“แกเป็นใคร?” อู่หยางเฉิงขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ที่มาที่ไปและเจตนาของเย่เชียนและเหลี่เหว่ยแต่เมื่อเขาเห็นพวกเขาไม่ละสายตาจากเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นๆอยู่ในใจ และมันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆที่พวกเขามาที่นี่ในตอนนี้และไม่นานเขาก็รวบรวมสติของเขาได้
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิงจำผมไม่ได้จริงๆเหรอ” เย่เชียนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
อู่หยางเฉิงรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเย่เชียน และคิดว่าชายคนนี้ก็รู้อย่างแน่ชัดว่าตนนั้นเป็นใครแต่ยังกล้าที่จะมาทำสิ่งเหล่านี้ในในตอนกลางดึกแบบนี้อีกโดยไม่เกรงกลัวตำแหน่งในราชการของเขาเลยแม้แต่น้อย จากนั้นอู่หยางเฉิงก็ถามขึ้นมาว่า “ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าแกเป็นใคร? แกเข้ามาในบ้านของฉันกลางดึกกลางดื่นแบบนี้เพื่ออะไร?” อู่หยางเฉิงถามอย่างประหม่า
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเฉิงคุณนี่ขี้ลืมเสียจริง คุณไม่ใช่หรือที่สั่งให้พวกตำรวจมาจับผม แล้วคุณก็บอกให้พวกเขาวิสามัญผมและยิงผมให้ตายน่ะ!” เย่เชียนตอบอย่างไม่แยแส
“แก..แกคือเย่เชียนเหรอ?” อู่หยางเฉิงพูดด้วยความหวาดกลัว เขาคาดหวังว่าเย่เชียนจะหาวิธีหลบหนีออกจากเมืองและไปกลบดานหลังจากที่หนีออกจากคุกไม่ใช่บุกเข้ามาในห้องของเขาและแสดงตัวอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นี่เป็นการยั่วยุและตอบโต้อย่างไม่ต้องสงสัย ในสายตาของเขาแม้ว่าเย่เชียนจะเป็นแค่คนธรรมดาๆแต่ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถจะต่อสู้หรือปะทะอะไรกับเย่เชียนได้เลย หลังจากฉุกคิดอยู่ชั่วครู่อู่หยางเฉิงก็เสแสร้งพูดว่า “ถูกต้อง!..คำสั่งนั้นมาจากฉันเอง งานเวิลด์เอ็กซ์โปนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และจู่ๆแกก็ไปฆ่าข้าราชการคนหนึ่ง..นี่เป็นการยั่วยุและท้าทายกับรัฐบาลโดยตรง ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้แกเป็นกรณีตัวอย่างให้คนอื่นๆรักษาความสงบในเซี่ยงไฮ้นี้”
เย่เชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนว่าอู่หยางเฉิงนี่ถ้าไม่เห็นโรงศพคงไม่หลั่งน้ำตาที่ยังกล้าที่จะเสแสร้งแกล้งทำอยู่อีก “คุณนั้นรู้ดีว่าผมไม่ได้ฆ่าใคร..และผมก็ไม่อยากจะเสวนาและยุ่งเกี่ยวกับคุณด้วย” เย่เชียนฉีกยิ้มช้าๆและแกว่งไฟล์และเอกสารในมือของเขาไปมาและพูดว่า “ผมสงสัยจริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากผมส่งคลิปวิดีโอนี้ไปยัง CCDI”
อู่หยางเฉิงเริ่มตื่นตระหนกตกใจและหวั่นเกรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากเย่เชียนทำเช่นนั้นจริงๆล่ะก็ไม่เพียงแต่เขาจะถูกกรมการตรวจสอบวินัยควบคุมตัวและสอบสวนจนนำไปถึงการกักขังเท่านั้น แต่เขาก็จะต้องสูญเสียตำแหน่งผู้ว่าเทศบาลเมืองไปด้วยอย่างแน่นอน แต่อู่หยางเฉิงก็มีทนายที่เก่งและมีฝีมือดีที่ผูกสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่สามารถที่จะตกใจกับคำพูดเหล่านั้นของเย่เชียนได้ง่ายๆ หลังจากเงียบไปชั่วครู่อู่หยางเฉิงก็พูดว่า “นี่มันก็เป็นแค่เรื่องชีวิตส่วนตัวของฉัน CCDI ก็แค่ต้องตรวจสอบไปตามหน้าที่ และนอกจากนี้ด้วยตำแหน่งและพรรคพวกของฉัน การที่จะทำให้เรื่องพวกนี้หายออกไปจาก CCDI มันก็เป็นเรื่องง่ายๆ ฉันคิดว่าแกคงไม่ได้เสี่ยงที่จะมาที่นี่เพื่อแค่เจอฉันและบอกเกี่ยวกับสิ่งนี้แค่นั้นหรอก บอกมาว่าจริงๆแล้วแกต้องการอะไร?”
“นี่แกยังกล้าที่จะโอหังและอวดดีอยู่อีกเหรอ จะอวดตำแหน่งอะไรกันนักกันหนาเดี๋ยวก็ฆ่าให้ซ่ะหรอก!” หลี่เหว่ยตะค่อกและมองอย่างเดือดดาล และคำพูดยังดูคลุมเครือมากนักเพราะหลี่เหว่ยไม่ค่อยเก่งภาษาจีนนักเพราะอาศัยอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เกิดหรือไม่ก็จงใจพูด ทุกครั้งที่เขาพูดคำว่า ‘เฆี่ยน’ ที่หมายถึงการทรมาณเขามักจะพูดว่า ‘ฆ่า’ แทนจึงทำให้หลายๆคนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มบ่อยครั้ง
อู่หยางเฉิงสั่นไปทั้งตัวเพราะเขาเป็นถึงรองผู้ว่าเทศบาลเมืองมันคงเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมากที่ต้องตายด้วยน้ำมือของเด็กๆสองคนนี้ แต่คนก็ค่อนข้างมั่นใจเล็กน้อยว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ฆ่าตนเพราะในตอนที่ตนหลับอยู่ก่อนหน้านี้พวกเขามีโอกาสที่ดีมากที่จะฆ่าตน แต่พวกเขากลับไม่ทำพวกเขาเลือกที่จะเสวนาเรื่องพวกนี้กับเขาแทน จากนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการเจรจาและอู่หยางเฉิงก็ไม่ได้กลัวการเจรจาและต้องยื้อเวลาเท่านั้น ถึงแม้ว่าอู่หยางเฉิงจะตกลงหรือสัญญาอะไรกับพวกเขาเอาไว้ แต่เมื่อใดที่ถึงรุ่งเช้าของวันรุ่งขึ้นเมื่อไหร่ตำรวจทั้งหมดจะระดมพลตามล่าพวกเขาและจะวิสามัญจับตายพวกเขาในทันที เพราะท้ายที่สุดแล้วคนตายก็ไม่สามารถพูดได้
เย่เชียนฉีกยิ้มขณะที่เขาทำท่าทางห้ามหลี่เหว่ยให้หยุด หลี่เหว่ยเป็นคนที่กล้าหาญการฆ่านองเลือดไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆสำหรับเขาเลย มันไม่สำคัญเลยว่าอู่หยางเฉิงเป็นถึงรองผู้ว่าเทศบาลหรืออะไรเพราะพวกเขาเคยทำการสังหารผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในหลายๆประเทศหลายๆรัฐมาก่อนหน้านี้ แต่ในมุมมองของเย่เชียนแม้ว่าการฆ่าอู่หยางเฉิงจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การฆ่าเขาด้วยวิธีนี้จะทำให้ตัวเองถูกมองไม่ดีเพราะหน่วยเขี้ยวหมาป่ากำลังจะสร้างกองกำลังในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องการตัวตนที่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เย่เชียนรู้ดีว่าแม้จะอยู่ในประเทศใดก็ตามต้องผูกมิตรกับข้าราชการและคนของรัฐเอาไว้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงพันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันก็ตาม ตอนนี้เย่เชียนมีพันธมิตรที่อยู่ในระบบของราชการและรัฐบาลพวกเขาคือพี่ใหญ่และน้องสามของเขาเอง หากมีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็จะช่วยเย่เชียนได้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามตำแหน่งในปัจจุบันของพวกเขาก็ยังคงไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีบางสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำเพื่อเย่เชียนได้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องการแค่ไหนก็ตาม
อู่หยางเฉิงผ่อนคลายลงเล็กน้อยจากนั้นเย่เชียนก็จะพูดว่า “ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับท่านรองสักหน่อย!”
“มันคืออะไร?” อู่หยางเฉิงถามด้วยความประหลาดใจ
“มันง่ายมาก..ผมแค่อยากเป็นเพื่อนกับท่านรองผู้ว่าอู่หยางก็แค่นั้น..ไม่รู้ว่าท่านรองจะเห็นด้วยมั้ย?” เย่เชียนพูดเบาๆอย่างเยือกเย็น
“บอส!..” หลี่เหว่ยจ้องมองด้วยความประหลาดใจและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ถูกเย่เชียนทำท่าหยุดเอาไว้ เขารู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะจริงๆแล้วเย่เชียนเป็นคนที่ดุร้ายแล้วทำไมเขาถึงปล่อยอู่หยางเฉิงไปง่ายๆ แต่เมื่อมองดูเย่เชียนดีๆแล้วก็ทำให้ทุกอย่างชัดเจน..สุดท้ายแล้วบอสก็ยังเป็นบอสของพวกเราอยู่วันยันค่ำเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“เพื่อนเหรอ? ทำไมล่ะ?” อู่หยางเฉิงถามอย่างเย้ยหยัน
“เพราะชีวิตของคุณอยู่ในกำมือของพวกเรา!” เย่เชียนตอบอย่างเย็นชา “นอกจากนี้คุณคิดว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้เหรอ? พวกเรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการติดสินบนที่คุณรับเอาไว้และการขายชาติเกี่ยวกับโครงการของรัฐบาล ผมเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ แต่คุณเป็นถึงท่านรองผู้ว่าอู่หยางที่เป็นช้าราชการระดับสูง คุณไม่คิดว่าเราต้องสงบศึกกันสักหน่อยไม่ดีเหรอ?”
อู่หยางเฉิงไม่ได้สงสัยอะไรมากในคำพูดของเย่เชียน แต่บันทึกการรับสินบนของเขาทั้งหมดถูกซ่อนเอาไว้ที่นี่ ถ้าเย่เชียนพบพวกมันจริงๆแล้วล่ะก็ สิ่งนี้ไม่เหมือนกับคลิปวีดีโอเลิฟซีนเหล่านั้น ถ้าโลกได้รู้เรื่องสินบนของเขาล่ะก็อาชีพของเขาก็จะจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์เป็นแน่ อู่หยางเฉิงกัดฟันและตัวสั่นเพราะมีแต่ต้องเห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ชั่วคราวเท่าเพียงนั้น และหลังจากที่เขาได้หลักฐานการรับสินบนกลับคืนมาเขาก็จะสามารถจัดการกับพวกเย่เชียนได้
“ตกลง!..ฉันเห็นด้วย” อู่หยางเฉิงตอบอย่างหมดหนทาง
เย่เชียนฉีกยิ้มในความเป็นจริงเขาไม่ได้ต้องการร่วมงานกับคนอู่หยางเฉิง แต่เพราะเขาต้องทำสิ่งนี้เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเองเพราะในแวดวงรัฐบาลนั้นใครบ้างที่ไร้ซึ่งมิตรและศัตรู? อู่หยางเฉิงไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้ เพราะเย่เชียนมีแผนการบางอย่างอยู่แล้ว
“ท่านรองผู้ว่าอู่หยางเข้าใจแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่พูดอะไรมากอีกต่อไปและขอให้มีคำพูดเหล่านั้นจากคุณก็เพียงพอแล้ว เราจะออกไปในทันที” เย่เชียนลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องหลี่เหว่ยจ้องอย่างว่างเปล่าจากนั้นก็รีบเดินตามไป แต่เย่เชียนก็ชะงักเมื่อเขาไปถึงประตูห้องนอน เขาหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มจางๆและพูดว่า “ท่านรองผู้ว่าอู่หยางไม่ต้องส่งมือสังหารมาติดตามผมหรอกนะ ผมไม่เก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้กับตัวของผมหรอก ถ้าผมตายไปมันจะถูกส่งไปยังโต๊ะของคณะกรรมการตรวจสอบวินัย และนอกจากนี้ท่านรองอู่หยางอายุมากขนาดนี้แต่ยังแข็งแรงและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ในขณะที่เขาพูดเขาชูมือทำท่าถ่ายวิดีโอเย้ยหยันและความหมายของเขาค่อนข้างชัดเจนว่าจะสื่ออะไร
.