ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 93 ของขวัญวันเกิด

เนื่องจากพนักงานเสิร์ฟไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลยเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องกลับไปอย่างผิดหวัง แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตว่าในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ที่ชั้นบนสุดของสโมสรและกำลังจ้องมองเขาผ่านกระจกด้วยสายตาที่ดูคาดหวังขณะที่เธอพึมพำกับตัวเองว่า “เย่เชียน..ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”

 

หลังจากที่ออกจากสโมสรแล้วเย่เชียนก็รู้สึกเบื่อหน่ายและแม้ว่าตอนนี้เขาจะทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดแต่เขาก็ค่อนข้างขาดความรับผิดชอบเช่นกัน เขาเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่มหาวิทยาลัยเพราะเย่เชียนจำได้ว่าตอนนี้เขายังเป็นนักเรียนอยู่และหน้าที่ของของเขาในตอนนี้ก็คือการปกป้องจ้าวหยานั้นแต่ตอนนี้จ้าวหยาก็ไม่ได้มีปัญหาหรือตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงอะไรใดๆ เขาก็เลยคิดว่าตัวตนของเขาในฐานะนักเรียนนักศึกษานั้นอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาลองคิดไปคิดว่าภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีก็ผู้หญิงสวยๆมากมายและเย่เชียนเองก็ยังต้องการสัมผัสชีวิตในมหาวิทยาลัยอยู่ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำแบบนี้ต่อไป

 

ชีวิตในมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้เข้มงวดมากนักเพราะนักเรียนนักศึกก็ค่อนข้างผ่อนคลายและคลายเครียดได้และให้อิสระเสรีภาพของนักเรียนค่อนข้างสูง และเมื่อเย่เชียนมาถึงมหาวิทยาลัยมันก็เป็นเวลาพักเที่ยงแล้วและเย่เชียนก็ตบหน้าตัวเองเบาๆเล็กน้อยและเขาก็คิดว่าเขาลืมเข้าเรียนในคลาสของฉินหยูไปซะแล้วเขาจึงเดินไปที่ออฟฟิศห้องทำงานของฉินหยู

 

และหลังจากเคาะประตูก็มีเสียงของฉินหยูดังขึ้นมาจากข้างในว่า “เข้ามา!”

 

เย่เชียนเดินเข้าไปอย่างช้าๆและไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉินหยูและนั่งลงช้าๆพร้อมกับยิ้มแหยงๆและหัวเราะกลบเกลื่อนจากนั้นก็พูดว่า “อาจารย์ฉินครับ..ผมไม่ได้เข้าคลาสเรียนเมื่อเช้านี้..ไม่ทราบว่าผมสามารถเข้าเรียนชดเชยหรืออะไรได้บ้างไหมครับ?”

 

ฉินหยูมองเขาและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเธอจะลืมตัวตนของเธอไปแล้วสินะ”

 

“ไม่ๆ..ผมไม่ได้ลืม” จากนั้นเขาก็พูดต่ออย่างจริงจังว่า “อ๋อ..ผมไม่ใช่นักเรียนธรรมดาๆ..แต่ผมเป็นนักเรียนของอาจารย์ฉินที่แสนงดงามและเพรียบพร้อมใช่มั้ย”

 

“ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้!” ฉินหยูรู้สึกหมดหนทางกับท่าทีที่ขี้โกงของเย่เชียน แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่สามารถโกรธเขาได้เลย

 

“เอ้าไม่ใช่หรอกเหรอ” เย่เชียนงุนงงไปชั่วครู่จากนั้นเขาก็นึกได้และพูดว่า “อ๋อ..ผมยังคงเป็นบอดี้การ์ดของคุณและจ้าวหยาอยู่..ใช่ๆผู้คุ้มกันฮ่าฮ่า!” เย่เชียนฝืนหัวเราะอย่างโง่เขลาและเกาหัวตัวเอง

 

“หึ!..เธอคงรู้ตัวสินะว่าเมื่อคืนเธอไปไหนมาทั้งคืนและเธอก็ไม่ได้กลับบ้านมา..เธอไม่กังวลเลยสินะว่าจะมีคนไม่ดีมาทำร้ายฉันและหยาเอ๋อน่ะ” เมื่อคิดถึงสิ่งที่ผู้ชายนี้อยู่ข้างนอกตลอดทั้งคืนฉินหยูก็รู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก บอดี้การ์ดหรือผู้คุ้มกันจะทำตัวผ่อนคลายและสบายใจลอยหน้าลอยตาเช่นนั้นได้อย่างไร?

 

หลังจากที่เย่เชียนได้ยินสิ่งที่ฉินหยูพูดแล้วและเมื่อยิ่งฟังมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้นเขาจึงพูดออกมาว่า “หยูหยู่..ทำไมผมรู้สึกถึงความหึงหวงในคำพูดของคุณราวกับว่าคุณกำลังรอให้สามีคนนี้กลับบ้านเลยล่ะ..นั่นก็เพราะว่าสามีคนนี้อยู่กับนายหญิงของเขาทั้งคืนยังไงล่ะ..ถึงอย่างงั้นคุณยังจะชอบผมอยู่มั้ย”

 

ฉินหยูตกตะลึงไปชั่วครู่เมื่อเธอนึกถึงคำพูดของเธอเมื่อไม่นานมานี้และมันดูเหมือนว่าคำพูดของเธอมันฟังดูครุมเครือและมันทำให้เข้าใจผิดจริงๆ  “ฉันชอบเธองั้นหรอ? อย่าลืมสิว่าเธอเป็นแค่บอดี้การ์ดของฉันและเธอก็ยังต้องชดใช้หนี้ของเธออีกด้วย” ฉินหยูพูดอย่างขุ่นเคือง

 

 

“ความจริงผมไม่ได้มาที่เพื่อจะแก้ตัวอะไรหรอก” เย่เชียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและหยิบกล่องผ้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อและยื่นให้เธอพร้อมพูดว่า “นี่สำหรับคุณ..สุขสันต์วันเกิดนะ”

 

ฉินหยูอดไม่ได้ที่จะหัวใจสั่นหวั่นไหว เธอจ้องมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจกับและถามว่า “เธอรู้ได้ยังไงว่าวันนี้เป็นวันเกิดของฉัน”

 

“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะรู้ได้ยังไง” เย่เชียนตอบ

 

ฉินยูหยิบกล่องผ้าจากมือของเย่เชียนและเปิดมันออกและเธอก็ตกใจมากที่เห็นว่าข้างในเป็นเครื่องประดับจากการประมูลในวันนั้นมันเป็นสร้อยคอเพชรดวงดาวแห่งความรักที่เหว่ยเฉิงหลงชนะการประมูล เมื่อเธอเห็นมันเธอรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่มันเอ่อล้นอยู่ข้างในแถบจะระเบิดออกมาและหัวใจของเธอก็เต้นรัวมากจากนั้นเธอก็ถามว่า “สร้อยเส้นนี้ไม่ใช่ของเหว่ยเฉิงหลงหรอ..เธอได้มันมาได้ยังไง?” ฉินหยูถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

“เมื่อคืนผมไปที่บ้านของเหว่ยเฉิงหลงและยืนรอเขาทั้งคืนและรอนานมากกว่าเขาจะมาและเมื่อเขามาถึงผมก็เข้าไปหาเขาและคุยกับเขาอย่างลูกผู้ชายแต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะยอมมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับผมจริงๆและไม่ได้เรียกร้องเงินอะไรเลยด้วยซ้ำ” เย่เชียนตอบอย่างง่ายๆ

 

แต่ฉินหยูนั้นคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเพราะเหว่ยเฉิงหลงเป็นคนแบบไหนนั้นฉินหยูรู้เป็นอย่างดีเพราะว่าเขาใช้เงินตั้งสิบห้าล้านหยวนไปกับสร้อยคอเส้นนี้ เพราะฉะนั้นเขาจะมอบมันให้กับเย่เชียนง่ายๆแบบนี้เชียวเหรอ? ถึงอย่างไรก็ตามเธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเย่เชียนจะได้สร้อยคอเส้นนี้มาหลังจากงานราตรีในคืนนั้น และเมื่อเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เย่เชียนไปหาเหว่ยเฉิงหลงเมื่อคืนนี้สิ่งที่เขาพูดว่าคุยกันอย่างลูกผู้ชายมันอาจมีความรุนแรงหรือเบื้องหลังบางอย่างแน่นอน ซึ่งมันทำให้เหว่ยเฉิงหลงถึงกับต้องยอมมอบสร้อยคอนี้ให้แก่เย่เชียน สร้อยคอเส้นนี้มีมูลค่าตั้งสิบห้าล้านหยวนแต่เย่เชียนเพิ่งจะมอบมันให้เธอเป็นของขวัญและนอกจากนี้ผู้ชายคนนี้ยังรู้ว่าวันเกิดของเธอคือเมื่อไหร่และวันไหนอีก เพราะเหตุนี้ใช่ไหมเขาจึงพยายามแสวงหาสร้อยคอนี้มาโดยตลอดเพื่อที่จะมอบให้ตัวเธอเอง ฉินหยูจึงรู้สึกประทับใจและตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก

 

เพราะฉะนั้นในตอนนี้เธอจึงไม่กังวลว่าสักวันหนึ่งเหว่ยเฉิงหลงจะมาคุกคามเย่เชียนเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะถ้าหากเหว่ยเฉิงหลงกล้าแตะต้องแม้แต่เส้นผมของเย่เชียนแล้วล่ะก็เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะทำให้เหว่ยเฉิงหลงตายทั้งเป็น ก็เพราะเหว่ยเฉิงหลงไม่สามารถปกป้องสิ่งของของตัวเองได้และเขาก็ไม่สามารถโทษใครอื่นได้นอกจากตัวเขาเอง และเย่เชียนก็ได้มอบสร้อยคอเส้นนี้ให้กับเธอเป็นของขวัญแล้ว และใครจะกล้าคิดล่ะว่ามันถูกขโมยไป?

 

“ขอบคุณนะ!” ฉินหยูพูดด้วยความตื้นตันใจและทันใดนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นและจูบไปที่แก้มของเย่เชียนในทันที

 

เย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าฉินหยูจะจูบเขา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะชะงักไปชั่วครู่ และเมื่อเขาเอามือไปสัมผัสกับแก้มตัวเองที่ฉินหยูจูบเขาเย่เชียนก็ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ

 

“บ่ายนี้เธอยุ่งหรือมีอะไรหรือเปล่า..หลังเลิกเรียนไปฉลองวันเกิดกับฉันได้มั้ย” น้ำเสียงของฉินหยูดูอ่อนโยนอย่างผิดปกติและแตกต่างจากตัวตนที่แสนเย็นชาของเธออย่างสิ้นเชิง

 

เย่เชียนไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของฉินหยูได้ เขารู้สึกว่าเขาชอบฉินหยูที่ดูเย็นชามากกว่า และฉินหยูก็ไม่รู้ว่าเย่เชียนกำลังคิดเช่นนี้กับเธออยู่มิฉะนั้นเธอคงจะจะสาปแช่งเขาอย่างแน่นอน และเย่เชียนก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสัญญากับหลินโรวโร่วว่าจะไปบ้านของเธอในคืนนี้มันจึงทำให้เย่เชียนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เพราะความรู้สึกของเขาที่มีต่อหลินโรวโร่วนั้นแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆและหัวใจของเขาก็ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ดวยผู้หญิงคนอื่นพร้อมกับหลินโรวโร่วในใจของเขา

 

เมื่อเธอเห็นการแสดงออกที่ดูน่าอึดอัดลำบากใจของเย่เชียนแล้ว ฉินหยูก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังจากนั้นเธอก็พูดว่า “งั้นไม่เป็นไร..ฉันกับหยาเอ๋อและเค่อเอ๋อเราฉลองกันเองได้..ถ้าเธอมีธุรก็ไม่ต้องมาก็ได้” น้ำเสียงของฉินหยูกลับไปสู่ความเย็นชาอีกครั้ง

 

เย่เชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เอาไงดีล่ะ..ถ้างั้นหลังเลิกเรียนคุณพาพวกเธอไปเดินเล่นที่ไหนสักแห่งก่อนก็ได้..และก่อนเอิ่ม….สามทุ่ม..คุณก็กลับมาบ้านอีกทีหลังสามทุ่มได้มั้ย?”

 

ฉินหยูมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจและถามว่า “เธอมีแผนบ้าอะไร?”

 

“ฮ่าฮ่า..เอาหน่าไม่ต้องห่วงแค่ทำตามคำขอของผมก็พอแล้ว” เย่เชียนตอบอย่างครุมเครือ

 

“ก็ได้!” ฉินหยูคิดสักพักแล้วพยักหน้า

 

เย่เชียนแบมือออกมาและพูดว่า “ขอกุญแจรถของคุณหน่อยสิ..ให้ผมยืมรถของคุณช่วงบ่ายได้มั้ย”

 

ฉินหยูอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ลึกลบของเย่เชียนมาก แต่เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะเล้าหลือเซ้าซี้ถามมาก แต่อย่างไรก็ตามเธออยากรู้ว่าความคิดของเย่เชียนในคืนนี้คืออะไรและไม่มีอะไรที่ต้องกังวลมากนัก

.

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

เรื่องย่อ เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย้ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม… ————————————– ————————————– ..โปรย.. ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset