ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 270 สังหารหมู่เหล่าโจรสลัด

ตอนที่ 270 สังหารหมู่เหล่าโจรสลัด
ไม่กี่วันต่อมาเย่เชียนและม่อหลงก็ได้เริ่มเดินทางอย่างเป็นทางการไปยังในสถานที่ทำธุรกรรมที่กำหนดโดยกลุ่มโจรสลัดซาตาน ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานที่ที่แสดงพิกัดเป็นละติจูดและลองจิจูดเลย แต่ทว่าครั้งนี้พวกเขามาด้วยเรือที่เป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปเป็นเจ้าของและก็มีกัปตันและลูกเรือเฉพาะที่รับผิดชอบในการเดินเรือและพวกเขาก็จะรับผิดชอบในการแล่นเรือไปยังตำแหน่งที่ถูกกำหนดเอาไว้

ผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดและท้องสีฟ้าครามที่ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้น เย่เชียนนั่งอยู่บนหัวเรือและจ้องมองไปที่มหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุดและอารมณ์ของเขาก็ดูเหมือนจะร่วงโรยไปกับทะเลเหล่านี้ ซึ่งมันก็เป็นทั้งความสุขและความตื่นเต้นในคราเดียวกัน “พี่ม่อหลงดูทะเลที่กว้างใหญ่แบบนี้สิ..ถ้าวันหนึ่งพวกเราสามารถรองน่านน้ำได้นี่มันจะน่าตื่นเต้นสักแค่ไหนกัน” เย่เชียนบ่นพึมพำ

“แน่นอน..เขี้ยวหมาป่าจะต้องมีวันนั้น” ม่อหลงพูดอย่างหนักแน่น

เย่เชียนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ผมเชื่อว่าวันนั้นมันจะต้องมาถึงและหลังจากนั้นพวกเราก็จะพาภรรยาและลูกๆ ของพวกเราชาวเขี้ยวหมาป่าไปเที่ยวเกาะส่วนตัวสักแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิกนี้เพื่อฉลองและนอนอาบแดดและกินบาร์บีคิวกัน..วันนั้นมันจะต้องวิเศษมากอย่างแน่นอน”

ม่อหลงถึงกับผงะไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ยิ้ม เขาคิดว่าเย่เชียนนั้นมีความทะเยอทะยานอย่างมากเพราะเย่เชียนถึงกับจะไขว่คว้ามหาสมุทรแปซิฟิกมาเป็นดินแดนของเขาและพาภรรยาและลูกๆ ของพวกเขาไปสู่ชีวิตที่เหมือนดั่งสวรรค์ในอนาคต “บอส..บอสคิดว่ามันมีขุมสมบัติกี่แห่งใต้มหาสมุทรแปซิฟิกนี้กัน..ถ้าเกิดว่าเราพบทรัพย์สมบัติเหล่านั้นได้บอสคิดว่าเราจะสร้างประเทศของเขี้ยวหมาป่าของเราได้มั้ย?” ม่อหลงบ่นพึมพำ

“แบบนั้นมันก็น่าเบื่อน่ะสิ..ผมรักเขี้ยวหมาป่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้เพราะทั้งมีอิสระและไม่มีข้อจำกัดใดๆ ..และยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราจะทำแบบนั้นน่ะ..ทำไมเราไม่ทำให้ทั้งทวีปตะวันออกกลางปฏิบัติกับเราเหมือนราชาไปเลยล่ะ..แบบนั้นมันไม่ดีกว่าหรอ..ฮ่าฮ่า” เย่เชียนหัวเราะ

ความเกลียดชังที่ล้ำลึกที่สุดสำหรับเขี้ยวหมาป่าก็คือประเทศที่เจริญแล้วทางตะวันตกเพราะบางประเทศที่เป็นเมืองขึ้นของประเทศสหรัฐอเมริกาในตะวันออกกลางนั้นเขี้ยวหมาป่าล้วนเป็นดั่งวีรบุรุษในใจของผู้คนในประเทศเหล่านั้น และที่สำคัญกว่านั้นเขี้ยวหมาป่าก็ไม่เคยเข้าร่วมในสงครามแย่งชิงเมืองขึ้นและพื้นที่ของประเทศเหล่านั้นในตะวันออกกลางเลย เพราะเขี้ยวหมาป่ามักจะทำแต่ปฏิบัติการที่เป็นดั่งคนกลางเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ และผลประโยชน์ของเรื่องนี้นั้นมันมีมากเสียกว่าผลกำไรที่เกิดจากการว่าจ้างประเทศหนึ่งไปโจมตีอีกประเทศหนึ่งเสียอีก

ม่อหลงยิ้มเล็กยิ้มน้อยเพราะเขาไม่ต้องการที่จะก่อตั้งประเทศขึ้นมาจริงๆ และไม่ต้องพูดถึงความยากลำบากในการก่อตั้งประเทศเลยเพราะจะมีดินแดนหรือไม่นั้นไม่สำคัญเพราะที่สำคัญกว่านั้นก็คือการก่อตั้งประเทศจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากมายเนื่องจากต้องดูและสิ่งต่างๆ เป็นวงกว้างเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เหล่าทหารรับจ้างควรทำเลย

เรือบรรทุกน้ำมันยังคงแล่นไปยังสถานที่ที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเย่เชียนนั้นก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายมากแค่ไหน ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปอย่างน้อยๆ ก็อาจจะเกือบครึ่งเดือนแล้วกัปตันบนเรือก็บอกกับเย่เชียนว่าพวกเขามาถึงที่หมายแล้ว

เย่เชียนเดินออกมาจากห้องโดยสารบนเรือและยืนบนหัวเรือจากนั้นก็มองไปรอบๆ แต่ไม่พบร่องรอยของกลุ่มโจรสลัดเลย และเมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ขมวดคิ้วอย่างหนักหน่วง “บอสพวกเขาจะไม่มาเหรอ?” ม่อหลงเอ่ยปากถามขึ้น

“ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น!” เย่เชียนยืนกราน แต่ทว่าความเป็นจริงแล้วเย่เชียนก็ไม่มั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักเพราะใครจะรู้ได้ถึงความคิดของเหล่าโจรสลัดพวกนั้นว่าพวกนั้นจะเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อไหร่หรือไม่ก็มีแผนที่จะไม่คืนสินค้าเหล่านั้นเลย?

“บอสดูนั่น!” ม่อหลงชี้ไปไกลๆ แล้วพูด

เมื่อมองออกไปเย่เชียนก็เห็นเรือสองลำกำลังแล่นเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากระยะทางนั้นไกลเกินไปเย่เชียนจึงมองไม่เห็นว่ามันคืออะไรกันแน่ “พี่เห็นหรือเปล่าว่าเรือพวกนั้นมันคืออะไร?” เย่เชียนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ไกลเกินไปฉันมองไม่เห็น!” ม่อหลงส่ายหัวและพูด

ไม่นานนักเรือทั้งสองลำก็ค่อยๆ แล่นเข้ามาปรากฏต่อหน้าต่อตาของเย่เชียน ซึ่งเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะผงะและพูดว่า “พี่ม่อหลง..มันไม่น่าจะใช่หรือเปล่า?”

ม่อหลงก็ผงะเช่นกันและพูดว่า “มันไม่น่าจะใช่..นี่มันเป็นเรือรบติดขีปนาวุธชัดๆ เลย”

“แม่งเอ้ย..โจรสลัดพวกนี้แม่งโคตรรวยเลย!” เย่เชียนตะโกนอย่างตื่นเต้น

“ฉันไม่คิดว่าเบื้องหลังของโจรสลัดพวกนี้จะเรียบง่ายเหมือนโจรสลัดทั่วๆ ไป..อาจเป็นไปได้ที่จะมีประเทศใดประเทศหนึ่งคอยสนับสนุนพวกนี้อยู่” ม่อหลงพูด

“อาจจะใช่” เย่เชียนพูดจบและสั่งให้เรือบรรทุกน้ำมันหยุดและเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้แล้วเย่เชียนก็รู้สึกหมดหนทางเพราะเมื่อเทียบกับพลังการต่อสู้อันทรงพลังของคู่ต่อสู้บนท้องทะเลแล้วเขี้ยวหมาป่าก็ถือว่าด้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย และดูเหมือนว่าการที่เขี้ยวหมาป่าจะต้องสร้างกองทัพเรือเพื่อปฏิบัติการทางทะเลนั้นก็มีความจำเป็นอย่างมากเช่นกัน ทว่าการขนส่งทางทะเลนั้นก็มีจำนวนมากขึ้นทุกๆ ปีแล้วควรจะทำอย่างไรเมื่อเจอโจรสลัดพวกนี้กันล่ะ?

“เรือข้างหน้าโปรดหยุด!” เสียงประกาศแจ้งเตือนก็ดังมาจากเรือรบเหล่านั้นและจากนั้นไม่นานเรือรบทั้งสองลำก็หยุดระหว่างเรือบรรทุกน้ำมันและจากนั้นเหล่ากลุ่มคนติดอาวุธหนักหลายสิบคนก็ได้โยงสะพานแขวนและขึ้นมายังเรือบรรทุกน้ำมันทีละคนๆ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่ากลุ่มคนที่มาเป็นคนสุดท้ายก็คือหัวหน้าของพวกเขาซึ่งมีรูปลักษณ์ของทหารและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเคราซึ่งแตกต่างจากฝูงชนทั่วไปอย่างมาก

“นายสองคนนำคนของเราตรวจสอบคาร์โกคลังสินค้า!” กัปตันเคราพูดกับลูกน้องทั้งสองคนและพูดกับอีกสี่คนข้างๆ ว่า “ส่วนพวกนายสี่คนไปพาคนในห้องโดยสารมาให้หมด”

“ได้ครับ!” โจรสลัดทั้งสี่คนเดินตรงไปที่ห้องโดยสาร

ทั้งหมดที่พวกเขาพูดเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเย่เชียนก็สามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดีและเขาก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ เพียงคอยเฝ้าดูอย่างเงียบๆ ว่าพวกนั้นจะทำอะไรต่อไป

หลังจากนั้นไม่นานลูกเรือทุกคนในห้องโดยสารก็ถูกพาตัวมาที่ลานกว้างของเรือด้วยความหวาดกลัว ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ทำงานบนท้องทะเลมาตลอดหลายปีซึ่งพวกเขาก็รู้ว่าพวกโจรสลัดนั้นโหดร้ายมากแค่ไหนและพวกเขาทุกคนก็รู้ดีว่าความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิตจากโจรสลัดเหล่านี้นั้นมันน้อยมาก ซึ่งเย่เชียนนั้นไม่ได้บอกความจริงของการเดินเรือในครั้งนี้ให้แก่พวกเขาเพียงเพราะเย่เชียนเกรงว่าพวกเขาจะกลัว

กัปตันเครามองไปที่ฝูงชนและถามว่า “กัปตันของเรือลำนี้คือใคร?”

กัปตันเรือตัวสั่นเทาไปหมดและกำลังจะก้าวออกไป ทว่าเย่เชียนก็จ้องมองเขาจากนั้นเย่เชียนก็ก้าวออกไปข้างหน้าสองก้าวและพูดว่า “ผมเป็นคนรับผิดชอบเรือบรรทุกน้ำมันลำนี้..ผมขอถามได้มันว่าพวกคุณคือ…”

“ไอ้เวรนี่! ..แกไม่เห็นเหรอว่าพวกเราเป็นโจรสลัด!” กัปตันเคราพูดอย่างเกรี้ยวกราด

เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ผมรู้ๆ ..แต่สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือพวกคุณเป็นโจรสลัดกลุ่มไหน?”

กัปตันเครามองเย่เชียนขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเขาประหลาดใจอย่างมากกับความสงบเสงี่ยมของเย่เชียน จากนั้นกัปตันเคราก็พูดว่า “ใครจะไปสนล่ะว่าจะเป็นโจรสลัดกลุ่มไหนอะไร..ฉันสนอย่างเดียวก็คือพวกแกมีสินค้าอะไรบนเรือ!”

“เรือเปล่า!” เย่เชียนพูด

“อะไรนะ!” กัปตันเคราถึงกับผงะไปเพราะเขายังไม่เคยพบไม่เคยเจอกับเรือที่ว่างเปล่ากลางทะเลเช่นนี้ เพราะค่าน้ำมันและค่าจ้างลูกเรือนั้นก็มากมายมหาศาลแล้วพวกนี้จะทำเงินได้อย่างไร? ใครจะแล่นเรือเปล่าๆ ไปกลับแบบโง่ๆ กัน

“กัปตัน! ..มันไม่มีอะไรเลย..ในนั้นมันเป็นคาร์โก้เปล่า!” ในตอนนี้โจรสลัดทั้งสองที่ถูกส่งไปตรวจสอบคลังสินค้าก็กลับมาและรายงาน

กัปตันเคราโกรธเกรี้ยวอย่างมากเพราะเขาเห็นเรือบรรทุกน้ำมันที่หรูหราเช่นนี้จากระยะไกลและเนื่องจากเป็นเรือขนน้ำมันซึ่งมันก็ต้องมีสินค้าทั้งขาไปและขากลับแต่ใครจะรู้ว่ามันเป็นเรือเปล่าๆ เช่นนี้ “แม่งเอ้ย..พาพวกมันทั้งหมดกลับไปที่ฐานแล้วหาทางติดต่อคนในครอบครัวของพวกมันเพื่อเรียกค่าไถ่ซ่ะ!” กัปตันเคราพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“เดี๋ยวก่อน!” เย่เชียนขมวดคิ้วและพูดว่า “เราเป็นสหายของกลุ่มโจรสลัดซาตาน..ครั้งนี้ที่เราออกเรือมาก็เพื่อจะมาพบกลุ่มโจรสลัดซาตาน”

กัปตันเคราถึงกับผงะไปอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนและขมวดคิ้วอย่างหนักหน่วงและหันมาถามว่า “แกเป็นสหายของกลุ่มโจรสลัดซาตานจริงๆ งั้นเหรอ?”

“แน่นอน..ผมจะโกหกไปทำไม?” เย่เชียนพูด

“เอาล่ะ! ..จับพวกมันทั้งหมดไปที่ฐาน!” กัปตันเคราตะโกนอย่างเดือดดาล

เย่เชียนและม่อหลงต่างก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพวกเขาก็มองหน้ากันซึ่งเห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดซาตานเลย ทั้งสองก็สบตากันอีกครั้งและหลังจากนั้นเย่เชียนก็พุ่งเข้าไปหากัปตันเคราและล็อคคอของกัปตันเคราเอาไว้และดึงมีดโลหิตหมาป่าขึ้นมาซึ่งขณะเดียวกันม่อหลงก็ใช้มีดของเขาแทงโจรสลัดคนหนึ่งเข้าที่หน้าอกและหยิบปืนในมือของเขามา

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปและโจรสลัดเหล่านั้นก็ไม่มีเวลาได้ตอบโต้เลย และยิ่งไปกว่านั้นกัปตันของพวกเขากลับกลายเป็นตัวประกันของฝ่ายตรงข้ามไปอย่างไร้ซึ่งหนทางใดๆ ซึ่งพวกเขานั้นก็ถือปืนกันอยู่แต่ก็ไม่กล้ายิงและได้แต่ยืนแน่นิ่งกันอยู่ตรงนั้นอย่างกระวนกระวาย

“ให้พวกเขาวางปืนซ่ะ..และให้ทุกคนบนเรือรบออกมาให้หมด!” เย่เชียนกำมีดในมือของเขาเอาไว้อย่างแน่นและมีรอยเฉือนตื้นๆ อยู่บนคอของกัปตันเคราอย่างน่าสยดสยอง

“อย่าขยับ! ..ฟังเขาซ่ะ..วางปืนลง!” กัปตันเคราพูดอย่างประหม่า “ปล่อยพวกเขาซ่ะ..มัวทำอะไรกันอยู่วะ..ทำตามที่เขาบอกสิ!”

เหล่าโจรสลัดแน่นิ่งกันไปชั่วขณะหลังจากนั้นก็รีบแก้เชือกให้เหล่าลูกเรือของเย่เชียนไปทีละคน ส่วนม่อหลงก็รวบรวมอาวุธทั้งหมดและทยอยส่งปืนให้กับลูกเรือทีละคน ซึ่งความสามารถในการเป็นกะลาสีเรือของลูกเรือเหล่านี้นั้นก็มีความกล้าหาญอย่างมากพอสมควร เพราะเมื่อเกิดสถานการณ์ที่พลิกผลันชีวิตเช่นนี้นั้นพวกเขาก็สามารถควบคุมสติได้เป็นอย่างดีและพวกเขาเหล่านั้นต่างก็มุ่งเป้าจ่อปืนไปยังกลุ่มโจรสลัดเหล่านั้นทันที

“ไอ้…เอ่อน้องชาย..ฉันทำตามที่นายพูดแล้ว..นายต้องการอะไรอีก” กัปตันเคราพูดด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว

“บอกมาซิว่าพวกคุณมาจากโจรสลัดกลุ่มไหน?” เย่เชียนถาม

“เอ่อ..พวกเราคือกลุ่มโจรสลัดบลูวอเตอร์” กัปตันเคราพูด

“แล้วพวกคุณมีกันกี่คน?” เย่เชียนถามต่อ

“ประมาณร้อยกว่าคน” กัปตันเคราพูด จากนั้นเหล่าโจรสลัดที่อยู่ในเรือรบก็พากันออกมาและขึ้นมายังลานกว้างของเรือบรรทุกน้ำมันอย่างแออัด

รอยยิ้มที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เชียน จากนั้นเขากับม่อหลงก็มองหน้ากันและทั้งสองคนก็เข้าใจถึงความคิดของกันและกัน เพราะเย่เชียนจะไม่มีวันพลาดโชคลาภที่ถูกส่งมาให้เขาอย่างแน่นอนเพราะเรือรบทั้งสองลำนั้นมันยอดเยี่ยมมากแค่ไหน? ซึ่งเย่เชียนก็มีแผนการอื่นๆ ผุดขึ้นมาในหัวทันที

ร่องรอยของเจตนาฆ่าและจิตสังหารอันนองเลือดก็ปรากฏขึ้นภายในดวงตาของม่อหลงซึ่งเขาถือปืนเอาไว้ในมือและยิงออกไปอย่างแม่นยำและสงบเสงี่ยม เมื่อเขามาถึงจุดนี้ในฐานะทหารรับจ้างนั้นเขาจะไม่ปรานีใดๆ และยิงใส่หัวของโจรสลัดไปทีละคนอย่างแม่นยำ ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้นมีเสียงกรีดร้องอันโหยหวนมาจากเรือบรรทุกน้ำมันอย่างน่าสยดสยองและเลือดก็เปรอะเปื้อนและสาดกระเซ็นไปเต็มลานกว้างของเรือทันที เมื่อเห็นฉากนี้กัปตันเคราก็สิ้นหวังอย่างมาก แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาได้เสียใจเพราะมีดโลหิตหมาป่าของเย่เชียนนั้นได้เฉือนคอของเขาและเลือดก็พุ่งออกมาทันที

เวลาผ่านไปไม่นานนักเหล่าโจรสลัดมากกว่าร้อยชีวิตก็ล้มลงแน่นิ่งกับพื้นทั้งหมดและซากศพอันไร้วิญญาณก็กองอยู่เป็นภูเขา จู่ๆ ในเวลานี้ก็มีเรือสี่ลำแล่นเข้ามาจากระยะไกลโดยมีสัญลักษณ์หัวกะโหลกขนาดใหญ่แขวนอยู่อย่างโดดเด่น ซึ่งเย่เชียนและม่อหลงต่างก็มองหน้ากันและแอบคิดกันว่าคราวนี้น่าจะเป็นกลุ่มโจรสลัดซานจริงๆ ใช่ไหม?

.

.

.

.

.

.

.

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

อ่านนิยาย ยอดนักรบจอมราชัน
Status: Ongoing
เรื่องย่อ เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม… ————————————– ————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset