ใบหน้าของชายชราซีดเซียวเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเย่เชียนเขาจ้องมองอย่างมึนงงและพูดอะไรไม่ออก เขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะกลับกลอกและเฉไฉนานขนาดนี้ และเขาคิดว่าถ้าเขายังอยู่ตรงนี้ต่อเย่เชียนก็คงจะไม่หยุดพล่าม เขารีบอำลาเย่เชียนและหันหน้าหนีไม่พูดกับเย่เชียนต่อ ใครจะไปรู้ว่าเรื่องไร้สาระและเหลวไหลเช่นนี้จะออกมาจากปากของเขา?
ใบหน้าของคุณนายสาวดูปั้นยากและไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ชายชราก็ไม่รู้จะอธิบายสิ่งเหล่านั้นอย่างไร เขามั่นใจว่าเขาไม่รู้จักเย่เชียนและเขาไม่เคยไปญี่ปุ่นด้วยและนอกจากนี้เขาก็ไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของรองประธานาธิบดีเซ็นและบางทีเธออาจจะไม่เชื่ออีกแล้ว ด้วยความหวั่นเกรงอย่างมากชายชราเดินเข้าไปหาคุณนายสาวคนนั้นทันทีและกระซิบขอโทษเธอและอธิบายอย่างต่อเนื่องว่าเขาไม่ได้เป็นโรคเอดส์และเขาก็ไม่ได้คลุกคลีกับโสเภณีหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารใดๆ แต่อย่างไรก็ตามคุณนายสาวยังไม่ยอมเชื่อและยังคงเอะอะโวยวายต่อไปและชายชราก็รู้สึกว่าหัวของเขากำลังจะระเบิดออก และในท้ายที่สุดเขาก็จำใจสัญญาว่าจะซื้อเครื่องประดับให้เธอหลายๆชิ้นเพื่อเป็นการขอโทษเธอและทำให้เธอสงบลง
เมื่อการประมูลเริ่มต้นขึ้นบรรยากาศโดยรอบในปัจจุบันก็ดูมีชีวิตชีวาและคึกคักอย่างมากนักธุรกิจที่ร่ำรวยเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงและนายทหารยศสูงๆนั้นมีจุดประสงค์ก็เพื่อแค่ให้ผู้หญิงของพวกเขาสนุกสนานและภาพลักษณ์ของตัวเองและเข้าร่วมอย่างกระตือรือร้นในการเสนอราคาเครื่องประดับต่างๆ ในมุมของฉินหยู,หูวเค่อและจ้าวหยาก็ดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่มีความสนใจกับเครื่องประดับเหล่านั้นเลยและพวกเธอก็แค่เฝ้าดูอย่างเงียบๆในขณะที่คนอื่นๆต่างก็เสนอราคากันอย่างครึกครื้นแต่พวกเธอก็ไม่ได้แสดงถึงความสนใจเลยแม้แต่น้อย
“สร้อยคอเพชร! ดวงดาวแห่งความรัก! รายการสุดท้าย! เริ่มประมูลกันที่ห้าแสนหยวน! และทุกครั้งที่เปิดประมูลจะมีมูลค่าเพิ่มหนึ่งแสนหยวนต่อครั้ง! มาเริ่มกันเลย!” เจ้าพูดอย่างกระตือรือร้นและประกาศกร้าว
“หกแสนหยวน!..ครั้งที่สามประมูลหกแสนหยวน” หลังจากที่โฮสต์ประกาศการเสนอราคาเริ่มต้น และมีคนที่เสนอราคาในทันที โฮสต์ก็ประกาศทันที เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองและเห็นว่าคนที่ถือป้ายนั้นก็คือเหว่ยเฉินหลง และดูเหมือนว่าเขาตั้งใจจะเอาสร้อยเพชรดวงดาวแห่งความรักเส้นนี้เป็นของขวัญให้กับฉินหยู
“เจ็ดแสนหยวน!..ประมูลครั้งที่ห้า!..เจ็ดแสนหยวน!..มีใครให้สูงกว่านี้ไหม!” พิธีกรประกาศต่อเนื่องอย่างดุเดือด
“หนึ่งล้าน!” เหว่ยเฉิงหลงตะโกนอย่างเสียงดัง
“ท่านหมายเลขสามเสนอราคาหนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวน! เรามีอีกไหม” เจ้าภาพถาม
“หนึ่งล้านห้าแสน!” ชายหนุ่มยกป้ายขึ้นและตะโกนเสียงดัง
เหว่ยเฉินหลงจ้องมองชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “สองล้าน!”
“สองล้าน!..สองล้านหยวน! มีใครให้สูงกว่านี้ไหม!” พิธีกรประกาศอย่างตื่นเต้น
ถึงแม้ว่าความรักที่มีต่อเครื่องประดับสำหรับดาราในวงการอาจจะสูงและนิยมมาก แต่โดยปกติแล้วจะไม่ถึงสองล้านหยวน ดาราและนักธุรกิจบางคนถอนการประมูลไปแล้วและแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าทุกคนยังมีเงินอยู่อีกหลายแสน แต่การซื้อเครื่องประดับชิ้นเดียวในราคาสองล้านนั้นมันก็ค่อนข้างฟุ่มเฟือยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าทั้งหมดก็เพื่อจุดประสงค์ในการขอผู้หญิงแต่งงานแต่ทว่าแค่ซื้อของที่มีมูลค่าประมาณหมื่นหยวนมันก็เพียงพอแล้ว
“สองล้านห้าแสน!” ชายหนุ่มเสนอราคาและชูป้ายขึ้นอีกครั้ง เหว่ยเฉินหลงรู้สึกเจ็บใจและเหลือบมองเขาเห็นได้ชัดว่าเหว่ยเฉิงหลงรังเกียจเขา
“สามล้าน!” เหว่ยเฉินหลงกัดฟันแน่นและจ้องมองชายหนุ่มขณะที่เขากัดฟันด้วยการเชื่อมั่นในตัวเองว่าเงินสามล้านหยวนมันเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อย อย่างไรก็ตามที่นี่เป็นเมืองในประเทศจีนและมีใครบางคนกล้าและท้าทายเขาและเห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ยอมเสียหน้าโดนเฉพาะเรื่องของเงินแล้วนั้นมันเทียบไม่ได้กับชื่อเสียงของเขา
ชายหนุ่มต้องการที่จะยกป้ายขึ้นแต่ก็มีชายหนุ่มจากโต๊ะข้างๆเขากระซิบอยู่ที่หูของเขาจาดนั้นชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ทิศทางที่เหว่ยเฉินหลงอยู่จากนั้นเขาค่อยๆวางป้ายในมือลง
“สามล้าน! สามล้าน! สามล้านหยวน! ครั้งที่หนึ่ง! มีใครจะให้สูงกว่านี้ไหม!” พิธีกรมองไปที่ฝูงชนรอบๆอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตกลงสามล้านหยวนครั้งที่สอง!”
“สามล้านหนึ่งแสน!!!” เย่เชียนชูป้ายขึ้นพร้อมพูดอย่างสง่าผ่าเผย
ทันใดนั้นฉินหยูก็ใจมากเธอดึงแขนของเย่เชียนและพูดว่า “เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่?..เธอจะต้องรับผิดชอบกับราคาที่เธอเสนอในการประมูลครั้งนี้ภายใต้กฏหมายนะ..แล้วเธอจะมีเงินขนาดนั้นเลยหรอ?”
จ้าวหยาก็ยิ่งรู้สึกเกลียดเย่เชียนเข้าไปใหญ่เธอกลอกตาไปมาและพูดว่า “หึ..พยายามทำตัวให้ดูน่าประทับใจ..อย่าบอกนะว่าถ้าถึงเวลาจ่ายเงินแล้วไม่มีจ่ายและจะอ้างว่ารู้จักพวกฉันน่ะ..ฉันรู้ว่านายเป็นแค่คนธรรมดา..ไอ้คนอวดดี..ไอ้คนขี้โกง”
หูวเค่อเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรเขา เธอเพียงแค่ยิ้มและมองเย่เชียนด้วยความประทับใจเล็กน้อย
เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ใจเย็นๆ..ไม่ต้องกังวล..สร้อยคอเส้นนั้นน่ะผมมีวิธีที่จะได้มันมาไม่ต้องห่วง”
เหว่ยเฉิงหลงมองไปทั่วทุกสารทิศพื่อมองหาผู้เสนอราคาคนนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องอีกครั้งไปยังทิศทางของชายหนุ่มที่เคยเสนอราคาก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มคนนั้นดูเหมือนจะสนุกที่เห็นเขาร้อนรนและชายหนุ่มคนนั้นก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาไม่แยแส
“สี่ล้าน!” เหว่ยเฉิงหลงตะโกนเสนอราคาด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาอดไม่ได้ที่จะระเบิดออกมา แต่อย่างไรก็ตามเพื่อจุดประสงค์ในการได้รับความโปรดปรานจากฉินหยูแล้วเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลย
“สี่ล้านหนึ่งแสน” เหว่ยเฉินหลงที่กำลังเชื่อในความสำเร็จของเขาในครั้งนี้ แต่ทันใดนั้นเสียงของเย่เชียนก็ดังขึ้นอีกครั้งเขายืนหยัดและเสนอราคาอีก
ในที่สุดเหว่ยเฉินหลงก็รู้แล้วว่าเขากำลังแข่งขันกับใครอยู่และเขาก็พบว่าเป็นเย่เชียนนั่นเองทันใดนั้นเหว่ยเฉิงหลงก็ดูฟุ้งซ่านและร้อนรนอย่างมากและคิดในใจว่า ‘รปภ.ยามรักษาความปลอดภัยธรรมดาๆรายได้เดือนละเท่าไหร่กัน? เขากล้าท้าทายฉันต่อหน้าสาธารณชนอย่างงั้นเหรอ?’ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเย่เชียนอยู่กับฉินหยูในเวลานั้นเหว่ยเฉิงหลงจึงคิดไปว่าสงสัยจะเป็นฉินหยูที่ตั้งใจจะซื้อมันเพียงให้เย่เชียนที่เป็นผู้เสนอราคาแทนและไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น เพราะคิดว่าฉินหยูชอบสร้อยคอนี้มากและยิ่งในกรณีที่เขามอบให้เธอด้วยตัวเองแล้ว เขาก็ยิ่งไม่ลังเลที่จะอยากได้มันและมอบมันให้กับฉินหยู “สิบล้าน!” เหว่ยเฉินหลงตะโกนอย่างตื่นเต้น ทุกคนในที่นี้อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและพวกเขาต่างก็คิดว่าเหว่ยเฉินหลงนั้นโง่มากชายหนุ่มคนนี้บ้าไปแล้วหรือ? ซื้อสร้อยคอในราคาสิบล้าน มันคุ้มมั้ย?
เหว่ยเฉินหลงรู้สึกยินดีเมื่อได้เผชิญหน้ากับเย่เชียนที่ต่ำต้อย ราวกับว่าสร้อยคอเส้นนั้นเป็นของเขาไปแล้วเรียบร้อยแล้ว
“สิบล้าน..หนึ่งแสน!” เย่เชียนพูดช้าๆ และฉินหยูก็ตกใจอย่างมากเธอไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะใช้เงินมากมายขนาดนั้นเพื่อซื้อสร้อยคอเส้นนี้ แต่เขาจะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน? ฉินหยูมีความรู้สึกบางอย่างเล็กน้อยในใจของเธอ เธอกำลังตระหนักและไตร่ตรองอยู่ว่าจะทำอย่างไรดีถ้าในกรณีที่เย่เชียนชนะการประมูลสร้อยคอเส้นนั้น จากนั้นเธอก็คิดว่าเธอจะจ่ายให้เขาทั้งหมดและหักจากค่าว่าจ้างของเย่เชียนในอนาคตทั้งหมดและให้เย่เชียนทำงานใช้หนีเธอไปตลอดชั่วชีวิต
ฉินหยูเธอไม่เห็นความลังเลใดๆของเย่เชียนเลย เขาเพิ่งจะเปิดปากเพื่อเสนอราคาและเหว่ยเฉินหลงก็อดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านและร้อนรน ในขณะนั้นเขาไม่สามารถเชื่อเย่เชียนได้อีกต่อไปเหว่ยเฉินหลงเงียบก็เงียบไปครู่หนึ่งและตะโกนเสนอราคาอีกครั้ง “สิบห้าล้าน!”
.