จวนจิ้นอ๋อง เรือนหลังส่วนในของบ้าน
นายหญิงจวนจิ้นอ๋อง พระชายาจิ้นอ๋อง ซ่งซื่อกำลังนั่งอยู่บนตั่งนอนสนทนากับแม่นมซือคนสนิท นางสวมเครื่องประดับหยกเต็มศีรษะ เครื่องสำอางบนใบหน้างดงาม เพียงแค่หางตาหางคิ้วยังมองออกว่านางคือหญิงงาม
“พอฉั่งเกอเอ๋อร์แต่งงาน ภาระของข้าก็นับว่าเบาลงไปกว่าครึ่งแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋องหรี่ตา เคลิบเคลิ้มไปกับการนวดของสาวใช้
“พระชายาอย่าเพิ่งพูดเช่นนี้ พอคุณชายสี่แต่งงานแล้ว ท่านยังต้องร้อนใจอยากอุ้มหลานชายอีกมิใช่หรือ ภาระของท่านยังหนักอยู่เลยเจ้าคะ” แม่นมซือกล่าวเสียงเบา
มุมปากพระชายาจิ้นอ๋องปรากฏรอยยิ้ม “แม่นมพูดมาก็ถูก ภรรยาของเยี่ยเกอเอ๋อร์ก็มีลูกสาวสองคนแล้ว จนถึงวันนี้ยังไม่สามารถมีลูกชายเพิ่มให้เยี่ยเกอเอ๋อร์ได้เลย ภรรยาของเหยียนเอ๋อร์แต่งงานมาสามปีแล้วเพิ่งจะตั้งครรภ์ ข้าหวังว่าครรภ์นี้ของนางจะสามารถมีหลานชายให้ข้าได้ คิดถึงตรงนี้ข้าก็กลุ้มใจจนนอนหลับไม่สนิท หัวอกคนเป็นพ่อแม่ ทุกข์ใจไม่จบไม่สิ้นจริงๆ”
พระชายาจิ้นอ๋องเป็นสตรีที่โชคดีอย่างยิ่ง แต่งงานกับจิ้นอ๋องมายี่สิบกว่าปีก็ยังรักกันเหมือนก่อน เรือนหลังจวนจิ้นอ๋องนางเป็นใหญ่เพียงผู้เดียว จิ้นอ๋องไม่มีชายารองแม้แต่คนเดียว อนุภรรยาที่มีเพียงสองคนก็เพียงแค่มีไว้ประดับ ตลอดปีอยู่เงียบๆ ในเรือนของตัวเอง ไม่รู้สึกถึงการมีอยู่เลยแม้แต่น้อย
พระชายาจิ้นอ๋องมีบุตรชายสามคน ได้แก่คุณชายรองสวีเยี่ย คุณชายสามสวีเหยียน คุณชายสี่สวีฉั่ง คุณชายรองกับคุณชายสามนั้นล้วนแต่งงานแล้ว คุณชายสี่เองก็กำลังดูสตรีอยู่
อ้อ นอกจากบุตรภรรยาหลวงสามคนที่เกิดจากพระชายาจิ้นอ๋องแล้ว พระชายาจิ้นอ๋องยังมีบุตรชายคนโตสวีโย่ว คุณชายห้าซึ่งเป็นลูกอนุภรรยาสวีสิง คุณหนูใหญ่ซึ่งเป็นลูกอนุภรรยาสวีเจียนเจีย
“หลายวันมานี้พระชายาก็ดูคุณหนูตระกูลต่างๆ มาไม่น้อย ตัดสินใจเลือกคนที่จะมาเป็นว่าที่ฮูหยินคุณชายสี่ได้หรือยังเจ้าคะ” แม่นมซือเอ่ยถามช้าๆ
พระชายาจิ้นอ๋องเปลี่ยนท่าทางกล่าว “ฉั่งเกอเอ๋อร์ชอบเที่ยวเล่น เกรงว่าหนทางชีวิตการเป็นขุนนางจะสู้เยี่ยเกอเอ๋อร์กับเหยียนเกอเอ๋อร์ไม่ได้ ข้าคิดว่าจะต้องแต่งภรรยาที่มีความสามารถให้เขา หากจะพูดว่าเหมาะสม ชิงหรุ่ยตระกูลองค์หญิงใหญ่ก็เหมาะสมที่สุด ฐานะครอบครัวเหมาะสมกัน ทั้งยังเป็นลูกพี่ลูกน้อง เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ความสัมพันธ์ย่อมดีกว่าคนอื่น น่าจะเข้ากันได้ดี”
พระชายาจิ้นอ๋องหมายตาบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวขององค์หญิงใหญ่เอาไว้ ใจอยากได้ท่านหญิงน้อยเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ของนาง มีพระเช่นองค์หญิงใหญ่องค์นี้เป็นที่พึ่งแล้ว ลูกชายของนางยังมีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีก
นางวางแผนไว้ดีอย่างยิ่ง แต่กลับลืมคิดว่าองค์หญิงใหญ่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของนางหรือไม่ แม้แต่สวีเยี่ยซื่อจื่อของจวนจิ้นอ๋อง องค์หญิงใหญ่ยังไม่ทรงเหลียวแล นับประสาอะไรกับกับสวีฉั่งที่เก่งแต่กินดื่มเที่ยวเล่นผู้นี้ ฝันไปเถอะ
พระชายาจิ้นอ๋องไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ แต่ในใจแม่นมซือกลับเข้าใจดี นางลังเลครู่หนึ่ง ยังคงกล่าวเตือนอย่างนิ่มนวล “ท่านหญิงน้อยชิงหรุ่ยกับคุณชายสี่ของพวกเราอายุใกล้เคียงกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าองค์ใหญ่จะทรงยินยอมหรือไม่”
ตั้งแต่ที่พระชายาแต่งเข้าจวนจิ้นอ๋อง แม่นมซือก็อยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด นางรู้ดีว่าองค์หญิงใหญ่เพียงแค่ทำดีต่อหน้าหวังเฟยเท่านั้น ทั้งจวนจิ้นอ๋อง คนที่องค์หญิงใหญ่ให้ความสำคัญที่สุดคือคุณชายใหญ่ต่างหาก!
พระชายาจิ้งอ๋องไม่สนใจ “นางมีอะไรให้ไม่ยอม แม้จะบอกว่าชิงหรุ่ยเด็กคนนั้นได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิง แต่ความจริงแล้วก็เป็นเพียงเด็กไม่มีพ่อ ข้าไม่รังเกียจนางก็ดีเท่าไรแล้ว นางสามารถแต่งงานกับฉั่งเกอเอ๋อร์ได้ก็นับเป็นวาสนาของนางแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋องเองก็ไม่ชอบองค์หญิงใหญ่เช่นกัน เป็นแค่แม่หม้ายสามีตาย อาศัยความโปรดปรานของจักรพรรดิทำตัวสูงส่ง วันทั้งวันเอาแต่เชิดคางมองคนอื่น ข้าจะดูว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะมีจุดจบอย่างไร
แม่นมซือได้ยินคำพูดนี้ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างเฉียบแหลมทันที “การสมรสของคุณชายสี่มีเค้าโครงแล้ว พระชายาท่านเองก็ควรจะเป็นห่วงคุณชายใหญ่เหมือนกันมิใช่หรือเจ้าคะ” นางกล่าวอย่างระมัดระวัง
พระชายาจิ้นอ๋องตะลึงงัน “คุณชายใหญ่หรือ เป็นห่วงอย่างไร ข้าไม่ได้เป็นห่วงอยู่หรือ เขาเสียคู่หมั้นไปสามคนแล้ว พระอาจารย์ก็บอกแล้วว่าเขามีดวงชะตาอัปมงคล ชีวิตต้องโดดเดี่ยว อย่าทำลายชีวิตคุณหนูตระกูลอื่นเลยดีกว่า มีใครบ้างที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงมาอย่างทะนุถนอม น่าสงสารนัก! นี่เป็นเรื่องอับจนหนทางนัก ยิ่งไปกว่านั้นโย่วเสวี่ยบอกเองไม่ใช่หรือว่าไม่อยากแต่งงาน”
คุณชายใหญ่ผู้นี้เป็นหนามยอกอกของจวนจิ้นอ๋อง เห็นได้ชัดว่าตอนแรกนางกับท่านอ๋องรักกันอยู่ดีๆ อยู่ หญิงผู้นั้นดันสอดเท้าเข้ามา แย่งตำแหน่งพระชายาจิ้นอ๋องของนางไป
โชคดีที่หญิงผู้นั้นอายุสั้น เพียงแค่สองปีก็เสียชีวิตแล้ว แต่กลับทิ้งผีทวงหนี้ไว้ขัดลูกตานาง โชคดีที่ผีทวงนี้ตนนี้สุขภาพไม่ดี ช่วงเวลาส่วนใหญ่ก็รักษาตัวอยู่บนเขา มิเช่นนั้นนางไหนเลยจะสบายเช่นนี้ได้
เฮ้อ เจ้าแต่งเข้ามาก่อนแล้วอย่างไร ผู้ชนะคนสุดท้ายก็ยังคงเป็นข้ามิใช่หรือ ตั้งแต่ที่ลูกชายแท้ๆ ของตนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นซื่อจื่อ พระชายาจิ้นอ๋องก็ยิ่งไม่เห็นสวีโย่วอยู่ในสายตา เจ้าเป็นลูกชายภรรยาหลวงแล้วอย่างไร เจ้าได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิแล้วจะมีประโยชน์อันใด จวนจิ้นอ๋องก็ยังตกเป็นของลูกชายข้าอยู่ดีมิใช่หรือ
แม่นมซือรู้ความคิดของพระชายาดี และเพราะว่ารู้ดีนางจึงกลัวพระชายาจะทำเรื่องผิดพลาด นางเป็นคนของพระชายา พระชายาเป็นอยู่ดีนางถึงจะดีได้
“แม้จะพูดเช่นนี้ แต่พระชายาเจ้าคะ เรื่องที่ท่านควรทำก็ยังต้องทำนะเจ้าคะ อย่างไรเสียท่านก็เป็นแม่ใหญ่ของคุณชายใหญ่ เป็นนายหญิงของจวนจิ้นอ๋อง ท่าทีที่ควรมีท่านก็ต้องมี ท่านอ๋องไม่พูด แต่อย่างไรเสียคุณชายใหญ่ก็เป็นบุตรของเขามิใช่หรือ ยังมีองค์จักรพรรดิ ท่านจัดการเรื่องสมรสให้คุณชายใหญ่ จักรพรรดิก็ต้องชื่นชมท่านเช่นกัน” แม่นมซือโน้มน้าวอย่างใจเย็น
พระชายาจิ้นอ๋องคล้ายกำลังครุ่นคิด ขมวดคิ้วไตร่ตรอง พยักหน้าช้าๆ “แม่นมพูดถูก เป็นมารดา ข้าก็ควรจะยุติธรรม เห็นแก่ท่านอ๋องข้าเองก็ไม่อาจปฏิบัติต่อโย่วเกอเอ๋อร์อย่างไม่เป็นธรรมใช่หรือไม่”
“พระชายาจิตใจงามนัก” แม่นมซือกล่าวชม
ทว่าพระชายาจิ้นอ๋องกลับยังคงขมวดคิ้ว “แต่คู่สมรสของโย่วเกอเอ๋อร์หาไม่ง่ายเลย ปีนี้เขาก็ยี่สิบสองปีแล้ว อายุมากไปหน่อยจริงๆ อีกทั้งสุขภาพของเขา ตระกูลใดจะยอมมอบบุตรสาวให้แต่งงานเล่า มีตระกูลเล็กๆ มาวิ่งไล่ตาม แต่ฐานะก็ต่ำเกินไป จวนอ๋องและศักดิ์ศรีของท่านอ๋องจะเสื่อมเสียหมด”
พระชายาจิ้นอ๋องลำบากใจขึ้นมา นางกลับยินดีจะแต่งสวีโย่วกับคนที่มีฐานะต่ำต้อย ฐานะต่ำต้อยจึงจะควบคุมง่าย แต่อย่างไรเสียสวีโย่วก็เป็นคุณชายใหญ่ของจวนจิ้นอ๋อง แต่งกับคนฐานะต่ำต้อย ท่านอ๋องกับจักรพรรดิจะต้องไม่ยอมเป็นแน่ นี่ทำให้พระชายาจิ้นอ๋องเสียดายอย่างถึงที่สุด
แม่นมซือตาเป็นประกาย ออกความคิดเห็น “ครอบครัวฝั่งมารดาของพระชายายังมีคุณหนูลูกพี่ลูกน้องที่ยังไม่ออกเรือนมิใช่หรือเจ้าคะ”
“ไม่ได้ งานสมรสของหนิงเจี่ยเอ๋อร์พี่ใหญ่วางแผนแล้ว” พระชายาจิ้นอ๋องปฏิเสธข้อเสนอนี้ทันที หนิงเจี่ยเอ๋อร์เป็นบุตรสาวภรรยาหลวงที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของพี่ใหญ่ ตั้งแต่เล็กก็เชิญอาจารย์ชื่อดังมาอบรมสั่งสอน ศึกษากฎระเบียบดีเป็นที่หนึ่ง ตอนนี้องค์ชายหลายองค์ของจักรพรรดิต่างก็ถึงอายุที่ต้องสมรสแล้ว การวางแผนของพี่ใหญ่ นางเองก็เห็นด้วยอย่างถึงที่สุด
แม่นมซือยิ้มกล่าว “คุณหนูอี๋หนิงย่อมไม่ได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ว่ายังมีคุณหนูอี๋ฮุ่ยอี๋เจียอยู่อีกหลายท่านหรือ”
พระชายาจิ้นอ๋องยังคงขมวดคิ้ว “อี๋ฮุ่ยอี๋เจียล้วนแต่เป็นลูกอนุภรรยา ฐานะจะเหมาะสมหรือ” แต่งลูกอนุภรรยาให้บุตรชายคนโตของจวนจิ้นอ๋อง เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง
“จะไม่เหมาะสมได้อย่างไร พระชายาท่านคิดดู ด้วยเงื่อนไขของคุณชายใหญ่ของเรา ตระกูลสูงศักดิ์ตระกูลใดจะยอมให้บุตรสาวภรรยาหลวงแต่งงานด้วย แม้ว่าคุณหนูอี๋ฮุ่ยอี๋เจียจะเป็นลูกอนุภรรยา แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณชายใหญ่ของพวกเราก็เป็นถึงราชเลขากรมโยธาธิการ ไม่ใช่ว่าเหมาะสมหรอกหรือ” แม่นมซือค่อยๆ วิเคราะห์
พระชายาจิ้นอ๋องพยักหน้าช้าๆ “จริงด้วย ได้ พรุ่งนี้ข้าจะเรียกพี่สะใภ้ใหญ่มาปรึกษาดู”
“ยังมีท่านอ๋องด้วยเจ้าค่ะ” แม่นมซือกล่าวเตือน
พระชายาจิ้นอ๋องพยักหน้าอีกครั้ง จัดการเรื่องมงคลเช่นนี้ นามย่อมต้องบอกท่านอ๋อง และให้ท่านอ๋องดูว่านางไม่ได้ปฏิบัติต่อลูกชายคนโตของเขาอย่างไม่เป็นธรรม
บอกว่าทำก็ลงมือทำ พระชายาจิ้นอ๋องสั่งสาวใช้ใหญ่หวาเยียน “ไปเชิญท่านอ๋องที่ห้องหนังสือด้านนอกมา บอกว่าข้ามีเรื่องจะปรึกษา”
วันนี้จิ้นอ๋องอยู่ในจวนพอดี ตอนที่ออกไปตอนเช้าก็บอกพระชายาจิ้นอ๋องว่าจะไปหารือกับนายทหารผู้ช่วยที่ห้องหนังสือด้านนอก
จิ้นอ๋องมาเร็วอย่างยิ่ง เห็นสวีโย่วก็รู้แล้วว่ารูปโฉมจิ้นอ๋องจะต้องไม่ด้อยอย่างแน่นอน คนในราชวงศ์ รูปโฉมจะแย่ได้อย่างไร
“พระชายาเชิญข้ากลับมามีเรื่องอันใดหรือ” จิ้นอ๋องเลิกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง
พระชายาจิ้นอ๋องดวงตาเป็นประกาย กล่าวกับเขาอย่างไม่พอใจ “ทำไมเล่า หากไม่มีธุระจะเชิญท่านอ๋องกลับมาไม่ได้หรือ”
“ดูพระชายาพูดเข้า ข้าก็รีบกลับมาฟังคำสั่งของพระชายาแล้วไม่ใช่หรือไร” จิ้นอ๋องยิ้มกล่าว
สองสามีภรรยาเย้าหยอกกันครู่หนึ่ง พระชายาจิ้นอ๋องจึงกล่าว “เพราะว่ากำลังดูภรรยาให้ฉั่งเกอเอ๋อร์อยู่ ข้าจึงนึกถึงโย่วเกอเอ๋อร์ขึ้นมา เขาอายุยี่สิบสองแล้ว ข้างกายไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อน ทุกครั้งที่ข้านึกขึ้นได้ก็รู้สึกสงสารและไม่สบายใจ เรื่องสมรสของโย่วเกอเอ๋อร์ ท่านอ๋องคิดเห็นอย่างไร”
“เอ่ยถึงเขาทำไม” รอยยิ้มบนใบหน้าของจิ้นอ๋องจางลงแล้ว
พระชายาจิ้นอ๋องทำเป็นมองไม่เห็น กล่าว “เขาเป็นบุตรคนโตของท่านอ๋องมิใช่หรือ เยี่ยเกอเอ๋อร์เหยียนเอ๋อร์ที่เด็กกว่าเขาล้วนแต่งงานหมดแล้ว แม้แต่ฉั่งเกอเอ๋อร์ก็เริ่มวางแผนแล้ว โย่วเกอเอ๋อร์ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาจะใช้ได้หรือ ข้าเป็นพระชายา เป็นมารดาของจวนจิ้นอ๋อง โย่วเกอเอ๋อร์ดวงชะตาไม่ราบรื่น ข้าจะกลุ้มใจแทนเขาไม่ได้หรือ”
จิ้นอ๋องยังคงไม่ยินดี “เรื่องนี้เจ้าจัดการเองตามสมควรเถอะ” ลูกผู้ชายเช่นเขา ไหนเลยจะรู้ว่าต้องแต่งภรรยาให้ลูกชายอย่างไร อีกทั้งยังเป็นลูกชายที่ไม่สนิทกับเขามาตั้งแต่เล็กแล้วด้วย
“ท่านอ๋อง โย่วเกอเอ๋อร์เป็นบุตรชายคนโตของท่าน การสมรสของเขามีความต้องการอย่างไรขอท่านชี้แนะด้วย ข้าจึงจะจัดการได้ดี ยังมีองค์จักรพรรดิ ท่านไปบอกองค์จักรพรรดิสักหน่อยดีหรือไม่” พระชายาจิ้นอ๋องกล่าวอย่างอดทน
จิ้นอ๋องหงุดหงิดกว่าเดิม “ลูกของข้าแต่งงานเกี่ยวอะไรกับจักรพรรดิ การสมรสของเขาเจ้าจัดการเองตามสมควร ฐานะไม่ต่างกันมากไม่เสียหน้าจวนอ๋องก็ได้แล้ว ข้ายังมีงาน ตอนเที่ยงไม่กลับมากินข้าว” จิ้นอ๋องหน้าดำคร่ำเครียดเดินออกไปข้างนอก
แม่นมซือกับหวาเยียนในห้องเห็นท่านอ๋องโมโหต่างก็หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด แต่พระชายาจิ้นอ๋องกลับไม่สนใจ กลับมีความสุขอย่างถึงที่สุด