทําร้ายร่างกาย แถมยังกลับออกมาด้วยท่าทีที่สบาย ๆ และไม่ปกปิดตัวตนอีก เขาจะต้องมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่เป็นแน่
“แล้วตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน?” หลี่ฮ่าวถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ถูกฝากขังอยู่ที่ศูนย์กักกันครับท่าน…” เจ้าหน้าที่ตอบอย่างประหม่า
หลี่ฮ่าวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ดี! งานเวิลด์เอ็กซ์โปใกล้เข้ามาแล้ว เราจะต้องเข้มงวดกับการรักษาความปลอดภัย คุณเข้าใจนะ ?” หลี่ฮ่าวกำชับ
“รับทราบครับท่าน!” เจ้าหน้าที่ตอบกลับทันที
หลังจากวางสายของหลี่ฮ่าวไป เจ้าหน้าที่คนนี้ก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว เขาคิดว่าถ้าหากท่านอธิการรู้จักเย่เชียนจริง ๆ ก็ต้องปกป้องเขาหรือไม่ก็สั่งให้ดูแลสิ? แต่เขากลับเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น
……
หลังจากที่หลี่ฮ่าววางสายจากตำรวจได้ไม่นาน หยางเจียนกัวผู้เป็นพ่อก็โทรศัพท์กลับมาหาเขาอีกครั้ง
“เจ้าสาม… เป็นอย่างไรบ้าง ?” พ่อยังคงถามด้วยความกังวล
“พ่อครับ… ผมโทรไปสอบถามมาแล้ว พี่สองเจตนาทําร้ายร่างกายเพื่อกรรโชกทรัพย์ของคนที่เพิ่งกลับมาเมืองนี้”
“บ้าเอ๊ย! เสี่ยวเชียนเอ๋อร์ไม่มีทางที่จะไปรีดไถเงินใครหรอก เขาจะต้องมีเหตุผลอื่นสิ”
“ผมเองก็คิดแบบนั้น เพราะมีจุดที่ยังน่าสงสัยอยู่หลายอย่าง พี่สองไม่มีทางที่จะทําร้ายใครเพราะกรรโชกทรัพย์หรอก พ่อรู้อะไรเพิ่มเติมอีกไหม ? มีอะไรที่ทำให้พี่สองโกรธหรือเสียใจบ้างรึเปล่าครับ ?”
“พี่สองของแกเพิ่งจะกลับมาหลังจากผ่านไปตั้งแปดปี พ่อว่า… เขาไม่มีทางที่จะไปมีเรื่องบาดหมางกับใครได้หรอก” หยางเจียนกัวตอบ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออีกว่า
“เอ… แต่จะว่าไป…เมื่อวานพ่อถูกชายคนนึงทําร้ายร่างกาย ตอนนี้พ่อเองก็ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าพ่อเดาไม่ผิด คนที่เสี่ยวเอ๋อร์ไปทําร้ายจะต้องเป็นไอ้คนนั้นที่ทำร้ายพ่อแน่ ๆ”
“เฮ้อ… บ้าจริง ๆ! แล้วพ่อเป็นอะไรมากไหมครับ ?” หลี่ฮ่าวถามด้วยความเป็นห่วง
“พ่อดีขึ้นมากแล้ว… เจ้าสามเอ๋ย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แกก็ต้องช่วยเสี่ยวเชียนเอ๋อร์ให้ได้นะ”
“งานเวิลด์เอ็กซ์โปก็ใกล้เข้ามาแล้ว มาตรการรักษาความปลอดภัยจึงเข้มงวดขึ้นเป็นอย่างมาก สถานการณ์ของพี่สองในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ผมจะทำอะไรได้โดยง่าย” หลี่ฮ่าวชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออีกว่า
“แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะ ผมมั่นใจว่าผมจะหาทางช่วยพี่สองได้อย่างแน่นอนครับ”
“พ่อได้ยินแกพูดเช่นนี้ พ่อก็เบาใจ…” หยางเจียนกัวตอบกลับอย่างสบายใจ
……
เช้าวันต่อมา หลี่ฮ่าวก็มุ่งหน้าตรงไปยังโรงพยาบาล เขาต้องการให้ผู้เสียหายยอมความให้กับเย่เชียน
หลังจากรู้หมายเลขห้องของเจิ้งต้าฟูแล้ว เขาก็ไม่รอช้ารีบเดินตรงไปยังห้องนั้น
เมื่อเห็นเครื่องแบบตํารวจเต็มยศเต็มศักดิ์ เจิ้งต้าฟูก็พินิจพิจารณาตำรวจตรงหน้าอย่างประหม่า เขาเห็นสามดาวประดับอยู่บนบ่าของตำรวจนายนี้ ซึ่งสิ่งนี้บ่งบอกว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงโดยไม่ต้องสงสัย
“คุณคือเจิ้งต้าฟูใช่ไหมครับ ?” หลี่ฮ่าวถามอย่างสุภาพ
“ใช่ครับ… ผมเอง… ท่านมีเรื่องอะไรกับผมหรือครับ ถึงได้มาหาผมถึงที่โรงพยาบาล”
เจิ้งต้าฟูพูดอย่างนอบน้อม แม้ว่าเขาจะรวยล้นฟ้าทว่าที่นี่มันไม่ใช่ถิ่นของเขาและยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่กล้าที่จะวางท่าเย่อหยิ่งเลยแม้แต่น้อย
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่มาเยี่ยมเยือนก็เท่านั้น” หลี่ฮ่าวพูดพลางนั่งลงใกล้ ๆ เจิ้งต้าฟู จากนั้นเขาก็พูดต่อเรียบ ๆ
“คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ ? ถูกทําร้ายอาการสาหัสเลยสินะครับ ?”
เจิ้งต้าฟูไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเจ้าหน้าที่ระดังสูงเยี่ยงนี้มาเยี่ยมเขาโดยไร้ซึ่งเหตุผลใด ๆ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของหลี่ฮ่าว เขาจึงได้แต่ตอบกลับไปแบบสุภาพ
“ผมดีขึ้นแล้วครับ… อีกไม่นานก็คงหายเป็นปกติ”
“นายหัวเจิ้งครับ คุณอุตส่าห์ให้เกียรติมาเยือนเมืองนี้ แต่กลับได้รับบาดเจ็บถึงขนาดต้องมานอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ผมในฐานะตัวแทนกระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐ ต้องขออภัยกับสถานการณ์เช่นนี้ด้วยนะครับ” หลี่ฮ่าวพูดอย่างนอบน้อม
“มะ… ไม่เป็นไรครับท่าน ผมแค่ต้องการความยุติธรรมให้กับตัวเองก็เท่านั้นครับ” เจิ้งต้าฟูพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มวางท่า
หลี่ฮ่าวเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นอีกว่า
“ครับ นายหัวเจิ้ง ที่ผมมาในวันนี้ส่วนหนึ่งคือผมมาเยี่ยม แต่ผมก็มีคําถามเล็กน้อยที่อยากจะถาม และผมก็อยากฟังคำตอบจากปากของคุณเองโดยตรง! เมื่อวานนี้คนที่ทําร้ายนายหัวเจิ้ง เขาคือพี่ชายคนที่สองของผมเอง ผมสงสัยว่านายหัวเจิ้งจะสามารถยกฟ้องคดีพี่ชายผมได้หรือเปล่าครับ ? ผมรู้ว่าคำถามผมมันคงทำให้คุณอึดอัดและลำบากใจมากแต่ผมก็ต้องพูด ส่วนค่ารักษาพวกนี้ คุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง…” หลี่ฮ่าวพูด ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาแฝงความเยือกเย็นเล็กน้อย