ยามดึกคืนนั้น บ่าวรับใช้ของเขาลอบส่งยามาให้ ทว่าสายตากลับส่องประกายอย่างมีเลศนัย ไม่กล้าที่จะมองตาของเขา “คุณชาย บ่าวขออภัยจริงๆ แต่บ่าวไม่มีทางเลือกขอรับ!”
คนที่ทำให้บ่าวของเขาหมดหนทางจนต้องทรยศต่อเจ้านายตัวเองได้จะมีใครอีก แม่ใหญ่ แม่ใหญ่ที่เขาเคารพนับถือนั่นไง! เขาไม่เคยต้องการที่จะแย่งชิงของของน้องชายเลยแม้แต่น้อย! ทำไม ทำไม ทำไม ทำแบบนี้ทำไม
บิดาของเขาที่มีสถานะเป็นเจ้าบ้านทำไมจะไม่รู้ว่าเขาต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ก็ยังยัดเหยียดสถานะลูกข่มขืนอนุภรรยาของบิดามาให้เขา เลือกที่จะขับไล่สมาชิกครอบครัวออกไป ท่านพ่อเลือกแม่ใหญ่และพวกน้องชาย
พวกเขาทำลายเขาแล้วลูกสาวของเขาจะปล่อยเอาไว้หรือ ตอนที่เขาถูกขังในวันที่เจ็ด ลูกสาวของเขาก็ตกน้ำเสียชีวิต ร่างเล็กๆ ของนางนอนเปียกไปทั้งร่างอยู่ตรงนั้น ไม่อาจลืมตาขึ้นมาพูดจาออดอ้อนเรียกเขาว่าท่านพ่อได้อีกต่อไป
เป็นเพราะเขาขวางทางเดินของพวกน้องชาย พวกเขาจึงต้องการที่จะกำจัดเขาออกไปให้พ้นทาง เขาไม่อยากที่จะอยู่ในครอบครัวที่สกปรกเช่นนี้แม้แต่น้อย ถูกขับไล่ออกมาก็ดีแล้ว นับแต่นี้ไปเขาไม่ได้แซ่ฝัง เขาแซ่ซู เพราะแซ่เดิมของท่านแม่คือซู
ตระกูลฝัง เมืองหลวง รอก่อนเถิด รอข้าฝังจิ่น อา ไม่ซี ข้าซูหย่วนจะต้องกลับมาอีกแน่
ซูหย่วนจากไปพร้อมด้วยความแค้นเต็มใจ เขามีพรสวรรค์ ไหนเลยจะต้องตกทุกข์ ยามที่ร่ำรวยอยู่ เขาผูกมิตรกับเพื่อนมิตรมากมาย ต่างให้การต้อนรับอย่างรื่นเริง ยามที่เขาพักผ่อน เขาจ่ายเงินมากมายในหอนางโลม กินเหล้าเมาเหมือนจะตาย เขาทำตัวสำมะเลเทเมา เขาถึงขนาดไปนอนในวัดร้างร่วมกับขอทาน
หนึ่งปี สองปี แปดปี สิบปี เขาไปยังทะเลตะวันออก เขาปีนขึ้นเขา เขายังเคยตกอยู่ในสงคราม ฝ่าเท้าของเขาราวกับท่องไปทั่วทั้งแผ่นดิน มองไปที่ทิวทัศน์อันไร้พรมแดน ยังมีการเวียนว่ายตายเกิดอยู่
จิตใจของเขาค่อยๆ สงบลง ไม่ใช่ว่าเขาลืมพวกนางไปแล้ว ทว่าพวกนางก็ยังคงอยู่ในใจของเขา
ในตอนนั้น เขากำลังเดินอยู่ด้านล่างของภูเขาจีโถ ถูกจี้ปล้น โอยโอย ภูเขาลูกนี้ช่างน่าเวทนานัก! โจรร้ายบนภูเขาแห่งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเพียงขอทานขอข้าวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงอยู่ที่นี่เพื่อเป็นแม่ทัพให้กับพวกเขา คอยดูแลว่าพวกเขาจะปล้นชิงอย่างไร จะใช้ชีวิตอย่างไร
สวรรค์อาจจะเห็นใจเขากระมัง ที่ให้รออยู่บนเขาจีโถ สาวน้อยคนนั้น สาวน้อยที่อายุเพียงสิบเอ็ดสิบสองปีคนนั้น สาวน้อยที่นำพาสาวใช้มาปล้นชิงแล้วยังประสบความสำเร็จอีกด้วย สาวน้อยที่มีดวงตากลมโตคนนั้น
ซูหย่วนตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาต้องตามนางไป! เขาต้องตามสาวน้อยที่เหมือนกับย่วนย่วนไป ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นอาจารย์ พ่อบ้าน หัวหน้าทหารของเด็กสาว
เด็กสาวคนนี้คือคุณหนูสี่ของจวนจงอู่โหวเสิ่นเวย ตอนนั้นนางกำลังถูกแม่เลี้ยงเนรเทศไปบ้านบรรพบุรุษตระกูลเสิ่นเพื่อรักษาตัว นางเป็นเด็กสาวที่ฉลาดและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว วินาทีก่อนอาจทำเขาโกรธเสียจนต้องกระทืบเท้า วินาทีต่อมาก็หันมายิ้มประจบประแจงเขา “ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ ท่านวางใจเถิด ข้าจะเลี้ยงท่านตอนแก่แน่”
เป็นเพราะประโยคนี้ของนาง เขาจึงเดินทางจากบ้านพักตระกูลเสิ่นถึงเมืองหลวง ช่วยนางวางแผนเรื่องราวต่างๆ อย่างกระตือรือร้น และช่วยจัดการงานต่างๆ ให้ คอยดูแลนางจากสาวน้อยกลายเป็นหญิงสาว เป็นภรรยา และเป็นมารดา ทุกครั้งที่มองนางดวงตาเขาจะโค้งลงเป็นรอยยิ้มพระจันทร์เสี้ยว เขาดูปลื้มปิติอย่างถึงที่สุด เขาคิด ย่วนย่วนของเขาก็คงจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
เมืองหลวงก็ยังคงเป็นเมืองหลวง ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกหน้า แม้ว่าจะผ่านไปยี่สิบปีแล้ว แต่ยังมีบางคนที่จำเขาได้ สาวน้อยของเขาไม่รู้ว่าไปรู้เรื่องราวในอดีตของเขาจากใคร ดังนั้นตระกูลฝังจึงถึงคราวซวย พวกน้องชายของเขาล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ทั้งเรื่องเลี้ยงภรรยาน้อย ทั้งเรื่องติดสินบน ทั้งเรื่องหึงหวงตบตีในหอนางโลม
ระหว่างทางยังปลอบโยนเขา “ท่านอาจารย์ หากท่านไม่อยากมีครอบครัวจริงๆ ก็ตามข้ามาเถิด ต่อไปข้าจะดูแลท่านเอง” ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักจริงๆ! นอกจากเรื่องที่ไม่ได้เรียกเขาว่าพ่อ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรขาด อย่างน้อยเขาก็สามารถพูดได้อย่างภูมิใจว่า สาวน้อยปฏิบัติต่อเขาดีกว่าพ่อของนางเองเสียอีก
แต่ซูหย่วนก็รู้ว่าตอนนี้ตระกูลฝังกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองสุดขีด ตอนนี้บิดาของเขาก็กลายเป็นเสนาอำมาตย์ในกลุ่มเสนาบดีที่สำคัญ ที่น่าเย้ยหยันที่สุดก็คือบิดาทอดทิ้งเขาแต่เก็บน้องชายที่มีสติปัญญาด้อยค่าเอาไว้ตั้งสามคน อย่างมากสุดก็ได้เป็นเพียงขุนนางขั้นหก ที่หรือคือจุดจบที่ท่านอำมาตย์ตั้งตารอ ฮ่าฮ่า ค่อยคลายความโกรธแค้นได้บ้าง
ชำระความแค้นด้วยคุณธรรม แล้วจะเอาอะไรมาตอบแทนคุณธรรมเล่า เขานำพาทหารหนุ่มจากจวนผิงจวิ้นอ๋องไปช่วยเหลือให้แต่ละจวน เหลือเพียงตระกูลฝังเท่านั้น เขาตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น!
หลายปีมานี้ เขาอยู่ข้างกายสาวน้อย เขาไม่ได้ต้องการที่จะแก้แค้นเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขาปล่อยวางแล้ว เขามักจะคิดว่า สาวน้อยของเขาเป็นย่วนย่วนกลับชาติมาเกิด
สำหรับตระกูลฝัง สิ่งที่เขาทำได้ก็คือไม่ปักใจแก้แค้นอีกต่อไป เขากลัวว่ามือของเขาจะเปื้อนเลือดมากเกินไป แล้วสวรรค์จะริบเอาความสุขของเขาในตอนนี้ไป
ไม่ได้แก้แค้น แต่ก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ สำหรับเขาแล้ว ตระกูลฝังก็เป็นเพียงฝันร้ายฉากหนึ่ง ในเมื่อผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปตลอดกาลเถิด
ที่พระตำหนักจินหลวน น้ำเสียงกังวานของเขาเอ่ยว่า “กระหม่อมคือซูหย่วน เป็นคนอำเภอสือผิงแห่งเจียงหนาน พ่อแม่ล้วนเสียชีวิต เหลือตัวคนเดียว”
ใช่แล้ว นับตั้งแต่วันที่เขาโดนตีแล้วหนีออกจากเมืองหลวง พ่อแม่ของเขาก็เสียชีวิตทั้งคู่ มารดาของเขาแซ่ซู บุตรสาวของซิ่วไฉ่ยากจน นางตายตอนเขาอายุสิบสี่ปี บิดาของเขาเป็นบัณฑิต รูปร่างสูงใหญ่หล่อเหลา ตายไปในความทรงจำของเขาเสียนานแล้ว
เป็นเพราะจับคุมผู้ลี้ภัย ฝ่าบาทจึงพระราชทานทหารกองหนึ่งให้เขาดูแล เขารู้สึกได้ถึงความเย้ยหยันที่ไร้จุดสิ้นสุด น้องชายที่บิดาปกป้อง แม้ต้องพยายามทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้เป็นทหารเกินขั้นหก แต่เขาเล่า กลับได้รับผลงานอย่างง่ายดาย เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าท่านอำมาตย์ตระกูลฝังจะเสียใจบ้างไหรือไม่
เมื่อออกมาจากตำหนักจินหลวน ท่านอำมาตย์ฝังก็เรียกเขาเอาไว้
อาจิ่น ชื่อนี้ช่างดูแปลกประหลาดนัก! ปากของซูหย่วนพ่นออกมาแต่คำเสียดสี เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลนานแล้ว บิดาจะเรียกเขาทำไม คงจะเห็นว่าเขาดูมีความสำคัญในสายตาของฝ่าบาทเลยอยากให้เขากลับตระกูลฝางเพื่อใช้แรงงานเป็นวัวเป็นควายอีกกระมัง
เมื่อหมุนกายกลับไป จิตใจของซูหย่วนก็สงบ เขาทำได้แล้ว ในที่สุดเขาก็ทำใจให้สงบได้ จากนั้นเขาก็ได้ยินบิดาของเขาพูดว่า “อาจิ่น เจ้าจะต้องเกลียดพ่อถึงขนาดนั้นเหรอ มาถึงเมืองหลวงแล้ว ไม่แม้แต่จะเข้ามาบ้านบ้าง”
ในใจเขาก็รู้สึกเย้ยหยัน มองไปทางพ่อของเขา เห็นเป็นเพียงท่านอำนาตย์เท่านั้น นักการเมืองโดยธรรมชาติ ทั้งๆ ที่เป็นเขาเองแท้ๆ ที่ไม่ต้องการลูกชายคนนี้ แต่ปากกลับพูดจาเหมือนเขาเป็นคนผิดอย่างนั้นหรือ
ในนาทีนั้น ซูหย่วนก็ไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป และไม่อยากได้ยินชายชราที่เคยเป็นบิดาของเขาพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว เขาคือซูหย่วน เขามีคนและสิ่งที่ต้องปกป้อง เขาไม่ใช่ฝังจิ่นผู้เป็นบุตรอนุแห่งตระกูลฝังมานานแล้ว ตระกูลฝังจะดี หรือตระกูลฝังจะร้าย ก็ไม่เกี่ยวกับเขาอีกต่อไป
สาวน้อยของเขาพูดได้ถูกต้อง ถ้าไม่รักแล้วจะโกรธหรือ การแก้แค้นที่ดีที่สุดก็คือความเฉยชา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาแล้ว แต่หากรู้ว่าอีกฝ่ายลำบาก อย่างนั้นก็ยิ่งดี
สุดท้ายซูหย่วนก็ยังคงปฏิเสธความปรารถนาดีของฝ่าบาท ความทะเยอทะยานและความปรารถนาในลาภยศของเขาได้หายไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ภายในใจก็คือความคิดที่จะปกป้องสาวน้อยให้ดีที่สุด เห็นว่านางมีความสุขก็พอแล้ว เช่นนี้เขาก็รู้สึกว่าย่วนย่วนของเขาก็คงจะมีความสุขด้วย
ศีรษะเล็กๆ ปรากฏที่หน้าประตู ซูหย่วนยิ้มอย่างเข้าใจ เอ่ยเสียงสูงขึ้นมาว่า “เยว่เป่า นั่วเป่า มาทำอะไรลับๆ ล่อๆ ยังไม่รีบเข้ามาอีก”
เด็กน้อยชายหญิงแสนปราดเปรียวคู่หนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมหัวเราะ ดึงแขนเสื้อของซูหย่วนอย่างออดอ้อน “ท่านอาจารย์ปู่!”
ใจของซูหย่วนเข้าใจในทันที เอ่ยว่า “บอกมา พวกเจ้าสองคนไปก่อเรื่องที่ไหนมา”
เด็กหญิงเยว่เป่าฉีกยิ้ม “พวกเราไปก่อเรื่องที่ไหนกัน เป็นท่านพ่อต่างหาก! เราแค่ไปเอาเงินคืนจากคนแก่คนนั้น ท่านพ่อก็ลงโทษเรา จริงๆ เลย” ไม่เคยเห็นพ่อคนไหนใจแคบขนาดนี้เลย
เด็กชายตัวเล็กกว่านั่วเป่าพยักหน้าเห็นพ้อง เอ่ยขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า “ท่านพ่อจะลงโทษข้า!” พี่สาวของเขาได้รับความรักใคร่เอ็นดูขนาดนั้น ท่านพ่อคงตัดใจลงโทษนางไม่ลงหรอก คงมีแต่เขาคนเดียวที่โดนลงโทษนี่แหละ
เด็กน้อยทั้งสองจ้องมองซูหย่วนตาแป๋ว ใจของซูหย่วนนั้นอ่อนยวบเหมือนปุยนุ่นเสียนานแล้ว พูดรับรองว่า “ได้ได้ได้ อาจารย์ปู่จะช่วยพูดให้พวกเจ้าเอง”
“ท่านอาจารย์ปู่ใจดีที่สุด!” เด็กทั้งสองหัวเราะอย่างรื่นเริง
เมื่อเห็นรอยยิ้มของเด็กน้อยทั้งสอง รอยยิ้มของซูหย่วนก็ยิ่งกว้างขึ้น
ลมเย็นพัดมาจากหน้าต่าง ได้ยินเสียงนกไม่ทราบชนิดกำลังร้องอยู่ ความสุขที่พูดกัน คงจะเป็นเช่นนี้เอง