เย่เชียนยิ้มเบาๆขณะที่เขาอำลาฟูจุนเฉิงและคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็เข้าไปในรถของเลขานุการของจ้าวเทียนห่าวเขาชื่อว่าหูเก๋อและพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยนานาชาติ สำหรับจ้าวเทียนห่าวแล้วเย่เชียนนั้นก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดีถึงแม้ว่าจ้าวเทียนห่าวจะเชื่อในความมีน้ำใจและความเมตตากรุณาของเย่เชียนก็ตาม แต่เขาก็ยังคงตั้งรักษามาตรการป้องกันในกรณีนี้เขาแอบสั่งให้เลขาหูเก๋อส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเทียนหยากรุ๊ปมาคอยสอดส่องลูกสาวของเขาจ้าวหยา แต่เย่เชียนก็ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ตลกเล็กน้อยเมื่อเขาคิดว่าเขาค่อนข้างโตแล้วแต่กลับต้องไปเป็นเด็กมหาลัยเพราะเมื่อครู่นี้เลขาหูเก๋อบอกกับเย่เชียนว่าเขาได้เตรียมการให้เย่เชียนสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้วมันจึงทำให้เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเลขาหูเก๋อก็หัวเราะและพูดว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคุณในการทำภารกิจของคุณ เย่เชียนก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธ
“เธอสวยมั้ย?” เย่เชียนถามอย่างกระวนกระวายเล็กน้อย
เลขาหูเก๋อตกใจเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า “สวย..สวย!” ถึงแม้ว่าจ้าวหยาจะสวยก็ตาม แต่เธอเหมือนกับปีศาจร้าย ทว่าเขาก็อาจจะไม่ปฏิเสธได้เลยว่าเธอไม่สวยเลย
“เธอเป็นคนยังไง? เธอเข้ากับคนอื่นได้ดีมั้ย?” เย่เชียนถามอย่างสงสัย
“อะ..โอ้ฮ่าๆ..เธอเป็นลูกคุณหนูที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยน่ะ..เธอก็จะเย่อหยิ่งนิดหน่อยอะนะ แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นเด็กดีและเข้าได้ดีกับคนที่เธอชอบน่ะ” เลขาหูเก๋อตอบอย่างจริงใจแม้จะตะกุกตะกักนิดหน่อยก็ตาม
เย่เชียนขมวดคิ้วเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเลขาหูเก๋อและดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และเขาก็ไม่คิดว่าจ้าวหยาจะเข้าได้ดีและเป็นมิตรกับเขาง่ายดายขนาดนั้นเหมือนที่เลขาหูเก๋อบอกเป็นแน่ เขาได้ยินแค่ว่าจ้าวหยานั้นเย่อหยิ่งแล้วเขาจะต้องเจอกับปัญหาที่น่าปวดหัวนี้อย่างแน่นอน เขาคิดในใจว่า ‘ฉันแค่อยากจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธรรมดาๆ แต่ทำไมต้องมาเจอกับเรื่องปวดหัวเช่นนี้ด้วย’ แต่ถึงยังไงก็ตามเขาก็คิดว่าทั้งหมดทั้งมวลเขาแส่หาเรื่องใส่ตัวเขาเองแท้ๆ
แต่นี่คือเย่เชียนตราบใดที่เขาเห็นคนที่เขาเห็นว่าเป็นพวกพ้องรู้สึกสบายใจแล้วเขาก็พร้อมที่จะบุกน้ำลุยไฟไม่ว่าอะไรก็ตาม ท้ายที่แล้วสุดภารกิจนี้ก็แค่ต้องปกป้องเด็กสาวเพียงคนเดียว..
เมื่อพวกเขามาถึงรั้วมหาวิทยาลัยเลขาหูเก๋อก็หยุดรถ และมันเป็นเวลาพักเที่ยงพอดีเย่เชียนเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในโรงอาหารและรู้สึกถึงอารมณ์อ่อนไหวเล็กน้อยในใจของตน เขาฝันถึงชีวิตเฉกเช่นนี้อยู่เสมอชีวิตเสมือนอยู่บนหอคอยงาช้างที่ไร้ซึ่งความกังวลและแสนสุข
เลขาหูเก๋อก็พูดขึ้นมาว่า “คุณเย่เชียน..ผมได้เตรียมการเอาไว้ทั้งหมดแล้วคุณแค่ต้องไปรายงานยังสำนักงานคณบดีของมหาวิทยาลัยเพียงเท่านั้น คุณอยู่ในคลาสเรียนเดียวกันกับคุณหนูจ้าวหยาแล้วมันจะได้สะดวกต่อคุณ..คุณเย่เชียนมีคำถามอะไรอีกมั้ยครับ?”
เย่เชียนถามด้วยความสงสัยว่า “คุณเลขาจะไม่ชี้แนะผมหน่อยเหรอ? ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าสาวๆคนไหนคือคุณหนูคนนั้นล่ะ?”
เลขาหูเก๋อยิ้มเล็กยิ้มน้อยและตอบอย่างคลุมเครือว่า “ก็เอ่อ…ก็เดี๋ยวคุณเข้าไปในห้องเรียนแล้วคุณก็จะรู้เอง!”
เย่เชียนจ้องมองเลขาหูเก๋อด้วยความประหลาดใจและคิดในใจไปต่างๆนาๆว่า ‘หรือเลขาผู้สวมแว่นคนนี้จะกลัวที่จะนึกถึงสาวน้อยคนนั้น..เป็นไปได้ไหมที่คุณหนูนั่นจะน่าเกลียดจริงๆ?’ เย่เชียนเชื่อในคำพูดที่ว่าผู้หญิงที่น่าเกลียดมักจะเอาแต่ใจเพื่อกลบจุดด้อยของพวกเธอและคงเป็นปัญหาระดับชาติของตนอย่างแน่นอน
เย่เชียนไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งแล้วเขาก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และร้ายกาจหลังจากนั้นก็พูดว่า “ผมจะโทรหาลุงจ้าวและบอกเขาว่าผมต้องการสลับตัวกับใครสักคน..ใช่ๆไท่จู้ผมจะสลับกับจ้าวไท่จู้เขาไม่น่าจะมีปัญหา..ฮ่าๆ”
เลขาหูเก๋อมองเย่เชียนด้วยความตกตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงเปลี่ยนใจ
หลังจากที่เขาพูดเช่นนั้นแล้วเย่เชียนก็โทรไปหาจจ้าวเทียนห่าวและบอกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ทว่าจ้าวเทียนห่าวมิได้มีอำนาจในการตัดสินใจนัก ท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนก็มิได้มีภาระผูกพันใดๆแต่กลับต้องมาช่วยเหลือเขา หากเย่เชียนต้องการที่จะถอนตัวในตอนนี้ตนก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธหรือทำอะไรได้ อย่างไรก็ตามจ้าวเทียนห่าวก็ประหลาดใจว่าทำไมเย่เชียนถึงเปลี่ยนใจอย่างกระทันหัน แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไร
เย่เชียนขอให้จ้าวเทียนห่าวส่งโทรศัพท์ให้จ้าวไท่จู้และเมื่อเขาได้ยินเสียงของจ้าวไท่จู้แล้วเย่เชียนก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และร้ายกาจอย่างมากและพูดว่า “พี่ไท่จู้ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่!”
“นายมีอะไรล่ะ?” จ้าวไท่จู้ถามอย่างตรงไปตรงมา
“พี่ยังไม่มีแฟนใช่มั้ย?” เย่เชียนก็พูดอย่างตรงไปตรงมา
จ้าวไท่จู้จ้องมองอย่างว่างเปล่าเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเย่เชียนถึงถามแบบเรื่องนี้ขึ้นมาในเวลานี้ แต่เขาก็ยังตอบตามความเป็นจริงว่า “ฉันไม่มี? ทำไมนายจะแนะนำผู้หญิงให้ฉันหรือ?”
“บิงโก..พี่เดาถูกแล้ว!” เย่เชียนตอบอย่างกระตือรือร้น
“ถ้าผมไม่ได้มาที่นี่ผมก็ไม่รู้เลยผมประหลาดใจมากมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีสาวสวยเยอะแยะมากมายเลย! เห้อ..เสียดายที่ผมมีแฟนแล้วผมไม่รู้จะบอกเธออย่างไร ดังนั้นผมจะส่งเรื่องนี้ให้พี่จัดการเรามาสลับหน้าที่กันพี่มาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้และคุ้มกันลูกสาวของลุงจ้าว อย่าคิดว่าน้องชายคนนี้ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ล่ะและก็อย่าบอกให้พี่หวันชุนหัวรู้เรื่องนี้นะไม่อย่างนั้นเขาจะต้องรีบมาอย่างแน่นอน”
เย่เชียนไม่ได้คิดเลยว่าตอนนี้หวันชุนหัวอยู่ข้างๆจ้าวไท่จู้และกำลังฟังบทสนทนาอยู่และเมื่อเขาได้ยินที่เย่เชียนพูดเช่นนั้นหวันชุนหัวก็เย้ยหยันและพูดพึมพำว่า “แหม่..ฉันคิดว่าเขาเห็นว่ามหาวิทยาลัยนั้นเต็มไปด้วยพวกดึกดำบรรพ์ เพราะงั้นเขาจึงหลอกให้พวกเราไปแทน!”
จ้าวไท่จู้หัวเราะและพูดว่า “น้องเย่นายใจดีกับฉันจริงๆ..แต่สาวๆในมหาวิทยาลัยเหล่านั้นจะสนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างฉันงั้นเหรอ?”
“แน่นอนสิ! นอกจากนี้พี่มาที่นี่เพื่อเป็นนักศึกษาพวกเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าพี่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเมื่อพวกเธอได้เห็นว่าพี่หล่อแค่ไหนพวกเธอก็จะแห่กันมาลุมล้อมพี่อย่างแน่นอน..เมื่อถึงเวลาพี่จะตัดสินใจยากว่าจะเลือกคนไหนเป็นแฟนเพราะพวกเธอสวยกันทุกคนเลย! กว่าพวกเธอจะรู้ว่าพี่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจริงๆล่ะก็ พวกเธอก็คงจะตั้งท้องแล้ว! พี่ก็จะมีลูกด้วยนะ! มันจะสายเกินไปสำหรับพวกเธอที่จะกลับไปยังจุดนั้น” เย่เชียนพูดอย่างกระตือรือร้นและหยอกล้อนิดหน่อย
เลขาหูเก๋อที่อยู่ข้างๆรู้สึกว่าเย่เชียนเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมประธานจ้าวถึงชอบและไว้ใจเด็กคนนี้
“ฮ่าๆ..ฉันรู้ว่าฉันหล่อแค่ไหนแต่สาวสวยเหล่านั้นมักจะพูดว่าหน้าตาไม่สามารถกินได้ พวกเธอต้องการคนรวยมันแย่มากที่ฉันไม่มีเงิน” จ้าวไท่จู้พูดตัดพ้อตัวเอง
“พวกเธอเป็นลูกคุณหนู!..มหาวิทยาลัยแห่งนี้เต็มไปด้วยเด็กที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยทั้งนั้นเลย มีสาวสวยมากมายที่ไม่สนใจเรื่องเงินเพราะพวกเธอเชื่อว่าคนสำคัญกว่าเงิน..ไม่ต้องกังวลไปน้องชายคนนี้ไม่ได้หลอกพี่..ถ้าพี่ไม่เห็นด้วยตอนนี้พี่จะเสียใจในภายหลังนะ ถ้าพี่มาขอเปลี่ยนกับผมตอนนั้นผมก็จะไม่เปลี่ยนกับพี่แล้วนะ!” เย่เชียนกระวนกระวายเล็กน้อยเพราะจ้าวไท่จู้เป็นคนง่ายๆและปธิเสธคนไม่ค่อยเป็นแต่ทำไมเขาถึงยังต่อต้านได้อีก!!
จ้าวไท่จู้หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า “น้องเย่อย่ามาหลอกฉัน..ฉันไม่ไปหรอก!”
“เห้อ!” เย่เชียนถอนหายใจอย่างสิ้นหวังและหมดหนทาง เมื่อเขาพบว่าจ้าวไท่จู้ที่เป็นคนเห็นด้วยกับเขาตลอดในเวลานี้พี่ชายคนนี้ดูเหมือนใสซื่อแต่เขาเป็นคนทรยศใจน้องชายในท้ายที่สุด! เมื่อสิ่งต่างๆมาถึงจุดนี้เย่เชียนก็ได้แต่โทษโชคชะตาของเขาเท่านั้น ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นราชาหมาป่าแห่งกองกำลังทหารรับจ้าง ทำไมเขาถึงต้องกลัวสาวน้อยด้วย? เขาต้องใจเย็นและกล้าเผชิญหน้าถึงแม้ว่าคุณหนูคนนั้นจะไร้ซึ่งความงามก็ตามแต่เขาก็ต้องคิดว่าเอาไว้ว่าเธอคือเตียวเสี้ยนที่มีความงามที่ทำให้แม้แต่ดวงจันทร์ยังต้องหลบทางให้เธอ
เขาถอนหายใจลึกๆจากนั้นเย่เชียนก็เปิดประตูรถแล้วก้าวออกไป เขาเงยหน้าขึ้นมองสัญลักษณ์บนประตูของมหาวิทยาลัยนานาชาติและพูดพึมพำกับตัวเองว่า “นี่เป็นสวนจูราสสิคปาร์คจริงๆอย่างงั้นเหรอ?”
.
.
.
.
.
.
.