อันซย่าซย่าฝันร้ายตลอดทั้งคืน
ในความฝัน เซิ่งอี่เจ๋อยืนตระหง่านอยู่เหนือเธอพร้อมกับดาบใหญ่เล่มหนึ่งพาดไว้บนไหล่ เขาก้มมองเธอพลางบอก “อ้อ เธอเองสินะที่คอยตามด่าว่าฉันในโลกออนไลน์ วันนี้ก็ถึงขั้นชนรถของฉันอีก หึๆ ฉันว่าฉันจะรวบยอดหนี้สองก้อนนี้แล้วสับเธอเป็นชิ้นๆ …”
อันซย่าซย่ากรีดร้องเสียงหลงก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน
หญิงสาวปิดนาฬิกาปลุกที่ข้างเตียง ใช้เวลาพยายามอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะปรับลมหายใจให้เป็นปกติจนสงบใจลงได้ในที่สุด แล้วเธอก็เหลือบไปมองที่นาฬิกาก่อนจะกรีดร้องโหยหวนออกมาอีกครั้ง
“อ๊าย!!!”
เธอลงจากเตียงในทันทีและถลันเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอย่างไว ก่อนจะคว้าเป้สะพายหลังวิ่งออกจากประตูบ้าน
สายแล้ว!
เมื่อวานนี้เป็นวันแรกของเธอที่โรงเรียนมัธยมฉีซย่า ครูประจำชั้นของเธอสั่งให้ทุกคนมารวมตัวกันวันนี้เวลาแปดโมงตรงเพราะมีพิธีปฐมนิเทศ
ทว่าตอนนี้เวลา 7.45 น. เข้าไปแล้ว และการเดินทางจากบ้านเธอไปถึงโรงเรียนใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง…
พี่ชายของเธอไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนพ่อก็ลาพักร้อน ดังนั้นเลยไม่มีใครในบ้านที่จะช่วยปลุกเธอ
ขณะที่กำลังท้อแท้และสิ้นหวังอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีจักรยานเสือภูเขาใหม่เอี่ยมคันหนึ่งมาจอดเทียบข้างๆ เด็กหนุ่มบนจักรยานหน้าตาดีดูกระปรี้กระเปร่า นัยน์ตาและเรียวคิ้วทำให้เขาดูสดใสร่าเริง ถึงแม้ผมหน้าม้าจะยาวไปนิดก็เถอะ ยาวเกือบจะบังดวงตาสีอำพันของเขา
พอเห็นเขาเท่านั้น อันซย่าซย่าก็รู้สึกราวกับกำลังมองคนที่เธอรักสุดหัวใจ เธอร้องเสียงหลง “คังเพี้ยน!”
คังเจี้ยนแทบตกจากจักรยานเพราะพลังเสียงของเธอ เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าสับสนงุนงง “เธอก็ตื่นสายเหมือนกันเหรอ”
“มัวแต่พูดมากอยู่ได้! รีบพาฉันไปโรงเรียนเลย”
อันซย่าซย่ากระโดดซ้อนท้ายจักรยานของเขาอย่างช่ำชอง แล้วคังเจี้ยนก็ปั่นออกไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง
เมื่อคังเจี้ยนปั่นมาจนถึงโรงเรียน ทั้งสองกลับค้นพบความจริงที่น่าเศร้ายิ่งกว่า…
ประตูรั้วโรงเรียนล็อกแล้ว! ล็อกแน่นสนิท! มี รปภ. ท่าทางน่าเกรงขามดูสง่าผ่าเผยสองคนยืนประจำการอยู่ที่ประตู ในตอนนั้นเอง รปภ.ก็จ้องมองมาที่ทั้งสอง
“ทำยังไงดีล่ะ เราจะเข้าไปไหม” คังเจี้ยนถามอย่างหวั่นๆ ขณะยันขาข้างหนึ่งบนพื้นเพื่อพยุงจักรยาน
“ยังไงล่ะ! นายเห็นสมุดเล่มเล็กๆ บนโต๊ะนั่นไหม มันต้องเป็นสมุดจดรายชื่อนักเรียนที่มาสายแน่ๆ นายอยากถูกครูลงโทษตั้งแต่วันเปิดเทอมเลยหรือไง!” อันซย่าซย่าเอามือทาบหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มใจ
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี” คังเจี้ยนมองเธอหน้าเจื่อน
“ฉันไม่รู้ ลองคิดหาทางด้วยสมองเล็กๆ ของนายดูสิ!” อันซย่าซย่าตอบอย่างกระวนกระวายใจ แต่เธอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน
คังเจี้ยนดึงหูทั้งสองข้างของตัวเองพลางใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียที่เขาคิดว่าหลักแหลมที่สุดได้แผนหนึ่ง “ซย่าซย่า มาปีนกำแพงเข้าไปกันเถอะ! คิดดูสิ ตอนนี้ทุกคนกำลังร่วมอยู่ในพิธีปฐมนิเทศ ไม่มีใครเห็นเราหรอก!”
เธอพิจารณาอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบ “แผนดี! เรามาปีนกำแพงกันเถอะ!”
ทั้งสองตัดสินใจทำตามแผน เอาจักรยานเสือภูเขาไปล็อกไว้หน้าร้านสะดวกซื้อ คังเจี้ยนเลือกตำแหน่งที่เหมาะเจาะข้างกำแพงและให้อันซย่าซย่าเหยียบหลังปีนขึ้นไป
–
โรงเรียนมัธยมฉีซย่า
พิธีปฐมนิเทศจัดขึ้นที่สนามภายในโรงเรียน มีไมโครโฟนตัวหนึ่งตั้งอยู่หน้าเสาธง และด้านหลังเสาธงก็คือกำแพงส่วนที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ของโรงเรียน
ผู้อำนวยการถือสคริปต์ไว้ กำลังเตรียมตัวขึ้นกล่าว แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไป ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องแหลมดังมาจากด้านหลัง ตามมาด้วยเสียงดังโครมเหมือนอะไรบางอย่างหนักๆ ตกลงบนพื้น
ผู้อำนวยการโรงเรียนหันขวับ นิ่งงันไปกับสิ่งที่เห็น
เด็กผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งนอนแผ่หราอยู่บนพื้นราวกับหล่อนเพิ่งตกลงมาจากท้องฟ้า และบนกำแพงก็มีเด็กผู้ชายอีกคนกำลังตั้งท่าจะกระโดดลงมาอย่างห้าวหาญพลางตะโกน “ซย่าซย่า ฉันกำลังลงไปแล้วนะ! รับกระเป๋าฉันด้วย!”
อันซย่าซย่าประมวลสถานการณ์ที่กำลังดำเนินไปข้างในโรงเรียนได้แล้วและตอนนี้เด็กสาวก็ร้องไม่ออกกับสิ่งที่กำลังเห็น เธอโบกไม้โบกมือไล่เขาพลางทำปากขมุบขมิบ “อย่าลงมา อย่าลงมาตรงนี้!”