ซย่าซย่ายิ้มอย่างงงๆ “เอ่อ… แล้วไง”
เธอเป็นคนประเภทที่น่ารักแต่ก็แอบบื้อนิดๆ แทบไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดของเธอนั้นสร้างความเกลียดชังได้ยิ่งกว่าคำว่า “เชิญเลย” ของเซิ่งอี่เจ๋อเสียอีก เจี้ยนซินเอ๋อร์จ้องหน้าเธอน้ำตารื้น “ฉันจะจำคำพูดเธอเอาไว้! ฮึ!”
หล่อนเหลือบตามองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยระหว่างที่ปีนกลับเข้ามาจากราวระเบียง จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งลงบันไดไป
อันซย่าซย่าอับจนซึ่งคำพูดขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะหึ
เป็นเสียงหัวเราะเบาๆ แต่แฝงด้วยความเยาะเย้ย และอันซย่าซย่าก็บอกไม่ได้เลยว่าเขากำลังหัวเราะเยาะเจี้ยนซินเอ๋อร์หรือตัวเองเธอกันแน่ ดังนั้นเธอจึงจ้องหน้าเขาพลางเย้ยหยัน “นายนี่มันทุเรศอย่างที่อินเตอร์เน็ตว่าไว้จริงๆ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะปฏิบัติกับแฟนคลับตัวเองแบบนี้! นายจะพอใจไหมถ้าหล่อนโดดลงไปจริงๆ?”
หมอนี่ร้ายกาจที่สุดเลย!
อันซย่าซย่าย้ำกับตัวเองในใจ แต่พอมองไปเห็นว่าเขากำลังยืนอยู่ที่ไหนแล้วเธอก็อึ้งไป
ตอนที่ไม่มีใครทันสังเกต เขาขยับเข้าไปใกล้ขอบดาดฟ้าและพร้อมที่จะวิ่งเข้าหาถ้าจำเป็น
เขาคงมั่นใจว่าเจี้ยนซินเอ๋อร์จะไม่กระโดด แต่ถ้าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ที่ๆ เขากำลังยืนอยู่ในตอนนี้นั้นก็ใกล้พอที่จะวิ่งเข้าไปช่วยหล่อน!
เขาดูเหมือน… ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอย่างที่เห็น…
หญิงสาวงงงัน ในฐานะแอนตี้แฟน เธออยากจะเชื่อว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนเลวไร้หัวใจมากกว่าที่จะค้นพบว่าที่จริงแล้ว เขามีมุมแบบนี้ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปาก “ฉันคิดว่าเธอเชื่อข่าวลือมั่วๆ พวกนั้น แล้วสร้างให้ฉันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายเพียงแค่มองอย่างผิวเผินสินะ พอใจหรือยัง”
ด้วยความละอายใจ อันซย่าซย่าอยากจะอธิบาย ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อกำลังก้าวลงบันไดไปอย่างไม่เร่งรีบมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง
ทิ้งให้เธอยืนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางสายลม หญิงสาวทั้งอึดอัดใจและรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
เมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้ เธอจึงสำนึกได้เดี๋ยวนั้นเองว่าเธอต้องทำความสะอาดดาดฟ้ามหึมาแห่งนี้ตามลำพัง!
–
กวาดพื้นดาดฟ้าตามลำพังเสร็จแล้ว อันซย่าซย่าก็เหนื่อยจนแทบก้าวขาไม่ออก คังเจี้ยนต้องมาลากเธอออกจากประตูโรงเรียน
เด็กหนุ่มไปเอาจักรยานมาเพื่อปั่นไปส่งเธอที่บ้าน
อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเว็บเวยปั๋วเล่นอย่างมีความสุข หลังจากเล่นอยู่สักพัก อยู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่น เธอคลิกดูข้อความเตือนซึ่งเป็นข้อความจากแอปบ้านเช่า
บ้านเธออยู่ในย่านที่ดี ป่าป๊าอันเปิดร้านกาแฟอยู่ที่ชั้นล่าง ครอบครัวอาศัยอยู่บนชั้นสอง และวางแผนกันไว้ว่าจะเปิดให้เช่าชั้นสาม ดังนั้นอันซย่าซย่าจึงจัดการประกาศให้เช่าออนไลน์
เธอไม่คิดว่าการเปิดให้เช่าทั้งชั้นนั้นจะเป็นเรื่องง่าย แต่คนที่ส่งข้อความมาหาเธอก็ตกลงง่ายๆ อย่างน่าประหลาดใจ หลังจากถามว่าผนังเก็บเสียงหรือเปล่าและขอดูรูปเพิ่มเติมอีกไม่กี่รูป พวกเขาก็โอนเงินค่ามัดจำครึ่งปีตรงเข้าบัญชีอันซย่าซย่าและแจ้งว่าจะย้ายเข้ามาอยู่สัปดาห์หน้า
อันซย่าซย่าจ้องมองเงินจำนวนมากในบัญชีของเธออย่างอึ้งๆ พลางหยิกเอวคังเจี้ยน เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บ “เธอทำอะไรน่ะ”
“ฮ่าๆ ชั้นสามของบ้านฉันเพิ่งถูกเช่าและเขาจ่ายเงินมัดจำมาแล้วน่ะสิ นี่เป็นข่าวดีสุดๆ! นายเลี้ยงข้าวฉันเลย!”
คังเจี้ยนถามกลับด้วยความข้องใจ “อ้าวทำ ไมเธอไม่เป็นฝ่ายเลี้ยงฉันล่ะ”
“ทำไมฉันต้องเลี้ยง! นายควรจะเป็นฝ่ายแสดงความยินดีกับฉันไม่ใช่เหรอ”
คังเจี้ยนอยากจะร้องไห้อีกแล้ว เขารู้ว่าเขาไม่เคยเอาชนะอันซย่าซย่าได้เลยถ้าเถียงกันและเขาก็ทำได้แค่ยอมรับมัน
ทั้งสองกำลังกินเนื้อย่างที่ร้านแถวบ้านอย่างมีความสุข จู่ๆ โทรศัพท์หญิงสาวก็สั่นอีกครั้ง เธอตรวจสอบข้อความแล้วก็หน้าซีดเผือด
ข้อความนั้นมีแค่สามคำ “จ่ายคืนมา”
รูปที่แนบมาด้วยคือใบเสร็จค่าซ่อมและค่าชดเชยจากประกัน
อันซย่าซย่านับเลขศูนย์ด้วยนิ้วอันสั่นระริก เนื้อย่างในมือตกลงพื้นดังตุ้บ
คนที่ส่ง… จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเซิ่งอี่เจ๋อ!
เขาจำเธอได้จริงๆ เหรอเนี่ย! โอ๊ย!!