“ซื้ด..” เย่เชียนสูดหายใจด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อยจากการถูกบีบเอว การแก้แค้นของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างรุนแรง เขาหันหน้าไปเพื่อเผชิญหน้ากับเธอและยิ้มจากนั้นเขาก็บีบแก้มของฉินหยูเบาๆแล้วพูดว่า “น่ารักมาก!”
ฉินหยูไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะทำเช่นนี้กับเธอในลักษณะดังกล่าว มันยิ่งทำให้พวกเขาทั้งสองดูเหมือนว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่หยอกเย้ากันอย่างหวานละมุน เหว่ยเฉิงหลงกัดฟันด้วยความเกลียดชังและอิจฉาริษยาและไม่สามารถทนดูพวกเขาทั้งสองได้อีกต่อไปมิฉะนั้นเขาอาจโกรธจัดจนหัวใจวายตาย
“ฉินหยูงั้นฉันไปก่อนนะ อย่าลืมไปงานราตรีสุดสัปดาห์นี้ล่ะ” หลังจากเหว่ยเฉิงหลงพูดเช่นนี้เขาก็จากไป
“เธอ..เธอยังไม่ปล่อยมืออีกเหรอ” ฉินหยูพูดในขณะที่จ้องมองเย่เชียนหลังจากที่เหว่ยเฉิงหลงออกไปจากห้อง
เย่เชียนหัวเราะเบาๆและปล่อยมือออกจากไหล่ของเธอและเขาก็พูดอย่างเศร้าใจว่า “นี่..คุณทำลายสะพานเชื่อมระหว่างเรา..คุณทำร้ายหัวใจผมมากเลย”
ฉินหยูจ้องมองเย่เชียนและพูดว่า “อย่าคิดว่าฉันจะมองข้ามเรื่องนี้ เธอกล้าที่จะหยิกแก้มฉัน!”
“ก็คุณบีบเอวผมก่อน คุณมีเหตุผลหน่อยสิ” เย่เชียนพูดอย่างใสสื่อ
“แล้วใครบอกให้แตะตัวฉัน! ถ้าเธอไม่สัมผัสฉันก่อนฉันก็ไม่หยิกบีบเธอหรอก!” ฉินหยูพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ถ้าผมไม่ทำเช่นนั้น เขาจะเชื่อได้อย่างไร” เย่เชียนตอบอย่างจริงจัง
“ฉันไม่รู้..ฉันไม่สน..ยังไงมันก็เป็นความผิดของเธอ!” ฉินหยูขมวดคิ้วขณะพูด
“ใช่ผมมันโง่เอง..ที่เผลอใจแอบรักอยู่ฝ่ายเดียว..ผู้หญิงช่างไม่มีเหตุผลเสียจริงๆ” เย่เชียนพึมพำๆกับตัวเองจากนั้นเขาก็ถามฉินหยูว่า “คนคนนั้นเมื่อครู่นี้เป็นใคร? ดูเหมือนเขาจะชอบคุณนะ”
ฉินหยูตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดแล้วตอบอย่างเย้ยหยันว่า “เขาเป็นคนหลงตัวเอง เธอเคยได้ยินชื่อเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปไหม?”
“เหว่ยตงเซียนกรุ๊ป? คุ้นๆเหมือนเคยได้ยิน” เย่เชียนพยักหน้าขณะที่เขาจำได้ว่าจ้าวเทียนห่าวเคยพูดถึงเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปกับเขา
“เขาเป็นผู้บริหารของเหว่ยตงเซียนกรุ๊ปน่ะบริษัทเครือตงเซียนกรุ๊ปมีอิทธิพลอย่างมากในเซี่ยงไฮ้ เธอไม่กลัวว่าเหว่ยเฉิงหลงจะพยายามแก้แค้นหรือทำร้ายเธอหรือ?” ฉินหยูพูดอย่างกังวล
“โถ่?..ทำไมคุณไม่พูดก่อนหน้านี้ นี่มันช่างเลวร้ายชัดๆผมเพิ่งจะกระโดดลงไปในหุบเหวนรกดีๆนี่เอง ผมควรรีบไปอธิบายทุกอย่างให้เหว่ยเฉิงหลงฟัง ผมต้องบอกเขาว่าคุณไม่ใช่แฟนของผมและผมถูกคุณบังคับ” เย่เชียนแกล้งพูดและแสร้งทำเป็นว่ากลัว
“ช่างกล้านะเธอ!” ฉินหยูจ้องมองเย่เชียนอย่างผิดหวังเล็กน้อย
“โถ่เอ้ย..ทำไมจะไม่กล้าล่ะ..และทำไมผมต้องแกล้งเป็นแฟนของคุณด้วย? มันไม่มีประโยชน์เลยและยิ่งตอนนี้ชีวิตของผมก็ตกอยู่ในอันตรายอีกด้วย” เย่เชียนตอบและแกล้งทำเป็นกระวนกระวาย
“อย่ามาเฉไฉ!” เธอพูดอย่างรุนแรงและจากนั้นเธอก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ถ้าอย่างงั้นเธอต้องการประโยชน์อะไรล่ะ!”
เย่เชียนแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะที่เขาพูดว่า “ในเมื่อคุณเป็นแฟนของผมอย่างน้อยๆคุณจะไม่ให้ผมจูบคุณหน่อยเหรอ!”
“ฝันไปเถอะ! ไม่มีทางหรอก!..นอกจากนี้เราก็แค่แกล้งทำเท่านั้นแหละ” ฉินหยูปฏิเสธ เธอคิดว่าถึงแม้ว่าเย่เชียนจะช่วยเธอด้วยความสมัครใจ แต่เธอก็ยังต้องการเขาต่อไป เธอคิดว่าเธอจะต้องให้รางวัลเล็กๆน้อยๆแก่เขา เธอยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูดว่า “ถ้างั้นทำไมเราไม่ไปทานข้าวด้วยกันล่ะ?”
“คุณต้องการให้ผมไปทานมื้อเย็นกับคุณหรือ คุณคิดว่าผมเป็นคนโง่เหมือนเหว่ยเฉิงหลงเหรอ?” เย่เชียนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจและพูดอีกว่า “ไม่มีทาง..คุณคิดว่าผมมีเงินเยอะมากเหรอ?”
“ไม่..เดี๋ยวฉันเอง เธอไม่ต้อง!” ฉินหยูพูดอย่างเร่งรีบ
“เอาล่ะๆ..ช่างมันเถอะ..ถึงผมจะไม่เต็มใจก็ตาม” เย่เชียนพูดราวกับว่าฉินหยูเป็นคนมาขอร้องให้เขาไปทานอาหารกับเธอราวกับว่าเขาเป็นความโปรดปรานของเธอมาก
ฉินหยูเห็นการแสดงออกของเขาและจ้องมองเขาจากนั้นก็พูดอย่างฉุนเฉียวว่า “รอฉันข้างนอกตอนหกโมงเย็นหลังเลิกเรียน..อย่ามาสายล่ะ!”
“นี่..ผมไม่เคยสายสำหรับอาหารฟรีเล้ย!” เย่เชียนยิ้มราวกับปีศาจ
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะทำตัวเหมือนอันธพาลก็ตาม แต่ฉินหยูก็มั่นใจว่านั่นเป็นเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเท่านั้นเพราะเธอเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน บรรดาลุงๆและพี่น้องในครอบครัวของเธอพวกเขาก็ล้วนแต่เป็นคนเลวทรามทั้งนั้น
“เอาล่ะเธอกลับไปที่ห้องเรียนได้แล้วคลาสกำลังจะเริ่ม ฉันยังต้องเตรียมบทการสอนของฉัน” หลังจากที่ฉินหยูพูดเสร็จเธอก็ก้มหัวของเธอเพื่อดูบทการเรียนการสอนของเธอที่จะต้องเตรียม
เย่เชียนเบะปากอย่างช่วยไม่ได้และเดินออกไปจากออฟฟิศ
ก่อนที่จะถึงห้องเรียนจู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อเขารับโทรศัพท์เขาก็ได้ยินเสียงของจ้าวเทียนห่าวว่า “เย่เชียนนี่จ้าวเทียนห่าวนะ..ฉันคิดว่าแผนของนายดีมากทำตามที่นายบอกได้เลย”
เย่เชียนรู้สึกว่างเปล่าและตอบอย่างสับสนไปว่า “แผนของผม?”
“หะ? นายไม่ใช่คนที่แกล้งเป็นแฟนของหยาเอ๋อคนนั้นหรอกเหรอ เมื่อสักครู่นี้หยาเอ๋อโทรมาหาฉันและฉันก็คิดว่าแผนของนายมันก็ไม่เลวเลยและฉันก็เลยเล่นไปตามน้ำ ไม่ต้องกังวลอะไรนายสามารถแสร้งทำเป็นคู่หมั้นของเธอต่อไปได้และเฝ้าดูเธออย่างใกล้ชิดสิ่งนี้มันจะช่วยให้นายทำภารกิจได้ดีขึ้น!” จ้าวเทียนห่าวพูดเป็นตุเป็นตะอย่างจริงจังและดูสบายใจ
ในที่สุดเย่เชียนก็เข้าใจทุกอย่างชัดเจน เขาวางแผนที่จะโทรหาจ้าวเทียนห่าวก่อนหน้านี้เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งก็รู้ว่าเขาอาจจะตกลงในทันที และเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเขาคิดว่าตอนนี้จ้าวหยานั้นจะรู้สึกอย่างไร
“เยี่ยมไปเลย!..แต่ว่า..ผมดันเริ่มเรื่องนี้ซะก่อนโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากลุงจ้าวเลย..ผมหวังว่าลุงจะให้อภัยผมได้นะ” เย่เชียนค่อนข้างพอใจกับตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะพูดสารภาพด้วยถอยคำที่ดูเสียใจ แต่เขาก็มีสีหน้าถึงพอใจอย่างมาก
จ้าวเทียนห่าวหัวเราะและตอบว่า “โอ้..ไม่เป็นไรๆ ฉันต้องการให้นายดูแลลูกสาวที่เกเรของฉัน หากมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันล่ะก็เย่เอ๋อฉันขอฝากเธอด้วยล่ะ..และอย่าให้เธอรู้!”
เย่เชียนรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมากราวกับว่านี่คือใบเบิกทางในการเข้าถึงหญิงสาวและเขาคิดว่าจ้าวเทียนห่าวคนนี้เป็นคนที่ใจกว้างมากและจะดีมากถ้าเขาเป็นพ่อตาของตน.. และหลังจากพูดคุยอีกสองสามเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกเขาก็จบการสนทนาและวางสายไป เมื่อเย่เชียนไปถึงทางเข้าห้องเรียนเขาก็เห็นว่าเหลือนักศึกษาอยู่เพียงไม่กี่คนซึ่งจ้าวหยาก็นั่งอยู่ข้างในห้อง
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเล็กน้อยเขาจึงตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อจะตีตัวออกไป แต่ทว่าจ้าวหยาก็ดันเห็นเขาเสียก่อนคนที่เป็นดั่งศูนย์รวมของความโกรธของเธอและก็ตะโกนออกมาว่า “หยุด!”
เย่เชียนหัวเราะแห้งๆและหันกลับมาพร้อมร้อยยิ้มและเดินไปหาจ้าวหยาจากนั้นก็ถามว่า “ภรรยาของฉันมีอะไรหรือ?”
“ภรรยาใคร” อย่าพูดไร้สาระ! ภรรยา ภรรยาอยู่นั่นแหละฟังแล้วมันขัดหูขัดตา! ฉันกำลังบอกนายให้ว่าไม่มีทางที่ฉันจะแต่งงานกับนาย!” จ้าวหยาพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็ได้ๆ..ฉันจะไม่เรียกเธอว่าภรรยาแล้ว..ฉันจะเรียกเธอว่าที่รัก” เมื่อเย่เชียนเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอที่กำลังโกรธจัด เขาก็วางแผนที่จะหลีกเลี่ยงเธอหรือทำให้เธอสบายใจ แต่ทว่าตอนนี้เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าเธอเขาก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ
“ที่รักในเรื่องของการแต่งงานเรามาทำสิ่งที่เราต้องทำกันเถอะ ที่รักควรเลิกจู้จี้จุกจิกได้แล้วนะ หลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้วมันจะไม่มีตัวเลือกให้มากนักนะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อเหลาและไม่มีมีความสามารถหรือฐานะที่ดี แต่ฉันก็มีสิ่งที่ผู้ชายทุกคนมีเราควรรีบๆทำให้มันเป็นพิธีการได้แล้วนะเพื่อที่เธอจะได้เลี้ยงลูกน้อยน่ะ…
.
.
.
.
.
.
.