หูเยว่รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากราวกับว่าหลี่ฮ่าวได้ใช้มีดแทงเข้าไปในกลางใจของเขา ถึงแม้ว่าหวังปิงที่อยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการผู้ว่าเทศบาลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวของกับการสืบสวนคดีอาญาก็ตาม แต่เขาก็เป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในคณะกรรมการเทศบาล เขาเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเองเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่ใช้เครือข่ายของเขาก็เพียงพอที่จะทำลายหูเยว่และสถานีตำรวจแห่งนี้ได้แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นหูเยว่ยังต้องกังวลเกี่ยวกับหัวหน้าโดยตรงของเขาเองอีกด้วย
“ไม่ครับ..ไม่ใช่อย่างนั้นครับหัวหน้าหลี่ คุณเข้าใจผิดสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือเมื่อคืนที่ผ่านมาเย่เชียนได้หลบหนีออกจากคุกครับ” หูเยว่ตอบอย่างกระวนกระวาย
“อะไรนะ?” หลี่ฮ่าวตกตะลึงอย่างมาก สถานการณ์ของเย่เชียนนั้นเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมากและเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการ แล้วยิ่งตอนนี้เขาหนีออกจากคุกไปแล้วก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ต่างๆยิ่งเลวร้ายขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องตามหาเย่เชียนให้ได้ก่อนที่คนของอู่หยางเฉิงจะทำการอุกอาจ “นี่พวกคุณทำงานกันอย่างนี้เหรอ? พวกคุณปล่อยให้เขาหนีไปได้อย่างไร? รีบพาผมไปที่ห้องขังด่วน!” หลี่ฮ่าวพูดอย่างเดือดดาล
หูเยว่ไม่กล้าแม้จะตอบกลับเขาทำได้เพียงนำหลี่ฮ่าวไปที่ห้องคุมขังโดยมีหวังยู่,หยางเหว่ยและซุนจีเซียงตามหลังมา
“ใครอยู่เวรเมื่อคืน?” หลี่ฮ่าวถามอย่างโกรธเคือง
หูเยว่รีบขยิบตาให้ซุนจีเซียงอย่างรวดเร็วและซุนจีเซียงก็ก้าวไปข้างหน้าและตัวสั่นพร้อมพูดว่า “ผะ..ผมเองครับ!”
หลี่ฮ่าวมองหน้าเขาและถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้น? รายงานมาอย่างละเอียด!”
ซุนจีเซียงรายงานเช่นเดียวกันกับที่เขาอธิบายให้หวังยู่ฟัง จากนั้นหลี่ฮ่าวก็ตะคอกอย่างเย็นชากับคำรายงานของซุนจีเซียงว่า “นักโทษคนนั้นไม่ได้หลบหนีเพราะเขาถูกกลั่นแกล้งและถูกทรมานหรือถูกต้อนให้จนมุมใช่มั้ย?”
ซุนจีเซียงรู้สึกหมดหนทางอย่างเห็นได้ชัด ด้วยทักษะการต่อสู้ที่น่ากลัวของเย่เชียนเขาจะกล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไรเขาจึงตอบว่า “มะ..ไม่แน่นอนครับ..ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น” ซุนจีเซียงตอบอย่างตะกุกตะกัก
“หึ่ม!..” หลี่ฮ่าวทำเสียงแสดงความไม่สบอารณ์อย่างรุนแรงและอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรอีก
หลี่ฮ่าวชะลอฝีเท้าของเขาเมื่อเขาอยู่ข้างๆของหวังยู่จากนั้นเขาก็กระซิบข้างๆหูของเธอว่า “เสี่ยวยู่..ฉันพูดเรื่องนี้กับพ่อของเธอเมื่อเช้านี้และปัญหาของเย่เชียนน่าจะใหญ่กว่าที่เราคิด ในระหว่างการจับกุมเขาเธอต้องอยู่ที่นั่นด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครทำอะไรที่บุ่มบ่ามเกินไป..เธอเข้าใจใช่มั้ย?”
หลี่ฮ่าวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของหวังปิงพ่องของเธอ ดังนั้นเขามักจะแวะเวียนมาที่บ้านและสนิทสนมกับคนตระกูลหวังมากและหวังยู่เองก็คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน “พี่หลี่!..พี่กลัวว่าพวกนั้นจะฆ่าเขาเพื่อปิดปากเขางั้นหรอ?” หวังยู่ถามอย่างกังวล
“ใช่มันอาจเป็นไปได้และเราก็ต้องพิจารณากันเผื่อเอาไว้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอเองก็ควรหาทางปกป้องเย่เชียนด้วยล่ะและอย่าให้ศัตรูเข้ามาหาเขา ท่านรองเลขาธิการหวังกำลังดำเนินการบางส่วนไปแล้วในช่วงเวลาวิกฤตนี้และเราก็ไม่สามารถปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเย่เชียนได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นพี่ชายของฉันเอง! ฉันไม่อยากเห็นอะไรที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับเขา..” หลี่ฮ่าวตอบอย่างกระตือรือร้น
“ถึงพี่ไม่บอกฉัน..ฉันก็จะทำอยู่แล้วฉันรู้ว่าฉันต้องทำอย่างไร พี่หลี่ไม่ต้องกังวลไป..ฉันจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเย่เชียนอย่างแน่นอน” หวังยู่ยืนกรานอย่างหนักแน่น
เมื่อหลี่ฮ่าวเห็นการแสดงออกที่ดูกระตือรือร้นและแน่วแน่อย่างมากของหวังยู่ เขาก็รู้สึกประหลาดใจมาก เขารู้สึกและสงสัยเล็กน้อยว่าระหว่างหวังยู่กับเย่เชียนมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่เขาไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้
เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ห้องขังแล้วหลี่ฮ่าวและหวังยู่ก็ยุติการสนทนากัน และเมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูห้องคุมขังแล้วพวกเขาทุกคนก็จ้องมองด้วยความตกตะลึงอย่ายิ่ง ตรงหน้าพวกเขาคือเย่เชียนที่กำลังนอนสบายๆอยู่บนเตียงและชำเลืองมองอยู่หลังของเขาพิงกำแพงและเหล่านักโทษก็นวดเขาอย่างสุภาพนอบน้อม
เย่เชียนคงไม่โง่ถึงขนาดหนีออกจากคุก นั่นไม่ใช่การให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามในการกำจัดเขาเพื่อประโยชน์ใดๆ และนอกจากนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาตราบเท่าที่เขายังอยู่ในสถานีตำรวจ และการกระทำทั้งหมดของเขาเมื่อคื่นก็เพื่อที่เขาจะสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังที่ต้อนเขาให้จนมุม และในตอนนี้เขาก็รู้และมีหลักฐานยืนยันถึงการกระทำผิดของอู่หยางเฉิงทั้งหมดแล้ว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหนีไปไหนเลย เพราะหลังจากออกจากที่พักของอู่หยางเฉิงเมื่อคืนที่ผ่านมาเขาให้หลี่เหว่ยส่งเอกสารไปให้หวังปิงหลังจากนั้นเขาก็แอบกลับเข้าไปในห้องขังอย่างง่ายดาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเย่เชียนนั้นไม่รู้จริงๆว่าหวังปิงและอู่หยางเฉิงมีความสัมพันธ์กันแบบไหน แต่เขาคิดแค่ว่าเนื่องจากพวกเขาเป็นรองเลขาธิการผู้ว่าเทศบาลเหมือนกันทั้งคู่และการเลือกตั้งคณะกรรมการเทศบาลก็กำลังจะใกล้มาถึงแล้วพวกเขาก็อาจจะต้องเป็นคู่แข่งกัน และหวังปิงก็เป็นคนที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาในการที่จะช่วยเขาในเรื่องนี้
สำหรับเย่เชียนแล้วสถานีตำรวจแห่งนี้ไม่สามารถหยุดหรือฉุดกระชากเขาเอาไว้ได้ หากเขาจะเข้าหรือจะออกไปเมื่อไหร่ตอนไหนเขาก็สามารถทำได้อย่างงายดาย แม้แต่สำนักงานข่าวกรอง CIA เขาก็สามารถเข้าและออกไปมาได้อย่างอิสระอย่างง่ายดาย
ไม่มีใครแปลกใจมากไปกว่าหยางเหว่ยและซุนจีเซียงอีกแล้วเพราะพวกเขาเป็นคนเตรียมช่องทางให้เย่เชียนหลบหนีเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นเย่เชียนหนีออกไปด้วยตาของพวกเขาเอง แต่พวกเขาก็เห็นว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้อยู่ในห้องขังตอนที่พวกเขาตื่นขึ้นมา เมื่อมองดูเย่เชียนที่กำลังผ่อนคลายอยู่บนเตียงและได้รับการนวดจากผู้ต้องขังคนอื่นๆหยางเหว่ยและซุนจีเซียงก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เมื่อหวังยู่และหลี่ห่าวเห็นว่าเย่เชียนไม่ได้หลบหนีออกจาคุกพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโล่งใจ หลี่ฮ่าวค่อยๆหันหน้าของเขาและมองไปที่หูเยว่และพูดอย่างเย็นชาว่า “หัวหน้ากรมหู!..คุณบอกว่าผู้ต้องสงสัยทำหารหลบหนีออกจากคุกไปไม่ใช่เหรอ?”
หูเยว่ทำได้เพียงแค่กลืนคำพูดของเขาลงไปและนิ่งเงียบ เขาเพิ่งจะมาถึงสถานีตำรวจเมื่อไม่นานนี้และซุนจีเซียงก็มารายงานให้เขาทราบ เพราะงั้นเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าซุนจีเซียงจะพูดเฉไฉกับเขา ทันใดนั้นหูเยว่ก็หันไปหาซุนจีเซียงด้วยความโกรธเกรี้ยวและพูดว่า “ซุนจีเซียง!..นี่มันหมายความว่าอย่างไร? นายรายงานฉันว่าเมื่อคืนผู้ต้องสงสัยทำการหลบหนีไม่ใช่เหรอ? นายจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร!”
“คะคือผม..คือว่าเมื่อคืนนี้หัวหน้าทีมหยางและผมถูกเขาทำร้ายจนสลบไปจากนั้นนักโทษก็หนีไป ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่เชื่อผมคุณก็ถามหัวหน้าทีมหยางได้” ซุนจีเซียงตอบอย่างประหม่าและกระวนกระวาย เขาไม่รู้ว่าเขากำลังเจอผีหลอกหรืออะไรทำไมเย่เชียนถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ในห้องขังอีก เขามาได้อย่างไร?
“สิ่งที่จีเซียงพูดเป็นความจริงครับ เมื่อคืนนี้ผู้ต้องสงสัยทำร้ายพวกเราจนสลบไปและเขาก็ใช้โอกาสนั้นหนีไปจริงๆครับ” หยางเหว่ยตอบอย่างประหม่า
“แล้วพวกคุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง? ถ้าเช่นนั้นผู้ต้องสงสัยจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรล่ะ? พวกคุณจะบอกว่าเขาโง่จนน้ำท่วมหัวเลยกลับมาที่นี่น่ะเหรอ..ห๊ะ?” หูเยว่ตะโกนอย่างเดือดดาล
เมื่อได้ยินคำพูดของหูเยว่เช่นนั้น เย่เชียนที่กำลังเพลิดเพลินไปกับการวางมาดดั่งจักรพรรดิก็ขมวดคิ้วขึ้นในทันที และคิดว่า คำพูดพวกนี้ดูเหมือนว่าจะกำลังด่าเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?
“นี่..นี่..ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ซุนจีเซียงหมดหนทางที่จะพูดอะไรอีก เขาพึมพำกับตัวเองอย่างสิ้นหวังว่า “ผะผี..เขาเป็นผีงั้นเหรอ!”
หลี่ฮ่าวไม่เต็มใจที่จะปล่อยวางประเด็นนี้ออกไปได้ แต่ตราบใดที่เย่เชียนปลอดภัยทุกอย่างก็เรียบร้อย ทันใดนั้นเขาก็เปิดประตูห้องขังแล้วเดินเข้าไปข้างในและอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของเย่เชียนจากนั้นก็พูดว่า “พี่สอง!..พี่นี่ช่างหล่อเหลาและสง่าผ่าเผยมากจริงๆ ดูสิแม้แต่ตอนนี้พี่ก็ยังดูไม่ทุกไม่ร้อนกับเรื่องพวกนี้เลยนะ”
เย่เชียนชูมือส่งสัญญาณให้ผู้ต้องขังหยุดนวดเขา จากนั้นเขาก็ตอบหลี่ฮ่าวพร้อมกับหัวเราะว่า “มันหมายความว่าไง..จิตใจของฉันมันแกร่งกล้าเกินไปหรือฉันเป็นเด็กน้อยเกินไปจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยกันแน่ล่ะ?..”
.