ตอนที่ 346 ความหยิ่งผยองของลูกหลานคนรวย
ด้วยพลังอำนาจและอิทธิพลขององค์กรสามมุมเมืองนั้นในการทำสิ่งต่างๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาใดๆ และด้วยการสนับสนุนของโจวเจิ้งผิงนั้นก็จะไม่มีปัญหาใดๆ กับรัฐบาลและองค์กรในโลกใต้ดินอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อคิดเช่นนี้เย่เชียนก็โล่งใจไปชั่วคราว แต่ทว่าเย่เชียนนั้นก็ไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินการสิ่งต่างๆ อย่างเร็วจนเกินไปเพราะมันอาจจะดึงดูดความสงสัยของโจวเจิ้งผิงได้อย่างง่ายดายเพราะจิ้งจอกเฒ่าคนนี้คงไม่ง่ายที่จะจัดการอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อโจวเจิ้งผิงสงสัยเขาเมื่อไหร่ล่ะก็มันอาจจะขัดขวางการพัฒนาในอนาคตของเขาอย่างมากแน่นอน
การดำเนินการต่างๆ ของศูนย์การขนส่งโลจิสติกส์นั้นได้รับการดูแลโดยเหลียงหยาน ส่วนสโมสรโรงยิมศิลปะการต่อสู้นั้นเฉินโม่ก็รับหน้าที่ดูแลและเป็นผู้ฝึกสอนรวมไปถึงเหล่านักสู้จากหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตทั้งหมดด้วย โดยเย่เชียนนั้นได้จัดแจงและมอบหมายหลักสูตรการสอนต่างๆ เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ในด้านของชิงเฟิงและนากาจิมะชินนะก็รีบมาสมทบที่ไต้หวันแล้วแต่ทว่าตัวตนของพวกเขานั้นถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับ และเย่เชียนจะติดต่อพวกเขาผ่านโทรศัพท์ดาวเทียมเพียงเท่านั้น
ทุกๆ วันนี้เย่เชียนก็ร่วมรับประทานอาหารกับเหล่าเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่เสมอและคอยส่งเงินให้พวกเขาเป็นระยะๆ ซึ่งหูวเค่อก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากและเธอก็แอบสงสัยว่าเงินสดของเย่เชียนนั้นถูกพิมพ์ออกมาเองหรือเปล่า เพราะธนบัตรเหล่านั้นทั้งใหม่เอี่ยมและมีเกรดสูงกว่าธนบัตรทั่วไปอย่างมาก
ในด้านของหูวเค่อเองเธอก็ไม่ได้เพิกเฉยแต่อย่างใดเพราะช่วงนี้นั้นเธอเองก็เข้าหาเหล่าภรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านั้นทุกวันโดยรับฟังทุกรายละเอียดจากพวกเธอเกี่ยวกับงานอดิเรกและความสัมพันธ์และภูมิหลังและอื่นๆ ของสามีของแต่ละคน ซึ่งหลังจากที่เธอกลับมาที่โรงแรมเธอก็ใช้ปากกาวาดและร่างเครือข่ายความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วส่งให้เย่เชียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่มีใครจากโลกภายนอกที่รู้เรื่องนี้และแม้แต่หูวเค่อเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเย่เชียนนั้นได้เริ่มแผนการกวาดล้างแล้วโดยใช้หน่วยกรงเล็บหมาป่าหรือองค์กรดาร์คลิลลี่ของนากาจิมะชินนะและชิงเฟิง เพื่อกวาดล้างองค์กรซูเหลียนและองค์กรเทียนเต๋า ซึ่งปฏิบัติการนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใดนั่นก็เพราะว่ามันไม่ใช่การกวาดล้างในรูปแบบที่นองเลือดแต่มันเป็นการกวาดล้างแบบจัดฉากให้องค์กรทั้งสองนั้นแตกแยกและบาดหมางให้มากถึงมากที่สุดนั่นเอง โดยต้องทำอย่างระมัดระวังแต่ถี่ถ้วนอย่างมากและห้ามมีข้อผิดพลาดใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ด้วยความช่วยเหลือของโจวเจิ้งผิงนั้นก็ทำให้สถานที่จัดตั้งของศูนย์ขนส่งโลจิสติกส์ถูกเลือกและได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วและการก่อสร้างก็ได้เริ่มดำเนินการขึ้นแล้ว ซึ่งตอนนี้สโมสรโรงยิมศิลปะการต่อสู้ของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วซึ่งในเวลาเพียงหนึ่งเดือนสโมสรโรงยิมดังกล่าวก็ได้เปิดทำการไปทั่วเมืองไทเปแล้วและจำนวนผู้เข้าสมัครก็เต็มทุกที่จึงทำให้โรงยิมอื่นๆ ไม่มีนักเรียนแม้แต่คนเดียวและพวกเขาก็ไม่สามารถประกอบการธุรกิจนี้ต่อได้เลย
หลังจากที่ได้พักผ่อนมาทั้งวันในที่สุดเย่เชียนก็ถูกหูวเค่อบังคับให้ไปขอลายเซ็นของดาราคนดัง ซึ่งไม่ว่าเธอคนนั้นจะสวยหรือเลิศเลอแค่ไหนถึงยังไงเย่เชียนก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างมากที่ต้องมาทำเช่นนี้ ซึ่งเย่เชียนก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงอย่างหูวเค่อจะคลั่งไคล้เหล่าดาราคนดังซูเปอร์สตาร์ของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หรือละครโทรทัศน์หรือนักร้องถึงขนาดนี้
เมื่อเห็นว่าวันนี้หูวเค่องานยุ่งและมีธุระสำคัญที่ต้องทำดังนั้นเย่เชียนจึงจำใจรับปากกับเธอโดยเย่เชียนนั้นสวมชุดสบายๆ ง่ายๆ และขับรถออกไปซึ่งรถคันนี้เป็น Volkswagen Jetta ที่ธรรมดาๆ มากนั่นก็เพราะว่าเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรโจ่งแจ้งและเป็นจุดเด่นมากนักเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งรถคันนี้นั้นราคาถูกมากและเย่เชียนนั้นก็ไม่เคยซื้อรถเลยสักคันแต่ทว่าตอนที่เขาอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่เขาก็ขับรถ Lamborghini ของฉินหยูเท่านั้น ดังนั้นหลังจากที่เขามาถึงไต้หวันเย่เชียนก็ตัดสินใจซื้อ Volkswagen Jetta คันนี้เพื่อความสะดวกสบาย
เย่เชียนในตอนนี้รู้สึกหดหู่ใจอย่างมากเพราะการที่จะไปขออัลบั้มเพลงที่มีลายเซ็นของคนดังนั้นมันลำบากอย่างมาก ซึ่งเย่เชียนเองก็สามารถโทรไปหาผู้จัดการของดาราคนนั้นได้โดยตรงเพื่อรับอัลบั้มลายเซ็นแต่ทว่าหูวเค่อกลับบอกเอาไว้ว่านั่นมันคงจะไม่มีความหมายอะไรเลยเพราะถ้าหากเย่เชียนไปแสวงหามันด้วยตัวเองล่ะก็ของชิ้นนั้นมันก็จะมีความหมายสำหรับเธออย่างมากและเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของเย่เชียนและให้เธอมีความสุขเช่นนั้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ต้องลำบากอย่างมากเพราะเขาอาจจะต้องเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปจนเหงื่อท่วมตัวก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามในเมื่อหูวเค่อพูดเช่นนั้นแล้วเย่เชียนเองก็จะไม่ลังเลอีกต่อไปเพราะถึงยังไงหูวเค่อก็ทั้งสวยและน่ารักอย่างมากในสายตาของเขาในตอนนี้ เพราะหลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนๆ เช่นนี้ทำให้ความสัมพันธ์ขอเย่เชียนกับเธอก็ดีขึ้นและเป็นไปด้วยดีอย่างมาก
หลังจากที่เย่เชียนขับรถออกมาจากโรงแรมได้ไม่นานจู่ๆ รถ Porsche คันหนึ่งขับเข้ามาตีคู่และชะลอความเร็วลงหลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็ติดไฟแดงด้วยกัน ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจงใจขับเข้ามาหาเย่เชียนเพราะเมื่อรถทั้งสองคันติดอยู่ที่ไฟแดงแล้วชายหนุ่มในรถ Prosche ก็ผิวปากให้เย่เชียนซึ่งเบาะข้างๆ เขาคนนั้นก็เป็นหญิงสาวสุดเซ็กซี่และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเธอเห็นเย่เชียนเธอก็จงใจใช้มือปลดกระดุมเสื้อของเธอด้วยมือทั้งสองข้างและเผยให้เห็นเนินหน้าอกสีขาวนวลของเธอ
“เฮ้พวก! ..มาแข่งกันหน่อยมั้ย?” ชายหนุ่มถามอย่างยั่วยุและท้าทาย
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ เพราะลูกหลานคนรวยเหล่านี้มักจะไม่มีอะไรทำและมักจะทำตัวไร้สาระไปวันๆ ซึ่งเย่เชียนนั้นก็เคยพบเห็นพวกเขามามากมายแล้วและเย่เชียนก็ขี้เกียจเกินไปที่จะไปต่อร้องต่อเถียงกับคนประเภทนี้ ดังนั้นเย่เชียนจึงพูดอย่างแผ่วเบาว่า “เอ่อ..นายควรดูแลแฟนนายให้ดีกว่านี้หน่อยนะ..ดูสิเธอเปิดจนจะเห็นกันหมดอยู่แล้ว!”
ชายหนุ่มก็หันหน้าไปมองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขาจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างไม่แยแสและพูดว่า “หืม..นายชอบเธอมั้ยล่ะ? ..ฉันยกเธอให้นายได้นะ..เพราะว่าฉันน่ะรวยมากและผู้หญิงหลายคนก็อยากที่จะอ้อมล้อมตัวฉัน..ถ้างั้นก็เอาแบบนี้มั้ย..ถ้านายชนะฉันจะยกเธอให้นายและฉันก็จะให้เงินนายอีก 200,000 หยวนเลย..ตกลงมั้ย?”
“ห๊ะ! ..นายขับ Prosche แต่ฉันขับ Volkswagen Jetta เนี่ยนะ? ..นายใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย” เย่เชียนพูดอย่างหดหู่เมื่อคิดว่าเขาน่าจะขับ Maserati คันนั้นมาแทน
“เอาหน่าๆ ..นายไม่อายบ้างหรอที่ขับรถธรรมดาๆ แบบนี้?” ชายหนุ่มคนนั้นพูด “มันดูไม่สมกับผู้ชายอย่างเราๆ เลยนะพวก..มาเถอะ! ..ถ้านายชนะนายก็รับ 200,000 หยวนไป..และยังได้ผู้หญิงไปฟรีๆ อีก..แต่ถ้านายแพ้ก็เรียกฉันว่าลูกพี่ซะแล้วฉันจะลืมๆ มันไปแค่นั้นเอง”
เย่เชียนนั้นรู้สึกหดหู่เล็กน้อยเพราะทั้งๆ ที่เขานั้นไม่ได้ไปยั่วยุหรือทำให้ใครขุ่นเคืองเลยแล้วทำไมเขาถึงต้องมาเจอผู้ชายคนนี้ด้วย? หรือจะเป็นไปได้ไหมว่าเขาอาจจะขับรถเร็วเกินไปเมื่อครู่นี้จึงไปกระตุ้นความสนใจของผู้ชายคนนี้เข้า? ซึ่งเมื่อคิดๆ ดูแล้วมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นซึ่งมันก็อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณและทักษะการขับรถฝ่าสนามรบของเย่เชียนนั้นโชกโชนเกินไปจนทำให้เขาขับรถได้ดีเช่นนี้และถึงแม้ว่ามันจะเป็นรถ Volkswagen Jetta ธรรมดาๆ ก็ตามแต่มันก็สามารถมีความเร็วสูงสุดได้
เนื่องจากมีใครสักคนที่กำลังจะมาหยามเกียรติของเขาดังนั้นเย่เชียนจึงไม่สามารถแสดงความอ่อนแอได้อย่างเป็นธรรมชาติและถึงแม้ว่ารถของเขานั้นจะแตกต่างกันมากแค่ไหนก็ตามแต่ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือใครที่อยู่หลังพวงมาลัยนั่นเอง ซึ่งถึงแม้ว่ารถของเย่เชียนนั้นจะไม่ได้หรูหราอะไรมากนักแต่ถึงยังไงมันก็ยังดีในแง่ของรถยนต์จากต่างประเทศและถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูธรรมดาๆ ก็ตามแต่ถึงยังไงประสิทธิภาพของมันก็ไม่ได้แย่เลย
“แล้วจะแข่งกันยังไง?” เย่เชียนถาม
“ก็รถใครที่วิ่งไปจนสุดถนนได้ก่อนก็จะเป็นฝ่ายชนะ!” ชายหนุ่มพูด “แล้วนายก็นับเลขหนึ่งถึงสามจากนั้นเราก็ออกตัวกันได้เลย”
“ให้ฉันนับเหรอ?” เย่เชียนถาม
“ใช่นายนับ!” ชายหนุ่มตอบ
“เอาล่ะเตรียมนะ!” เย่เชียนเหยียบคันเร่งด้วยเท้าขวาส่วนเท้าซ้ายก็เหยียบเบรคเอาไว้เพื่อพร้อมที่จะเร่งความเร็วและออกตัวด้วยความเร็วสูงสุด “หนึ่ง..สอง..สาม!” เย่เชียนปล่อยเท้าซ้ายที่เหยียบเบรคเอาไว้และใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรถก็พุ่งออกไปราวกับว่ามันบินได้
“เฮ้ยๆ ..ไอบ้าเอ๊ย!” ชายหนุ่มตะโกนไล่หลังและรีบเหยียบคันเร่งตามไป
ถึงแม้ว่าสมรรถนะของ Volkswagen Jetta จะดีตามมาตรฐานก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่ระดับรถสปอร์ต เพราะอย่างมากมันก็วิ่งได้สูงสุดแค่ร้อยต้นๆ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียงเท่านั้น แต่ทว่าถนนสายนี้มันเป็นถนนที่ผู้คนพลุกพล่านและมีการจราจรหนาแน่นจึงทำให้ Prosche รุ่นใหม่คันนี้ไม่สามารถวิ่งได้อย่างเต็มกำลังสูงสุดของมันและนอกจากนี้ทักษะการขับรถของชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับเย่เชียนเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้ Volkswagen Jetta ของเย่เชียนก็ยังคงขับเปลี่ยนเลนไปมาอย่างพลิ้วไหวจนทำให้รถ Porsche ของชายหนุ่มถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังไกลๆ
ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเกรี้ยวขึ้นมาและเขาก็เหยียบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วให้ตามได้ทัน ซึ่งสมรรถนะของ Porsche นั้นก็ดีเยี่ยมอย่างสมศักดิ์ศรีรถหรูซึ่งใช้เวลาไม่นานนักในการไล่ตามรถของเย่เชียนแต่ทว่าความแตกต่างก็คือระยะทางเพียงนิดเดียวของรถทั้งสอง ซึ่ง Volkswagen Jetta ของเย่เชียนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ Porsche อย่างแน่นอน แต่ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนของเย่เชียนในการขับรถนั้นเมื่อใดก็ตามที่ชายหนุ่มคนนั้นต้องการแซงเขาแต่เย่เชียนก็จะเบี่ยงเลนมาขวางหน้าเขาอย่างรวดเร็วและทำให้ชายหนุ่มคนนั้นไม่สามารถแซงไปได้เลย
ชายหนุ่มก็กังวลอย่างมากเพราะถ้าหากเขาพ่ายแพ้ให้กับ Volkswagen Jetta ล่ะก็เขาก็จะเสียหน้าและอับอายอย่างมาก และยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องสูญเสีย 200,000 หยวนไปอีกและถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาจะร่ำรวยก็ตามแต่ทว่าการเสียเงิน 200,000 ไปอย่างง่ายดายเช่นนี้มันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขานั้นไม่สามารถที่จะเสียหน้าและอับอายได้ ส่วนผู้หญิงข้างๆ เขานั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเธออีกต่อไปเพราะเขารวยอยู่แล้วและเขาก็หาผู้หญิงเมื่อไหร่ก็ได้แต่การที่จะต้องอับอายและเสียหน้านั้นเขายอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว โดยความโกรธเกรี้ยวที่เขาไม่สามารถแซงเย่เชียนไปได้เขาจึงเร่งความเร็วไปชนท้ายรถของเย่เชียนเป็นระยะๆ
“เฮ้ยไอ้เวรนี่..นายเล่นแบบนี้เลยเหรอวะ!” เย่เชียนพูดและถ่มน้ำลายออกไปและมันก็ปลิวไปตามสายลมและไปตกลงบนหน้าอกของผู้หญิงคนนั้นและทำให้เธอตกใจจนกรีดร้อง
“ยัยนี่หนิจะตกใจอะไรขนาดนั้น..ทีบนเตียงล่ะไม่เห็นเธอจะร้องครวญครางอะไรออกมาเลย” ชายหนุ่มสบถด้วยความโกรธเกรี้ยวและยิ่งเร่งความเร็วเพื่อชนท้ายรถของเย่เชียนต่อไปอย่างหมดหนทาง
หญิงสาวก็สาปแช่งชายหนุ่มอยู่ในใจว่า ‘ทำไมฉันถึงไม่ร้องออกมาน่ะเหรอ..ก็ของนายมันเหมือนไม้จิ้มฟันอันเล็กๆ ยังไงล่ะ..ต่อให้เป็นเด็กสาวก็เถอะพวกเธอก็คงจะไม่ร้องออกมาหรอก!’ แน่นอนว่าเธอจะไม่พูดแบบนี้ออกมาดังๆ
เมื่อเห็นว่ามันเกือบจะสุดถนนแล้วชายหนุ่มก็ยิ่งอดทนไม่ไหวแต่ดูเหมือนว่าเย่เชียนนั้นจะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้คิดอะไรอยู่เพราะเมื่อใดก็ตามที่ชายหนุ่มต้องการเปลี่ยนเลนเพื่อแซงเย่เชียนก็เบี่ยงเลนไปบังเสมอ ไม่ว่าชายหนุ่มต้องการจะแซงจากทางซ้ายหรือทางขวาถึงยังไงเย่เชียนก็รู้ทันทุกเมื่อ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ชายหนุ่มก็เริ่มสงสัยว่าเย่เชียนนั้นเป็นปีศาจแห่งท้องถนนหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นเย่เชียนจะรู้ถึงความคิดของตนได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ยังคงพยายามอย่างมากที่จะแซงไปให้ได้เพราะถ้าหากเขาทำได้ล่ะก็ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จบและเขาก็จะเป็นผู้ชนะอย่างสมบูรณ์แบบ
ในเหล่าสมาชิกของเขี้ยวหมาป่านั้นหลี่เหว่ยเป็นนักซิ่งที่ผิดกฎจราจรเป็นประจำซึ่งคติประจำใจของหลี่เหว่ยก็คือความสง่างามบนถนนและหลี่เหว่ยก็มักจะท้าแข่งกับเย่เชียนอยู่บ่อยๆ จึงทำให้ทักษะในการแข่งรถของเย่เชียนนั้นยอดเยี่ยมอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเย่เชียนนั้นก็คุ้นเคยกับชัยชนะบนถนนแบบนี้มาตั้งนานแล้วและนี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่ไม่ว่ารถของคุณนั้นจะเป็นรถอะไรหรือรถของคุณนั้นจะเร็วและแรงมากสักแค่ไหนแต่ถึงยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือใครที่อยู่หลังพวงมาลัยนั่นเอง
“วู้ววว! ..” เย่เชียนเหยียบเบรกอย่างกะทันหันและ Volkswagen Jetta ของเขาก็ทำการดริฟท์อย่างสมบูรณ์แบบและหยุดนิ่งอยู่กลางถนนอย่างสง่างาม ส่วน Porsche ของชายหนุ่มนั้นเขาก็หักพวงมาลัยและเหยียบเบรกเช่นกันแต่ทว่ารถของเขาก็ค่อยๆ ไหลไปชนเข้ากับเสาไฟด้านข้างแต่ก็ไม่แรงมากนัก ชายหนุ่มก็เกาหัวตัวเองและเปิดประตูรถออกมาแล้วเดินออกมาพร้อมกับพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เฮ้ยๆ ..แบบนี้ไม่นับสิ”
เย่เชียนก็ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อยเขาเพียงลงจากรถและเดินไปที่ท้ายรถและจ้องมองมันแล้วพูดว่า “ไม่นะ! ..รถที่ฉันเพิ่งจะซื้อมามันพังยับซะแล้ว!”
.
.
.
.
.
.
.