ตอนที่ 327 คุณไม่ใช่มนุษย์!
การที่จะรู้ได้ว่าหลี่ลู่หลานนั้นอยู่ที่ไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเย่เชียนเลย และถ้าหากเย่เชียนอยากให้หลี่ลู่หลานมาที่เมืองหางโจวแห่งนี้มันก็เป็นเรื่องง่ายๆ เช่นกันเพราะเครือน่านฟ้ากรุ๊ปและเย่เชียนนั้นก็มีอิทธิพลอย่างมากในเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองหนานจิงซึ่งเขานั้นก็สามารถหาข้ออ้างต่างๆ หรือเหตุผลต่างๆ เพื่อที่จะให้หลี่ลู่หลานมาหาเขาได้นั่นเอง
การเป็นคนดังในวงการบันเทิงนั้นไม่ได้มีอิสระแต่อย่างใดเพราะต้องเข้าร่วมกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากมีสปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุนรายใหญ่แล้วเหล่าคนดังเช่นนี้ก็มักจะตอบตกลงอย่างง่ายดายเพื่อเพิ่มชื่อเสียง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่เหล่าคนดังในวงการบันเทิงจะมีผู้สนับสนุนที่ดีอยู่เบื้องหลังพวกเขาและพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธสปอนเซอร์และผู้สนับสนุนได้
…..
สองวันต่อมาหลี่ลู่หลานก็มาปรากฏตัวที่เมืองหางโจวเพื่อเข้าร่วมการหารือเกี่ยวกับเสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยเย่เชียนนั้นได้โทรไปหาหลี่จื้อเทียนเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งหลี่จื้อเทียนเองก็แค่สันนิษฐานและคาดเดาว่าเย่เชียนคงจะชื่นชอบหลี่ลู่หลานเป็นการส่วนตัว ดังนั้นหลี่จื้อเทียนจึงไม่ได้ถามอะไรมากนักและเขาก็ช่วยดำเนินการต่างๆ ให้และหลังจากนั้นหลี่ลู่หลานก็ตอบตกลงที่จะมาเมืองหางโจวอย่างง่ายดาย
ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ ของหลี่จื้อเทียนนั้นจะใหญ่โตมากแค่ไหนก็ตามแต่เขาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับวงการบันเทิงมากนักแต่ครั้งนี้เขาก็ทำเพื่อเย่เชียนเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาหลี่จื้อเทียนก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคาสิโนในมณฑลเหอหนานอย่างถี่ถ้วนแต่เย่เชียนเองก็ยังไม่เคยไปร่วมมือกับเขาเลย ดังนั้นเย่เชียนจึงสงสัยว่าหลี่จื้อเทียนนั้นกำลังทำอะไรอยู่บ้างในช่วงนี้และเขาเองก็ยินดีที่จะร่วมมือกับหลี่จื้อเทียนแล้วเพื่อพัฒนามณฑลเหอหนานซึ่งทำให้หลี่จื้อเทียนนั้นต้องทำงานหนักมากในขณะที่เย่เชียนสบายอย่างมากในช่วงนี้
การที่หลี่ลู่หลานมาปรากฏตัวที่เมืองหางโจวอย่างกะทันหันเช่นนี้ก็ทำให้หลินยี่ประหลาดใจและตื่นเต้นอย่างมาก
ในห้องพักของโรงแรมนั้นหลี่ลู่หลานก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งอย่างสบายใจเฉิบและแต่งหน้าอย่างประณีตในขณะที่ผู้ช่วยข้างๆ เธอกำลังจ้องมองเธออย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งผู้ช่วยคนนี้เธอไม่สามารถที่จะละเลยได้เลยแม้แต่น้อยเพราะไม่อย่างนั้นไม่เพียงแค่เธอจะตกงานแต่เธออาจจะถูกประณามโดยแฟนคลับและผู้ติดตามของหลี่ลู่หลานก็เป็นได้ ซึ่งด้านหน้าของประตูห้องนั้นก็ได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดโดยเหล่าบอดี้การ์ดของต้นสังกัดและผู้สื่อข่าวก็ไม่ได้มาติดตามเธออีกต่อไปเพราะเจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้สั่งให้พวกเขาออกไปแล้วและห้ามเปิดเผยข่าวใดๆ โดยเด็ดขาด
รถแลมโบกีนี่ของเย่เชียนที่ดูสะดุดตาเป็นพิเศษภายใต้หิมะสีขาวโพลนก็มาหยุดที่หน้าของโรงแรมและเย่เชียนก็ลงจากรถมาและเดินตรงไปที่ห้องที่หลี่ลู่หลานพักอยู่ซึ่งที่ประตูนั้นบอดี้การ์ดก็หยุดเย่เชียนเอาไว้และพูดว่า “ขอโทษครับ..คุณเข้าไปไม่ได้!”
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ผมชื่อเย่เชียนครับ..ผมมีนัดกับคุณหลี่..คุณลองเข้าไปถามเธอดูก็ได้ครับ”
บอดี้การ์ดคนนี้ก็ตกตะลึงเล็กน้อยและเขาก็บอกให้เย่เชียนรอสักครู่จากนั้นเขาก็เคาะประตูและเดินเข้าไปเพื่อถาม หลังจากนั้นไม่นานบอดี้การ์ดก็เดินออกมาและพูดด้วยความขอโทษว่า “ขอโทษครับที่เสียมารยาท..คุณเย่เชิญเข้าไปได้เลยครับ!”
เย่เชียนก็พยักหน้าและถึงพอใจกับท่าทีและการวางตัวของบอดี้การ์ด จากนั้นเย่เชียนก็เดินเข้าไปซึ่งแน่นอนว่าหลี่ลู่หลานนั้นไม่รู้เลยว่าเย่เชียนนั้นเป็นใครและทำอะไรแต่ทว่าต้นสังกัดของเธอจัดตารางงานให้เธอมาพบเย่เชียน ดังนั้นเธอจึงต้องตอบตกลงโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรใดๆ เลย
เมื่อเห็นร่างของเย่เชียนในกระจกที่สะท้อนออกมาหลี่ลู่หลานก็ค่อยๆ ยืนขึ้นและหันกลับไปและก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณมาแล้วหรอ..นั่งลงก่อนสิคะ!”
เย่เชียนก็ยิ้มตอบและเดินไปที่โซฟาและนั่งลง ซึ่งเย่เชียนนั้นก็ได้รู้จักตัวตนของหลี่ลู่หลานผ่านหลี่จื้อเทียนมาบ้างแล้วซึ่งฉายาของเธอก็คือราชินีเพลงแห่งเอเชีย ซึ่งเธอก็ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กๆ และวัยรุ่น ซึ่งเธอนั้นก็มักจะไปคลุกคลีกับเหล่านักธุรกิจหรือมหาเศรษฐีรวมไปถึงนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลเป็นประจำอยู่เสมอ
“คุณเย่มีเรื่องอะไรที่อยากจะคุยกับฉันหรอคะ” หลี่ลู่หลานพูดขณะที่เธอเดินไปที่ฝั่งตรงข้ามของเย่เชียนและนั่งลงซึ่งเธอก็ไม่อายเลยที่สวมกระโปรงสั้นๆ และค่อยๆ นั่งลงงอขาอย่างสง่างาม หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมือไปหยิบบุหรี่ที่อยู่ในกล่องบนโต๊ะกาแฟแล้วหยิบเข้าปากและจุดไฟจากนั้นเธอก็สูบมันอย่างช้าๆ
หลี่ลู่หลานนั้นเดาได้โดยธรรมชาติเลยว่าเย่เชียนนั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆ อย่างแน่นอนเพราะเขาสามารถติดต่อไปยังต้นสังกัดของเธอได้และให้เธอมาหาเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นถึงแม้ว่าความโด่งดังในอาชีพของเธอจะรุ่งเรืองและรุ่งโรจน์ขึ้นเรื่อยๆ ก็ตามแต่ถึงยังไงโชคชะตาก็ทำให้ชีวิตของเธอยิ่งโศกเศร้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเธอนั้นไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันไหนผู้จัดการและประธานต้นสังกัดของเธอจะให้เธอไปปรนนิบัติลูกค้าและทำให้เธอกลายเป็นโสเภณีเต็มตัวเมื่อไหร่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นหลี่ลู่หลานก็อาศัยรูปร่างหน้าตาและความนิยมของตัวเองในการใกล้ชิดกับนักธุรกิจหรือผู้ทรงอำนาจทรงอิทธิพลและร่ำรวยซึ่งหลินยี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเพราะถึงแม้ว่าหลินยี่จะไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจก็ตามแต่ถึงยังไงหลินไห่ผู้เป็นลุงของหลินยี่นั้นก็เป็นถึงรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำจังมณฑลเจ้อเจียง นั่นก็เพราะว่าถ้าหากวันหนึ่งในอนาคตเธอไม่อยากที่จะเป็นดาราอีกต่อไปแล้วเธอก็สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยภูมิหลังครอบครัวของหลินยี่ในมณฑลเจ้อเจียงแห่งนี้นั่นเอง
ดังนั้นตั้งแต่ที่เธอสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับบุคลิกและนิสัยของหลินยี่ได้แล้วหลี่ลู่หลานนั้นก็แสร้งทำตัวเหมือนผู้หญิงที่อ่อนโยนมาเสมอและเธอเองก็เซ็กซี่ไม่แพ้ผู้หญิงคนใดในเวลาเดียวกัน ซึ่งผู้ชายนั้นมักจะมีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อยู่เสมอเธอจึงถูกสังคมมองว่าเธอนั้นมักจะชอบโชว์เรือนร่างของเธอและล่อลวงสายตาของผู้คนด้วยเรือนร่างของเธอเช่นนั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วที่เธอไปใกล้ชิดกับเศรษฐีและผู้ทรงอิทธิพลเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องงานแต่อย่างใดเพราะส่วนมากจะเป็นการดื่มกินและการมอบความบันเทิงให้แก่คนเหล่านั้นเสียมากกว่า และหลินยี่เองก็มักจะรู้สึกว่าเธอพิเศษเหนือกว่าใครและคิดไปเองเพียงคนเดียวเพราะหลี่ลู่หลานนั้นต่อหน้าหลินยี่เธอมักจะทำตัวไร้เดียงสาอยู่เสมอ
เมื่อเผชิญหน้ากับเย่เชียนแล้วแน่นอนว่าหลี่ลู่หลานนั้นจะไม่ลืมที่จะหว่านเสน่ห์ใส่เย่เชียน เพราะถ้าหากว่าเธอทำให้เย่เชียนโปรดปรานเธอได้แล้วมันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเธอในอนาคต
หลี่ลู่หลานก็โบกมือให้ผู้ช่วยและพูดว่า “เธอออกไปก่อน!”
ผู้ช่วยก็ตอบแล้วเดินออกไป
เย่เชียนนั้นก็ถือได้ว่าเขาเป็นผู้มีประสบการณ์มากมายและโชกโชนอย่างมากเพราะเขานั้นมักจะอยู่ท่ามกลางสาวสวยที่ราวกับดอกไม้นับหมื่นดอกและขนาดผู้หญิงที่งดงามดั่งนางฟ้าอย่างซ่งหลันนั้นเย่เชียนก็ยังสามารถควบคุมและยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้แล้วนับประสาอะไรกับหลี่ลู่หลานคนนี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับการยั่วยวนที่ร้อนแรงของซ่งหลันแล้วหลี่ลู่หลานก็แทบจะเหมือนเด็กๆ ที่ไร้เดียงสาไปเลย
เย่เชียนนั้นก็ไม่ได้มองหรือแยแสเธอเลยในขณะที่หลี่ลู่หลานนั้นค่อยๆ เปิดต้นขาของเธออย่างยั่วยวน ซึ่งเย่เชียนก็จงใจเงยหน้าขึ้นและไม่สนใจการกระทำที่ยั่วยวนของเธอเลยแม้แต่น้อยและจิบน้ำอย่างเย็นชาซึ่งทำให้หลี่ลู่หลานหัวเราะออกมาเบาๆ ซึ่งในใจของเธอนั้นเธอคิดว่าเย่เชียนคงจะเป็นพวกผู้ชายที่เย่อหยิ่งและไม่ง่ายนักที่จะพิชิตเขา ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเธอจะต้องสยบเย่เชียนให้ได้ด้วยมือของเธอเอง
“เอ่อ..คุณเย่คะ!” เมื่อหลี่ลู่หลานเห็นท่าทางที่เฉยเมยอย่างน่าหลงใหลของเย่เชียนเช่นนี้เธอก็เอ่ยปากเรียกเขา
“อ้อคุณหลี่เรียกผมหรอครับ?” เย่เชียนถามด้วยท่าทางที่ดูงุนงง
เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเย่เชียนใกล้ๆ แล้วหัวใจของหลี่ลู่หลานก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างลับๆ เพราะเธอมองว่าเย่เชียนนั้นเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและร่ำรวยแต่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะพิชิตใจเขาด้วยมือของเธอเอง “คุณเย่มีเรื่องอะไรถึงอยากพบฉันหรอคะ?” หลี่ลู่หลานถาม
“อ้อมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก..ผมแค่เห็นคุณหลี่ในทีวีอยู่หลายครั้งและผมก็รู้สึกประหลาดใจไปกับความสวยความงดงามและเสียงของคุณหลี่น่ะครับ..เพราะงั้นผมก็เลยอยากพบคุณ” เย่เชียนพูด
“แล้วพอคุณเย่ได้เจอฉันแล้วคุณเย่รู้สึกยังไงบ้างคะ?” หลี่ลู่หลานถามด้วยความคาดหวังที่ปรากฏอยู่บนคิ้วของเธอ “ฉันตัวจริงกับในทีวีต่างกันมากมั้ยคะ?”
“ต่างกันมากเลยครับ..ตอนที่ผมเห็นคุณในทีวีน่ะคุณสวยมากเลย..แต่พอได้เห็นคุณตัวจริงแล้วผมคิดว่าคุณดูไม่เหมือนมนุษย์เอาซะเลย” เย่เชียนพูดอย่างจริงจัง
หลี่ลู่หลานอดไม่ได้ที่จะผงะไปและคิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากันแน่นและมีร่องรอยของความไม่พอใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ แต่ทว่าในทันใดนั้นการแสดงออกและท่าทีของเธอก็กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็วและเธอก็ยังคงยิ้มให้และถามว่า “ที่คุณเย่บอกฉันว่าฉันไม่ใช่มนุษย์นั่นคืออะไรหรอ?”
“นางฟ้าไง..คุณหลี่เหมือนนางฟ้าที่งดงามและเพียบพร้อมมาก..ถ้าเป็นในนวนิยายล่ะก็คุณคงจะนำหายนะมาสู่โลกและผู้คนจะต้องสั่นสะท้านเพราะความงดงามของคุณกันอย่างแน่นอน” เย่เชียนพูดอย่างปากหวาน
“ถ้างั้นนั่นก็ถือว่าเป็นคำชมของคุณเย่ใช่มั้ยคะ?” ใบหน้าของหลี่ลู่หลานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับว่าเย่เชียนนั้นอยู่ในกำมือของเธอแล้วและราวกับว่าเธอได้สิ่งที่เธอต้องการแล้ว
“แน่นอนอยู่แล้ว..นี่เป็นคำชม!” เย่เชียนหัวเราะ
“แล้วที่คุณเย่มาพบฉันเนี่ยคุณเย่ไม่ได้มีเรื่องอื่นอีกหรอคะ?” หลี่ลู่หลานพูดในขณะที่เธอจงใจถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยและยกขาไขว้กัน
“เอ่อ..คือมีบางอย่างที่ผมอยากจะถามคุณหลี่น่ะครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“อ้อได้เลยค่ะ..ถ้าคุณเย่มีอะไรจะถามก็ถามมาตรงๆ ได้เลยค่ะ..เดี๋ยวน้องสาวคนนี้จะตอบทุกอย่างที่ตอบได้เลยค่ะ” หลี่ลู่หลานหยิบบุหรี่ขึ้นมาและค่อยๆ สูบมันเข้าไป
“อ่ะ..อ่ะ..อ่ะ” เย่เชียนจงใจไอสองสามครั้งและโบกมือขึ้นเพื่อปัดควันบุหรี่ออกและพูดว่า “ทำไมผู้หญิงถึงต้องสูบบุหรี่ด้วยหรอ!” หลี่ลู่หลานก็เริ่มขมขื่นและเธอก็สับสนอย่างมากไปกับเย่เชียนและแอบคิดว่า ‘ผู้ชายคนนี้คาดเดาได้ยากจริงๆ ..นี่เขาเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย’
เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูขมขื่นของหลี่ลู่หลานแล้วเย่เชียนก็หัวเราะและพูดว่า “อ้อ..อย่าเพิ่งเข้าใจไปครับ..ผมไม่ได้พูดถึงคุณหลี่นะ..ผมแค่เคยรู้สึกไม่ดีกับผู้หญิงที่สูบบุหรี่มาก่อนน่ะครับ..แต่ว่าการสูบบุหรี่ของคุณหลี่น่ะช่างร้อนแรงและน่าหลงใหลมากเลยครับ”
ในทันใดนั้นใบหน้าของหลี่ลู่หลานก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้งหลังจากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปทุบแขนของเย่เชียนเบาๆ อย่างอ่อนโยนและพูดเบาๆ ว่า “คุณเย่คะ..คุณเนี่ยช่างตลกและอารมณ์ขันจริงๆ ..ถ้าคุณไม่ชอบฉันเลิกสูบมันเพื่อคุณได้นะคะ” ถึงแม้ว่าเธอจะพูดจบแล้วก็ตามแต่เธอก็ยังคงโน้มตัวอยู่เหมือนเดิมจนทำให้หน้าอกที่ขาวนวลของเธอลอยอยู่ตรงหน้าของเย่เชียน
เย่เชียนนั้นก็จ้องมองไปที่มันอย่างใจจดใจจ่อและก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าเทคนิคการทำศัลยกรรมของประเทศเกาหลีน่ะเป็นที่ยอมรับในระดับโลกแล้ว..และไม่ว่าจะเป็นหู..ตา..จมูกหรือปากพวกเขาก็สามารถแก้ไขได้ทั้งนั้น..แล้วคุณหลี่ล่ะครับ..คุณทำส่วนไหนมาบ้างหรอ?”
หลี่ลู่หลานขมวดคิ้วแน่นและพูดว่า “คุณเย่คะ..คุณอย่ามองฉันแบบนั้นสิ..ฉันสวยโดยธรรมชาตินะคะ..แล้วทำไมฉันถึงต้องไปทำศัลยกรรมด้วยล่ะ”
“พอผมเห็นใบหน้าของคุณใกล้ๆ แล้วคุณดูสวยเกินไปน่ะสิ..แล้วคุณหลี่ได้ใช้ซิลิโคนหรือถุงน้ำเกลือยัดใส่ไปที่หน้าอกของคุณหรือเปล่าครับ?” เย่เชียนถาม
“คุณอยากรู้หรอ..ถ้างั้นคุณก็ลองพิสูจน์ดูเองซะเลยสิ?” หลี่ลู่หลานพูดขณะที่เธอเอื้อมมือไปจับมือของเย่เชียนแล้วนำมาวางไว้ที่หน้าอกของเธอ
“แม่งเอ๊ย..นี่เหรอวะแค่คุยกัน..นี่มันฉวยโอกาสชัดๆ” อีกห้องหนึ่งของโรงแรมนั้นหลินยี่ก็ได้ยินการสนทนาระหว่างเย่เชียนกับหลี่ลู่หลานแล้วและเขาก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปเพราะฉะนั้นเขาจึงลุกขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวและรีบวิ่งไปทันที อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ถูกเตรียมการเอาไว้แล้วโดยเย่เชียนเพื่อทำให้หลินยี่ได้รับรู้ว่าจริงๆ แล้วหลี่ลู่หลานนั้นเป็นผู้หญิงแบบไหน เพราะหลินยี่นั้นยังคงคิดอย่างโง่ๆ มาเสมอว่าหลี่ลู่หลานนั้นหญิงสาวที่อ่อนโยนและบริสุทธิ์สำหรับเขา ดังนั้นเย่เชียนจึงได้วางแผนเอาไว้ด้วยมือของเขาโดยทำให้บทสนทนาทั้งหมดระหว่างเขากับหลี่ลู่หลานนั้นถูกส่งไปยังห้องของหลินยี่อย่างชัดเจนและถี่ถ้วน
.
.
.
.
.
.
.