หูวเค่อเธอเองไม่ได้โวยวายเหมือนจ้าวหยาที่หยาบคายและเกรี้ยวกราด เธอไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย และที่เย่เชียนลูบไล้มือเธอนั้นเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่เธอเพียงยิ้มอ่อนๆขณะดูเย่เชียนและจ้าวหยาโต้เถียงกัน
“เอาล่ะๆ..การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นเราต้องเข้าไปข้างในกันแล้ว” ฉินหยูบอกให้เย่เชียนและจ้าวหยาจะหยุดทะเลาะกัน
ที่นั่งส่วนใหญ่ในล็อบบี้นั้นถูกจับจองไปเป็นส่วนมากแล้ว และดูเหมือนว่าฉินหยูจะรู้ใจของเย่เชียนเล็กน้อย เพราะเธอจงใจเลือกที่นั่งติดมุมห้อง ซึ่งสถานที่นี้ที่เธอเลือกนั้นทำให้เย่เชียนสามารถสามารถปกป้องพวกเธอทั้งหมดได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
เย่เชียนจ้องมองไปที่ฉินหยูและชื่นชมเธอ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สนใจคำชมของเย่เชียนเลยและยังแสดงท่าทีที่เฉยเมยและไม่แยแสโดยไม่มองไปที่เย่เชียนเลยแม้แต่น้อย เย่เชียนรู้สึกหดหู่เล็กน้อยและต้องใจจำเงียบไปโดยปริยาย
ที่นั่งเรียงกันเป็นแถวเก้าอี้สี่ตัวติดกันจ้าวหยานั่งด้านในสุดชิดกำแพงตามด้วยหูวเค่อ,ฉินหยูและปิดท้ายด้วยเย่เชียน
“คุณสามี..ดิฉันชอบสร้อยข้อมือเส้นนั้นคุณซื้อให้ฉันได้ไหม” ข้างหน้าพวกเขามีหญิงสาวที่แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางหนัก ๆ เกาะแขนของชายชราอายุราวๆห้าสิบแล้วพูดอ้อนวอน
“ถ้าคุณชอบมัน..ฉันจะซื้อให้” ชายชราดูมีความสุขกับการลูบไล้หน้าอกของหญิงสาวคนนั้น ดวงตาของเขาเป็นประกายและทุกอย่างก็เห็นได้ชัดเพราะแสงไฟแต่เขาก็ยังคงมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มและไม่แยแสว่าคนอื่นจะมองยังไง
“คุณสามี..คุณนี่ใจดีจัง” หญิงสาวจูบแก้มของชายชราอย่างตื่นเต้น
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์กันฉันท์สามีภรรยา เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เมียน้อยของชายชราคนนี้ เย่เชียนคิดว่าความสัมพันธ์เฉกเช่นเมียน้อยอาจเป็นไปได้เนื่องจากช่องว่างระหว่างอายุที่มากกับหญิงสาวที่อายุเพียงยี่สิบปีมีเหรอที่จะแต่งงานกับชายอายุห้าสิบปีเพราะความรักนั้นมันก็ค่อนข้างยากที่จะเชื่อ
การแสดงออกและปฏิกิริยาของฉินหยูก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองตรงหน้า ในด้านของหูวเค่อเธอยิ้มเจื่อนๆแต่เธอก็เงียบไม่ได้พูดอะไร แต่ทว่าจ้าวหยานั้นแสดงสีหน้ารังเกียจอย่างมากเธอพึมพำเล็กน้อยและก็พูดออกมาว่า “พวกทำครอบครัวร้าวฉาน!”
จ้าวหยาไม่แม้แต่จะลดเสียงของเธอลงและทำให้ชายชราและหญิงสาวตรงหน้าได้ยินเธออย่างชัดเจน ชายชราค่อยๆหันไปทางเธอเดิมทีชายชรากำลังจะตะค่อกจ้าวหยาแต่เขาเห็นผู้หญิงที่งดงามสามคนนั่งติดกันเขาก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ ทันใดนั้นการแสดงออกที่หื่นกามก็เผยออกมาที่ใบหน้าของเขา ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเทียบกับผู้หญิงของเขาแล้ว ที่เหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ ถ้าหากเขาสามารถดูแลทั้งสามได้ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเสียอายุไขของเขาไปอีกสิบปีเขาก็ยังเต็มใจ แต่เมื่อชายชรามองไปที่เสื้อผ้าของพวกเธอแล้วเขาก็ล้มเลิกความคิดของเขาไปโดยปริยายด้วยวิธีการแต่งตัวของพวกเธอเหล่านี้ดูไม่เหมือนผู้หญิงที่ต้องแลกร่างกายเพื่อเงินเลย อย่างไรก็ตามชายชราคนนี้ยังคงคิดว่าตัวเองยังมีเสน่ห์มากอยู่มิเช่นนั้นเขาจะกำราบคุณนายสาวอายุยี่สิบปีของเขาได้อย่างไร เขาจึงยื่นมือออกไปเพื่อจะจับมือและพูดว่า “ฉันชื่อเจิ้ง..สาวๆพวกเธอชื่ออะไรกันบ้างล่ะ?” คุณนายสาวโกรธเกรี้ยวอย่างมากเมื่อเห็นว่าสามีของเธอกล้าไปหลอกล่อผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไรเธอฉุนเฉียวและหันหน้าไปทางอื่น
การแสดงออกและปฏิกิริยาของฉินหยูก็ยังคงเหมือนเดิมเธอไม่ได้มองชายชราเลยแม้แต่น้อย หูวเค่อก็ยังคงเหมือนเดิมที่มีเพียงรอยยิ้มเจื่อนๆ ส่วนจ้าวหยาก็ส่งสายตาดูถูกและรังเกียจชายชราคนนี้และจ้องมองเขาอย่างเดือดดาล
เย่เชียนเหลือบไปมองชายชราอย่างกระตือรือร้นและฉีกยิ้มอย่างชั่วร้ายจาดนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า “อ้าว..หัวหน้าเจิ้ง! ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ..ผมไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้พบกันที่นี่..นี่มันคือโชคชะตาอย่างแน่นอน!” เย่เชียนหัวเราะเบาๆและเอื้อมมือไปจับมือของชายชราแทนและหยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
ฉินหยูและจ้าวหยาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ พวกเธอไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะรู้จักชายชราตรงหน้าพวกเธอและยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกันอย่างมาก การแสดงออกของจ้าวหยากลายเป็นรังเกียจอย่างสมบูรณ์ เธอเชื่ออย่างชัดเจนแล้วว่าเย่เชียนและชายชราคนนี้ก็นิสัยเหมือนกันไม่ว่าจะแก่แล้วหรือยังหนุ่มยังแน่นอยู่พวกเขาก็ล้วนเจ้าชู้และกลับกลอกเฉไฉเหมือนกันหมด
ชายชราก็มีสีหน้าที่ประหลาดใจเช่นกันเขามองไปที่เย่เชียนอย่างว่างเปล่าและพูดว่า “โทษทีนะพ่อหนุ่ม..เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอ?”
“หัวหน้าเจิ้ง!..คุณความจำเสื่อมเหรอ!” เย่เชียนพูดจากนั้นก็พูดต่ออีกว่า “คุณลืมได้ไงเนี่ย..ก็ปีที่แล้วที่เราอยู่ที่เกียวโตประเทศญี่ปุ่นที่งานเลี้ยงวันเกิดของท่านรองประธานาธิบดีเซ็นไง?”
ชายชราจ้องมองอย่างว่างเปล่าจากนั้นก็แสร้งทำเป็นจำได้และพูดว่า “ฉันหรอ..ญี่ปุ่นตอนนั้น เฮ้ย! จำได้ฉันจำมันได้!” เขาพูดเพื่อให้ดูเหมือนว่าเขาจำมันได้แต่ว่าในความเป็นจริงเขายังจำเย่เฉียนไม่ได้และเขาก็ไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของรองประธานาธิบดีด้วย แต่อย่างไรก็ตามที่เย่เชียนพูดออกมามันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่จะเสริมให้เขาดูมีบารมีที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดส่วนตัวของรองประธานาธิบดีได้และโดยปกติแล้วสิ่งนี้มันจะนำชื่อเสียงที่ดีมาให้เขาด้วย อย่างไรก็ตามเขาก็ยังจำเย่เชียนไม่ได้แต่ไม่ว่าในกรณีใดประสบการณ์นี้จะเพิ่มสถานะทางสังคมของเขาอย่างชัดเจน และบางทีแม้ว่าสาวงามที่ไม่สนใจเขาแต่ด้วยสถานะทางสังคมที่เย่เชียนอ้างสิทธิ์ให้ในนามของเขา พวกเธอก็อาจจะเปลี่ยนใจได้
คุณนายสาวข้างๆชายชราคนนั้นอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่านเธอประหลาดใจและพูดออกมาว่า “คุณสามี..คุณรู้จักรองประธานาธิบดีเซ็นด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้มาก่อนเลย”
ชายชราจ้องมองไปที่คุณนายสาวและตำหนิเธอที่เธอไม่รู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันและเขาตอบอย่างโออ้วดว่า “ยังมีอีกหลายอย่างที่เธอไม่รู้ ถ้ามีเวลาฉันจะใช้เวลามากมายเพื่อบอกเธอว่าฉันเป็นเพื่อนซี้กับคนใหญ่คนโตคนไหนบ้าง!”
“เราไม่ได้เจอกันมาตั้งนานขนาดนี้หัวหน้าเจิ้งคุณยังดูสง่าเหมือนเดิมเลย” เย่เชียนเสแสร้งประจบประแจง
“นายก็พูดเกินจริง!” ชายชรูดอย่างถ่อมตัว
“นี่ๆ..หัวหน้าเจิ้งคุณไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว ผมจำได้ว่าเย็นวันนั้นหลังจากงานเลี้ยงของรองประธานาธิบดีเซ็น คุณไปกับผู้หญิงคนนั้นหนิ เธอชื่ออะไรนะ” เย่เชียนถามอย่างอุกอาจ
ชายชราชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “นายจำผิดหรือเปล่า?..เย็นวันนั้นฉันดื่มมากเกินไปและฉันก็กลับไปที่โรงแรมทันทีเพื่อเข้านอน”
เย่เชียนหัวเราะอย่างร้ายกาจเขาตบไหล่ชายชราเบาๆและสีหน้าที่ดูครุมเครือจากนั้นเขาก็พูดว่า “โถ่ๆ..หัวหน้าเจิ้งทำไมคุณถึงไม่จริงใจล่ะ? ทั้งๆที่คุณมีคุณนายสุดสวยคนนี้อยู่แล้วและทำไมคุณถึงไม่แนะนำเธอให้ผมรู้จักล่ะ โอ้..ที่ไม่บอกผมก็เพราะว่ากลัวพี่สะใภ้จะโกรธเคืองสินะ!”
ชายชราแอบปาดเหงื่อบนหน้าผาก เขาเผชิญหน้ากับคุณนายสาวของเขาแต่ดูเหมือนเธอกำลังโกรธมากและว่าเธอทนไม่ได้อย่างชัดเจน ใครจะยอมให้คนรักไปนอกใจมีคนอื่นบ้างมันเป็นธรรมดาที่ผู้หญิงจะหึง ทั้งหมดคือสิ่งที่เย่เฉียนจะพูด หากคุณนายสาวเข้าใจเขาผิดเขาก็ควรจะอธิบายในทันที และเมื่อเขามองไปที่การแสดงออกของคุณนายสาวที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนชายชราก็ตื่นตระหนกและรีบพูดว่า “น้องชาย..นายเข้าใจผิดแล้ว ในคืนนั้นฉันมั่นใจว่าฉันแค่ดื่มมากเกินไปเท่านั้น”
“ผมจะจำผิดได้ยังไง? ผมจำได้ว่าคืนนั้นคุณเปิดห้องที่โรงแรมและคุณก็โดนตำรวจตรวจพบสื่อลามกอนาจารและถูกพาดหัวข่าวในหนังสือพิมทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น คุณจำไม่ได้เหรอ? วันรุ่งขึ้นผมยังไปหาคุณที่โรงพยาบาลเพื่อรับผลตรวจร่างกายของคุณและในเวลานั้นคุณก็พบว่าคุณเป็นโรคเอดส์ หัวหน้าเจิ้ง..ผมจะไม่โทษคุณหรอกนะเพราะเราเป็นผู้ชาย..เราควรออกไปสนุกได้อย่างเต็มที่..แต่คุณอย่าลืมสิ่งที่สำคัญคุณต้องป้องกันเสมอสิครับ!”
.