ยอดหญิงอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 156.1 ใกล้เพียงเอื้อมมือ (1)

เว่ยเสียวเถี่ยกางสองแขนออก รีบกล่าว “เป็นชาวบ้านผู้ประสบภัยที่ขโมยของกินตอนหนีภัยไปกับข้า! บ้านอยู่ตำบลลี่สุ่ยข้างเมืองเยี่ยนหยาง ครั้งนี้ก็ประสบภัยเช่นกัน มาขอเข้ากับลูกพี่หลี่ว์กับข้าด้วย!”  

 

 

เวลานี้เอง หลี่ว์ปาก็ลงมาจากหอประตูเมือง ใช้แสงไฟมองหญิงสาวข้างกายเว่ยเสียวเถี่ย ผอมโซตัวเหลือง น่าเกลียดจนไม่อยากมองตรงๆ ดูแล้วก็เหมือนกับหญิงชาวบ้านธรรมดา คิ้วตากดลง “โยนหญิงผู้นี้ออกไป!”  

 

 

เว่ยเสียวเถี่ยก็ยังพออนุโลมได้ เพราะรู้จักพื้นเพกัน แต่จะให้คนแปลกหน้าเข้ามาได้อย่างไร!  

 

 

เหล่าลูกน้องนั้นไม่ลังเล รีบเข้าไปดึงตัวเว่ยเสียวเถี่ยออก จะลากตัวอวิ๋นหว่านชิ่นออกไป  

 

 

เว่ยเสียวเถี่ยกล่าวอย่างร้อนรน “ลูกพี่หลี่ว์ปา! หญิงผู้นี้ขโมยของกับข้า พี่โยนนางออกไปตอนนี้ จะให้นางโดนทหารจับหรืออย่างไร พี่บอกว่า ชาวบ้านผู้ประสบภัยขอเพียงเข้าร่วมกับพี่ ก็จะได้กินอิ่มสามมื้อไม่ใช่หรือ”  

 

 

“ข้าหมายถึงคนเมืองเยี่ยนหยาง! คนเมืองอื่นข้าไม่เชื่อใจ! ใครจะไปรู้พื้นเพมันเป็นอย่างไร! พาออกไป!” หลี่ว์ปาโบกมือ  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นถูกคนสองคนจับตัว ลากไปยังประตูเมือง เกือบจะถึงหน้าประตู เห็นว่ามีคนกำลังจะดึงสลักประตู เห็นว่ากำลังจะถูกโยนไปนอกประตูเมืองเยี่ยนหยางแล้ว จึงใช้แรงทั้งหมดที่มีขัดขืนดึงตัวเองออกมา  

 

 

นางพุ่งไปข้างหน้า โค้งตัวลง แก้รองเท้าออก แล้วฟาดลงบนหัวหลี่ว์ปา “หลี่ว์ปาอะไรกัน หวังปา[1]น่ะสิถึงจะถูก! ข้าได้ยินว่าเจ้าให้ข้าวผู้ประสบภัย วิ่งหนีมาไกลเพียงหนี รองเท้าพังหมดแล้วก็เพื่อจะเข้าร่วมกับเจ้า แต่กลับโยนข้าออกไปข้างนอกให้ทหารทางการจับตัว! ถุย เจ้ามันสารเลว!”  

 

 

“ลูกพี่!” คนกลุ่มนั้นตกใจ ความโมโหปะทุเดินเข้ามาจะลากตัวอวิ๋นหว่านชิ่นออกไปอีก  

 

 

หลี่ว์ปาคลึงนวดหน้าผาก มองดูหญิงสาวหน้าตาน่าเกลียดตรงหน้า กลับรู้สึกสนใจขึ้นมา ชูมือขึ้นโบก ส่งสัญญาณให้ลูกน้องว่าอย่าลนลาน “ช่างเป็นหญิงสาวที่ร้อนแรงยิ่งนัก”  

 

 

ชิ่งเกอเอ๋อร์ขุดดินบนหัวองค์ไท้ส่วยเสียแล้ว ขนาดเว่ยเสียวเถี่ยที่กล้าหาญไม่เคยกลัวอะไรยังตกใจจนอึ้งตะลึงอ้าปากค้างไป  

 

 

พอเห็นว่าหลี่ว์ปาไม่ได้โมโหอะไร หน้าที่ตึงเครียดก็เริ่มผ่อนคลายลง เว่ยเสียวเถี่ยตั้งสติได้ รีบเข้าไปลากชิ่งเกอเอ๋อร์ กล่าวเสียงดัง “ข้าบอกแล้วว่าลูกพี่หลี่ว์เป็นคนมีคุณธรรม เป็นคนใจกว้าง ย่อมดูแลชาวบ้านทุกสารทิศอยู่แล้ว จะแบ่งแยกคนในเมืองคนนอกเมืองได้อย่างไร”  

 

 

หลี่ว์ปาได้รับคำชมจากเสียวเถี่ย ลูบคางเล็กน้อย หันไปทางหญิงสาวที่ถึงแม้จะหน้าตาน่าเกลียดแต่ใจกล้าบ้าบิ่นผู้นั้น “ชื่ออะไรเล่า คนของตำบลลี่สุ่ยข้างๆ นี่หรือ ที่บ้านก็ประสบภัยเหมือนกันหรือ”  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นได้ยินดังนั้น คิดว่าหลี่ว์ปาน่าจะผ่อนปรนลงบ้างแล้ว กล่าวตามที่เคยเตรียมไว้กับเว่ยเสียวเถี่ย “ข้าชื่อชิ่งเอ๋อร์ เป็นคนตำบลลี่สุ่ย ที่บ้านเปิดร้านขายยา กระท่อมสองสามหลังต่างก็ปลูกอยู่ล่างเขื่อน เพียงคืนเดียวก็ถูกน้ำพัดหายไปหมด ข้าพลัดหลงกับพ่อแม่พี่น้อง ระหว่างทางหนีภัยก็ได้พบกับเสียวเถี่ย หิวจนไม่ไหว พวกข้าเลยไปขโมยซาลาเปามากิน ใครจะรู้ว่าโชคไม่ดี ในเวลาวุ่นวายเช่นนี้ ยังจะโดนคนของทางการไล่ตามจับอีก พวกข้าสองคนถูกไล่ตามมาสองวันแล้ว เสียวเถี่ยบอกว่าไม่มีวิธีอื่น ถ้าไม่อยากเข้าคุก ก็ต้องกลับเมืองเยี่ยนหยางเข้าร่วมกับคนที่ชื่อลูกพี่หลี่ว์ปา” พูดอยู่ก็ยกมือขึ้น ใช้หลังมือเช็ดจมูก ส่งเสียงโกรธเคือง เป็นท่าทางของหญิงสาวชาวบ้านจริงๆ “ข้าเลยแอบหนีออกมากับเสียวเถี่ย แค่คิดว่าอยากจะหาที่สงบสุขอยู่ ไม่ถูกจับกลับไป ใครจะคิดว่าเจ้าจะไม่รับแม้กระทั่งหญิงสาวอ่อนแอ! เสียดายที่ระหว่างทางข้ายังหนึ่งว่าเจ้าเป็นวีรบุรุษกู้โลกเสียอีก! ถุย!”  

 

 

“ฮ่าๆ…” หลี่ว์ปาหัวเราะขึ้นมา “เจ้านี่หรือหญิงสาวอ่อนแอ ข้าว่าตอนเจ้าเอารองเท้าฟาดข้าเมื่อครู่นี้ เก่งกาจกว่าเสียวเถี่ยเสียอีก!”  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นทำท่าทีโกรธเคืองแล้วถูจมูกอีก ไม่ได้พูดอะไร  

 

 

เว่ยเสียวเถี่ยรีบถือโอกาส “ลูกพี่หลี่ว์ พี่อย่าเห็นว่าชิ่งเอ๋อร์หน้าตาไม่งดงามสะดุดตา ที่บ้านก็ยากจน นางมีพี่ชายคนหนึ่งเป็นครูสอนหนังสือ นางเรียนหนังสือตามพี่ชายได้สองปี อ่านออกเขียนได้ ลูกพี่หลี่ว์เก็บนางเอาไว้ใช้ นอกจากเก็บกวาดซักเสื้อผ้าทำกับข้าวแล้ว ส่งสาส์นเขียนหนังสือ ก็สั่งให้นางไปทำได้หมด! ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว!”  

 

 

หลี่ว์ปาครุ่นคิด อ่านออกเขียนได้หรือ ในกองทัพของตน ไม่ขาดคนรู้การรบราฆ่าฟัน คนที่มีความรู้กลับมีไม่กี่คน โดยเฉพาะความร้อนแรงของสาวหน้าตาน่าเกลียดนี้ก็ตรงใจเขายิ่งนัก เป็นสาวชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่กลัวฟ้าดิน เหมาะกับสถานการณ์ของเมืองเยี่ยนหยางในตอนนี้เป็นอย่างมาก  

 

 

เมื่อคิดไป หลี่ว์ปาก็หรี่ตา “ใครก็ได้ มาค้นตัวหญิงสาวคนนี้ก่อน!”  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นรู้ว่าเขายอมให้ตนอยู่ในเมืองแล้ว ก็ดีใจอยู่ในใจ ได้ยินว่าจะค้นตัว ก็ตึงเครียดขึ้นมาอีก แล้วก็เห็นชายฉกรรจ์เดินเข้ามาทางตน  

 

 

ชายฉกรรจ์เดินเข้าใกล้สาวชาวบ้านผอมโซตัวเหลือง คิ้วเรียวตาเล็ก ขนาดผมยังบางคนนี้ น้ำเสียงหยาบโลน “ยกมือขึ้น เปิดออก!”  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นชะงักไป ไม่ได้ขยับตัว เว่ยเสียวเถี่ยพูดไกล่เกลี่ยอยู่ข้างๆ “ลูกพี่หลี่ว์ คนที่มากับข้าพี่ยังไม่เชื่อใจอีกหรือ”  

 

 

หลี่ว์ปาสีหน้าคร่ำเครียด “เจ้านึกว่าข้าเชื่อเจ้าหรือ เจ้าก็ต้องถูกค้นตัวเช่นกัน!” พูดไปก็ยกมือขึ้นโบก ลูกน้องอีกคนก็เข้าไปค้นตัวเว่ยเสียวเถี่ย  

 

 

ช่างระแวดระวังตัวเสียจริง! อวิ๋นหว่านชิ่นจึงได้ผายมือออก ชายฉกรรจ์นั่นเห็นห่อผ้าของนางยื่นออกมา ดึงเล็กน้อย ห่อผ้านั้นก็ตกลงมา  

 

 

หลี่ว์ปาสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันใด “เปิดออก ตรวจดูเสีย!”  

 

 

ชายฉกรรจ์เปิดห่อผ้าออกแล้วค้นดู เห็นเพียงสมุนไพรยา แล้วยังมีขวดใส่งูหลายตัวอยู่ด้วย หลี่ว์ปาและลูกน้องเห็น ถึงแม้จะโล่งใจ แต่กลับสอบถาม “นี่คืออะไร เจ้าพกพวกนี้มาทำอะไร!”  

 

 

“เมื่อครู่ข้าก็บอกแล้ว บ้านข้าเปิดร้านขายยา” อวิ๋นหว่านชิ่นโกหกต่อโดยไม่มีสีหน้าท่าทางพิรุธใด “พวกนี้เป็นยาสมุนไพรและสมุนไพรงูที่กว่าจะเอาออกมาได้หลังจากที่บ้านข้าถล่มลงมา พกมันติดตัวไว้ เผื่อได้ใช้ในยามจำเป็น…”  

 

 

ยังไม่ทันพูดจบ ห่อผ้าก็ถูกลูกน้องคนหนึ่งแย่งไป ยิ้มกล่าว “ดี งูนี้ดี เอาไว้ดองเหล้าคงไม่เลว!”  

 

 

“คืนข้ามา!” อวิ๋นหว่านชิ่นแย่งกลับมาอย่างแรง “นี่เป็นของของข้า! ใครกล้าแย่ง ข้าก็จะเอาเรื่องคนนั้น!”  

 

 

หลี่ว์ปาหัวเราะ “ดี เหมือนลูกวัวเพิ่งเกิด! เก่งกาจยิ่งนัก!” พูดแล้วก็โบกมือ  

 

 

ลูกน้องเบะปาก ถอยไปข้างๆ  

 

 

เมื่อโวยวายเช่นนี้ ในที่สุดก็ผ่อนคลายบรรยากาศไปได้ ชายฉกรรจ์ตัวกำยำเตรียมจะค้นตัวต่อ ยื่นมือออกมา เห็นว่าจะไปดึงผ้าคาดเอวของตนแล้ว อวิ๋นหว่านชิ่นนึกถึงปืนไฟที่ตนซ่อนไว้ในกางเกงชั้นใน เหงื่อก็ท่วมหลังไปหมด ถอยหลังไปสองสามก้าว กอดห่อผ้าไว้ด้วยความโมโห แล้วถ่มน้ำลายใส่ชายฉกรรจ์นั่น “ยังค้นไม่พออีกหรือ อย่างไรเสียข้าก็เป็นหญิงสาว อีกหน่อยยังต้องออกเรือนอีก ถ้าจะค้นตัวก็หาผู้หญิงมาค้น ท่ามกลางสายตาผู้คน ชายหนุ่มจ้องมองอยู่ข้างๆ พวกเจ้าค้นตัวเช่นนี้ โดนพวกเจ้าแต๊ะอั๋งหมดแล้ว ยังจะมีชายดีๆ เอาข้าอีกหรือ ข้าไม่ยอม!”  

 

 

“แหม ไม่ยอมเสียด้วย!” คนกลุ่มนั้นหัวเราะ มีคนปากร้าย “ออกเรือนหรือ สาวน้อยเจ้าคิดมากไปแล้ว! สภาพเจ้าเช่นนี้ ไปเสนอตัวก่อนก็คงจะไม่มีใครเอา!”  

 

 

“นั่นสิ ยังมาบอกว่าพวกข้าแต๊ะอั๋งอีกหรือ สาวน้อยคนนี้ช่างมั่นหน้าเสียจริง!”  

 

 

อวิ๋นหว่านชิ่นเชิดหน้า แก้มตึง เป็นท่าทีที่ร้อนรนจริงๆ เอาคืนอย่างโมโห “แม่ข้าบอกแล้วว่า มีแต่ชายหนุ่มที่หาเมียไม่ได้ ไม่มีหญิงสาวที่ไม่ได้ออกเรือน! อย่างไรเสีย พวกเจ้าถ้าใครค้นตัวข้า ทำลายชื่อเสียงข้า ข้าก็จะแต่งกับคนนั้น…” พูดไปก็พุ่งตัวเข้าไปตรงหน้าลูกน้องกลุ่มนั้น “เจ้าค้นสิ…หรือไม่เจ้ามาค้นสิ…”  

 

 

เหล่าลูกน้องของหลี่ว์ปารีบถอยหนี หญิงสาวหน้าตาน่าเกลียดเช่นนี้ ช่างเกเรเอาแต่ใจเสียจริง แต่ก็ฉลาดยิ่งนัก อยากจะจับคนอื่นมาทำสามีไปด้วย สภาพเช่นนี้ ใครจะยอมแต่งด้วยเล่า!  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] หวังปา  คำด่าในภาษาจีน ความหมายเชิง ชั่ว สารเลว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset