“ถ้างั้นนายก็เป็นแมวลายตัวใหญ่!” เมื่อจ้าวหยาเห็นเย่เชียนทำหน้าทำตาเพี้ยนๆเธอก็อดไม่ได้ที่จะหยุดร้องไห้และฉีกยิ้มออกมาจากนั้นเธอก็จ้องมองเย่เชียนและพูดด้วยน้ำเสียงที่ซุกซน เธอก็ไม่ใช่คนโง่เธอแค่รู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปเท่านั้นก่อนหน้านี้และเธอก็โยนความผิดไปให้เย่เชียนและกล่าวหาเขาผิดๆซึ่งเธอก็คิดเรื่องนี้อยู่มาสักพักหนึ่งแล้วและก็เข้าใจดีว่าเย่เชียนไม่ได้ทำอะไรเธอเลยจริงๆ
“พวกพี่ๆ…นี่พวกคุณ…” จู่ๆฉินเฟิงก็โผล่มาที่ประตูและจ้องมองไปที่ทุกคนด้วยใบหน้าที่ปะหลาดใจ ในสายตาของเขานั้นพี่สาวของเขาคือหินที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเกี่ยวกับความรักเลยและเป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะจีบเพศตรงข้ามอย่างไรเธอมักจะเป็นผู้หญิงที่เย็นชาเสมอ ซึ่งตอนนี้เขาเห็นว่าเธออยู่บนเตียงกับผู้ชายโดยไม่คาดคิดและที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือยังมีพี่ๆอีกสองคนนอกจากฉินหยูและเย่เชียนแต่ยังมีจ้าวหยาและหูวเค่ออยู่ที่นั่นด้วย..เขาจึงคิดว่ามันเป็นไปได้ไหมว่า..นี่คือฉากสี่คนในตำนาน?
“นี่..ใครบอกให้เธอเข้ามาโดยไม่เคาะประตูออกไปเลย!” ฉินหยูตะโกนใส่ฉินเฟิง และถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้ทำอะไรกับตัวเธอเองก็ตาม แต่จ้าวหยากับหูวเค่อแล้วฉินหยูก็ไม่มั่นใจเพราะว่ามันไม่ใช่ตัวเธอเองและเมื่อเธอเห็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดโดยฉินเฟิงเธอก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยว
ฉินเฟิงก็แลบลิ้นใส่และรีบวิ่งหนีไปแต่ก่อนที่เขาจะไปเขาได้แอบยกนิ้วโป้งให้เย่เชียนอย่างเงียบๆ และแสดงออกทางสายตาให้ความหมายว่า ‘พี่ชาย..พี่ยอดเยี่ยมมาก!”
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเย่เชียนดังขึ้น เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มให้พวกสาวๆและพูดว่า “ผมต้องไปรับสายนี้” เมื่อพูดแบบนี้เสร็จเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและดูเบอร์ที่โทรเข้ามา
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นั่นอีกต่อไปเพราะไม่มีใครอาจรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขายังอ้อยอิ่งอยู่ที่นั้น เสียงโทรศัพท์สายนี้ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เย่เชียนรับสายและพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยว่า “ว่าไง..ว่าไง?”
“บอส..มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเทียนเฉิน!” เสียงของแจ็คที่ดูค่อนข้างกระวนกระวายดังเข้ามาในโทรศัพท์
ร่างกายของเย่เชียนหยุดชะงักไปชั่วครู่อย่างกะทันหันและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันทีและแทนที่ด้วยคิ้วที่ขมวดและดวงตาคมราวกับใบมีด หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งเย่เชียนก็พูดขึ้นมาว่า “รอฉันที่สำนักงาน..เดี๋ยวฉันจะรีบไป” หลังจากพูดเสร็จเย่เชียนก็วางสาย
“เกิดอะไรขึ้น?” ไม่รู้ว่าเมื่อไรแต่ฉินหยูเธอยืนอยู่ข้างหลังของเย่เชียนแล้วและถามเขาด้วยความเป็นห่วง
“ฉินหยู..ผมอาจจะหายไปสักพักนะ..พวกคุณ…” เย่เชียนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
แต่เย่เชียนยังไม่ทันได้พูดจบฉินหยูขัดจังหวะเขาและพูดว่า “ฉันจะดูแลพวกเธอและตัวฉันเอง..ไม่ต้องกังวลนะ” เธอไม่เคยเห็นเย่เชียนจริงจังขนาดนี้มาก่อนดังนั้นเธอจึงเข้าใจว่ามันจะต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนแต่เย่เชียนกลับเป็นห่วงเธอก่อนอยู่ในช่วงเวลาสำคัญๆเช่นนี้จึงทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะใช้ชื่อในนามเขี้ยวหมาป่าเพื่อหยุดยั้งนักฆ่าจากองค์กรดาร์คลิลลี่ก็ตามแต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าคนจากองค์กรดาร์คลิลลี่จะไม่ใช้วิธีอื่นหรือเปล่า และนอกจากนี้อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้ทำให้องค์กรดาร์คลิลลี่หวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อยก็เป็นได้ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่รู้เกี่ยวกับองค์กรดาร์คลิลลี่ ซึ่งมันทำให้เย่เชียนกังวลมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของฉินหยูและแม้แต่จ้าวหยาเองก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน พวกเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยและไม่มีอะไรที่พวกเธอจะไปทำให้มีคนอยากจะฆ่าพวกเธอเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงเพื่อลดความโกรธแค้นของพวกศัตรูและพวกเธอก็เป็นเหยื่อสังเวยในสงครามเพียงเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดยังไม่ได้มารวมตัวกันในเซี่ยงไฮ้อย่างเต็มรูปแบบก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังมีสมาชิกทีมอยู่จำนวนหนึ่งในพื้นที่นี้ นอกจากนี้แจ็คจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้เพื่อจัดการการเตรียมการของสำนักงานการรักษาความปลอดภัยอีกด้วย ดังนั้นเย่เชียนจึงตัดสินใจที่จะใส่ใจและปกป้องพวกเธออย่างลับๆเพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาใหญ่มากเกินไป
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเย่เชียนก็ออกไปและเรียกแท็กซี่ไปที่สำนักงานชั่วคราวของเครือบริษัทน่านฟ้ากรุ๊ปและเมื่อเขาอยู่ในห้องลับของเขี้ยวหมาป่าก็เห็นหลี่เหว่ยและแจ็คอยู่ที่นั่นแล้วเช่นเดียวกันกับอดีตหน่วยรบพิเศษสองคนจาก US Navy Seals จากสหรัฐอเมริกาและตอนนี้เขาทั้งสองก็เป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าเขามีชื่อว่าเจมส์และวิลเลี่ยมและเย่เชียนก็เดินเข้ามาโดยไม่ได้พูดอะไรและหลังจากที่เขานั่งลงเขาหันไปหาแจ็คแล้วถามว่า “เทียนเฉินอยู่ที่ไหน?”
“เมียนมาร์! เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมาเทียนเฉินไปที่นั่นเพื่อออกปฏิบัติภารกิจซึ่งช่วงๆแรกๆก็ยังสามารถติดต่อกับเขาได้อยู่ แต่เมื่อถึงกำหนดการตามเวลานัดหมายเขาก็ยังไม่กลับมาและไม่ติดต่อมาเลย ดังนั้นผมจึงมั่นใจได้ว่ามันจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเทียนเฉินอย่างแน่นอน” แจ็คตอบอย่างถี่ถ้วน
“ภารกิจอะไร?” เย่เชียนถาม
“กองกำลังติดอาวุธกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ว่าจ้างให้เราไปเข้าร่วมกับกองกำลังติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อทำการลุมล้อมโจมตีพร้อมกันซึ่งกองกำลังติดอาวุธทั้งสองกลุ่มนั้นมีจำนวนคนไม่มากนักซึ่งมีประมาณหนึ่งพันคน ดังนั้นผมจึงส่งเทียนเฉินไปพร้อมกับพี่ๆอีกสิบคน” แจ็คตอบอย่างเคร่งขรึม
“นายระบุตำแหน่งของเขาด้วยดาวเทียมของหน่วยเราไม่ได้เหรอ?” เย่เชียนยังคงถามต่ออย่างเคร่งครัด
“ไม่ได้เลย! อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมไปถึงโทรศัพท์นาฬิกาไฮเท็คต่างๆของเทียนเฉินน่าจะถูกทำลายไปแล้วและตำแหน่งสุดท้ายที่ระบุได้คือที่นี่!” ขณะที่แจ็คพูดเขาชี้ไปที่จุดๆหนึ่งบนแผนที่บนโต๊ะ
เย่เชียนขมวดคิ้วและพูดว่า “แล้วพี่ๆน้องๆคนอื่นอยู่ที่ไหน?”
“ผมได้ติดต่อกับพี่ๆที่กำลังลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจในเมียนมาร์ไปแล้วและพวกเขาก็กำลังมุ่งหน้าไปที่ตำแหน่งนั้น” แจ็คตอบ
เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “ไม่ว่ายังไงก็ตามเราไม่อาจทิ้งพี่น้องของเราได้..แจ็ค! นายอยู่ที่นี่และเช็คดูว่าจะสามารถระบุตำแหน่งของเทียนเฉินได้หรือไม่..เดี๋ยวฉันกับหลี่เหว่ย,เจมส์และวิลเลียมจะรีบไปที่เมียนมาร์ในทันทีและถ้าหากนายมีข้อมูลอะไรเพิ่มก็ติดต่อพวกเราในทันที!
“บอส..มันเป็นความผิดของผมทั้งหมดถ้าผมไม่รับภารกิจนี้มาล่ะก็เทียนเฉินและพี่ๆคนอื่นๆก็คงจะไม่อยู่ในสถานการณ์ความยุ่งเหยิงนี้หรอก” แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เย่เชียนตบไหล่ของแจ็คเบาๆและพูดว่า “ตั้งแต่ที่เราเป็นทหารรับจ้างนั้นเราก็เหมือนก้าวเท้าเข้าไปในดินแดนแห่งยมโลกแล้ว มันไม่ใช่ความผิดของนายและนอกจากนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าพวกเขาเจอปัญหาจริงๆหรือเปล่า บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นอะไรก็ได้”
แจ็คพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“หลี่เหว่ย..ไปจองตั๋วแล้วดูว่าเที่ยวบินแรกไฟต์ที่ไปเมียนมาร์เร็วที่สุดคือเมื่อไหร่!” เย่เชียนพูดอย่างจริงจัง
“ผมเช็คมาให้เรียบร้อยแล้วบอส..ไฟต์แรกคือคืนนี้เวลาสองทุ่มตรง..เที่ยวบินแรกจากสนามบินผู่ตงไปยังกรุงเนปีดอว์เมืองหลวงของเมียนมาร์!” หลี่เหว่ยตอบอย่างถี่ถ้วน
“ถ้างั้นแจ็ค!..จองตั๋วออนไลน์ตอนนี้เลย..หลี่เหว่ย..เจมส์..วิลเลียมเตรียมตัวให้พร้อมเราจะออกเดินทางตอนสองทุ่มคืนนี้!” เย่เชียนพูดโดยไร้ซึ่งความลังเลใดๆเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่เย่เชียนพูดจบทั้งสามคนก็ลุกขึ้นและแยกย้ายไปในทันที เย่เชียนหันไปหาแจ็คและพูดว่า “งานนี้อาจต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆเลย..ฝากนายคอยดูแลผู้หญิงเหล่านั้นจากงานราตรีด้วยล่ะ..แต่อย่าให้พวกเธอรู้นะ”
“ได้เลย..เข้าใจแล้วบอส!” แจ็คตอบ
เย่เชียนพยักหน้าและลุกขึ้นจากนั้นก็ออกไป หลังจากออกจากห้องทำงานเย่เชียนก็ตรงไปที่โรงพยาบาลเหรินหมินเพราะเขาไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องจากไปอีกนานแค่ไหนเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องบอกกับหลินโรวโร่วไม่เช่นนั้นจิตใจของหญิงสาวจะปั่นป่วนและเธอก็จะกังวลอย่างมากและขณะที่อยู่ระวางท่างบนถนนเย่เชียนก็โทรกลับบ้านเพื่อบอกพ่อว่าเขาจะไปกับหัวหน้างานของเขาในการเดินทางเพื่อธุรกิจเพื่อและไม่ให้เขาเป็นกังวล และพ่อก็เพียงบอกแค่ว่าให้ดูแลตัวเองดีๆแล้วก็วางสายไป
.
.
.
.
.
.
.