ทั้งสองคนตะโกนโต้แย้งกันอย่างหนัก ที่สุดก็มีพวกตี๋คนหนึ่งทนไม่ไหว ร้องเรียกพวกพ้องให้ช่วยตนรับมือกับทหารเว่ย ตนเองกระโดดออกจากวงต่อสู้ เอาปลายดาบชี้ไปที่เด็กหนุ่มชาวตี๋ผู้นั้น ตะโกนด่าทออย่างดุร้าย แล้วพูดต่อไปด้วยโทสะคราวหนึ่ง …เสิ่นจั้งเฟิงได้ฟังแล้วก็ไม่ได้รู้สึกงงงันอันใด ชาวตี๋ผู้นั้นพูดอย่างโกรธเคืองเป็นฟืนเป็นไฟว่า “ที่แท้แล้วนิสัยของชาวเว่ยก็มีจิตใจชั่วช้าดังพวกหมาใน เวลานี้พวกเราต่อสู้กันหนักหนาสาหัส เจ้าเป็นคนของท่านข่าน ไม่เพียงไม่ช่วยพวกเรา แต่กลับมาทะเลาะกับท่านหัวหน้าอยู่ที่นี่ ทำให้หัวหน้าเสียสมาธิ! เหมือนคนในเผ่าเดียวกันสักน้อยนิดหรือไม่? ท่านข่านมองเจ้าผิดไปจริงๆ!”
ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่สอง
“ตอนนั้นท่านปู่จัดการหมั้นข้ากับสามีฝ่ายบู๊เพราะชะตาต้องกันเพียงคราเดียว!
ข้าไม่ร้องไห้โฮออกมาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะให้มีความสุขทั้งสองฝ่าย?
ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ วันเวลาแสนหวานชื่นในอนาคตที่ข้าคิดว่าจะมีได้
ก็คือตีจนกว่าเขาจะต้องเชื่อฟังข้าไปทั้งชีวิต และไม่ทำให้ข้าต้องโมโห!
มีความสุขทั้งสองฝ่าย…ข้าจะไปชอบสามีเยี่ยมยุทธ์อย่างนั้นได้อย่างไร!
ข้ายังไม่ชอบเขา แล้วการที่เขาจะชอบข้าหรือไม่ ยังจะสำคัญหรือ?
ที่สำคัญก็คือ เขาต้องเชื่อฟังข้า!”
Recommended Series
Comment
Facebook Comment