สงครามที่กำลังปะทุกลับสิ้นสุดลงด้วยความทะเล่อทะล่าของอันซย่าซย่า
เมื่อสตาร์รี่ไนต์พากันเดินไปจนพ้นระยะได้ยิน หรงเช่อก็กัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชังขั้นสุด “ไปสืบมาว่ายายเด็กนั่นเป็นใคร!”
ภายในสตูดิโอ
ระหว่างที่เซิ่งอี่เจ๋อกับอีกสองคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อันซย่าซย่าก็มองดูรอบๆ ฉากถ่ายทำอย่างอยากรู้อยากเห็น
ว้าว… มีแม้กระทั่งฉากเหนือจินตนาการ ละครเรื่องนี้ดูเหมือนจะมีงบไม่อั้นเลยแฮะ…
หลูเคอเหลือบมองมาที่เธอก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน “เธอเป็นใคร ทำไมถึงได้มากับเซิ่งอี่เจ๋อและคนอื่นๆ”
อันซย่าซย่ารีบแนะนำตัวทันที “สวัสดีค่ะ หนูเป็นเพื่อนร่วมห้องและเป็นผู้ช่วยของเขาค่ะ…”
หลูเคอมีสีหน้าราวกับเพิ่งเคยได้ยินเรื่องตลกที่น่าขันเป็นที่สุด “เขานี่ช่าง… เหมือนว่าคำแนะนำทุกอย่างของฉันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเลยสินะ!”
หลูเคออาจจะโมโห แต่ก็ยังให้คำแนะนำอันซย่าซย่าในเรื่องต่างๆ สองสามเรื่องที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล ซึ่งก็เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าหล่อนมอบตำแหน่งรองผู้ช่วยให้เธอโดยปริยาย
“ไปซื้อกาแฟให้ทุกคนด้วย” หลูเคอสั่ง “อ้อ เอาบัตรนี้ไปซื้อ”
“ค่ะ!” อันซย่าซย่ารับบัตรเครดิตและเดินไปซื้อกาแฟด้วยความกระตือรือร้น
หลูเคอปรายตามองตามเธอด้วยแววตาที่ยากจะอธิบายก่อนจะเดินไปยังห้องแต่งตัว
เซิ่งอี่เจ๋อและอีกสองคนเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อผ้าสไตล์จีนโบราณเรียบร้อยและกำลังอยู่ในระหว่างการแต่งหน้า เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ฉือหยวนเฟิงก็ทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง “เจ้เคอ เจ้เคอ ผมคิดว่าเจ้ก็สวยอยู่แล้วละนะ แต่ว่าทำไมวันนี้ดูสวยเป็นพิเศษละฮะ”
ผู้หญิงทุกคนต่างก็ชอบคำเยินยอและหลูเคอนางจิ้งจอกก็ไม่ต่างกัน หล่อนขยับปากยิ้มเล็กน้อยก่อนจะสวมสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม “เฟิงเฟิง ลมปากหวานๆ ของเธอไม่ช่วยให้ฉันลืมเรื่องวิดีโอเกมของเธอหรอกนะ! ดูหน้าดูตาเข้าซิ! เธออยากให้คนอื่นเห็นเธอแบบนี้เหรอ คราวหน้าฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้แล้วนะ!”
ฉือหยวนเฟิงกระแอมจากนั้นก็ไม่กล้ากล่าวคำใดออกมาอีก
จากนั้นหลูเคอก็เดินไปหาเซิ่งอี่เจ๋อและคุยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อี่เจ๋อ ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้ไยดีอะไรกับธุรกิจนี้ แต่ตอนนี้มันใม่ใช่แค่เธอเพียงคนเดียวแล้ว ฉันหวังว่าเธอคงไม่ทำลายวงเพราะเรื่องส่วนตัวของเธอนะ!”
เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างใจเย็น “ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่”
“ดี!”
จากนั้นหลูเคอก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในแวดวงธุรกิจบันเทิงอีกมากมายก่อนที่อยู่ๆ จะเกิดความวุ่นวายขึ้นที่ข้างนอก
“นี่ ยัยโง่ ฉันสั่งน้ำมะนาว ทำไมถึงได้ใส่น้ำผึ้งลงไปในนั้น เธอจะรับผิดชอบไหมถ้าหากฝานซิงของฉันน้ำหนักขึ้นน่ะ” เสียงแหลมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งแหวใส่อย่างเกรี้ยวกราด
หลูเคอกล่าวอย่างหงุดหงิด “ผู้จัดการของหลีฝานซิงขยันสร้างซีนอีกแล้วนะเนี่ย น่ารำคาญชะมัด—ก็แค่ดาราเกรดสามตัวเล็กๆ แต่ทำตัวโอ่อ่าใหญ่โต”
ไม่มีใครใส่ใจอะไรเหตุการณ์นั้นมากนัก แต่เสียงหวานๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งตอบกลับอย่างแหยๆ “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันจะไปซื้อมาใหม่”
ที่ด้านนอกประตู
อันซย่าซย่าเพิ่งเสร็จจากเดินไปซื้อกาแฟมาให้คนในกองถ่ายและคิดว่าจะขอพักสักนิด ทว่ามีพี่สาวใหญ่คนนี้เดินมาหาและเจ้ากี้เจ้าการสั่งให้เธอไปซื้อน้ำมะนาวมาให้หน่อย
แล้วหล่อนก็บอกกับอันซย่าซย่าว่าเธอซื้อมาผิด…
เฮ้อ! หญิงสาวได้แต่หวังว่าเธอน่าจะถามเสียก่อน ตอนนี้เลยต้องไปซื้อมาให้ใหม่อีก!
หลังจากกลับมาพร้อมกับแก้วใหม่ พี่สาวใหญ่คนนั้นก็มองหน้าเธอแวบสั้นๆ ก่อนจะเอ่ย “อ๋อ ฝานซิงของเราไม่ต้องการมันแล้ว ไปซื้อน้ำแร่จากร้านสะดวกซื้อมาให้ที!”
อันซย่าซย่ายืนอึ้งไป สตูดิโอแห่งนี้อยู่ห่างจากร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดตั้งร่วมชั่วโมง!
หญิงสาวลูบศีรษะไปมา ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี
ที่สุดแล้ว มารยาทของเจ้ใหญ่คนนั้นมัน…แย่มาก และเธอก็ไม่ได้เป็นผู้ช่วยของหล่อนด้วยซ้ำ!
ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงสง่างามน่าฟังก็ดังขึ้น “ฉีฉี ผมมีน้ำอยู่ขวดนึง เอาให้ฝานซิงไหม”
อันซย่าซย่าหันไปทางเสียงนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วแก้มก็เปลี่ยนเป็นแดงปลั่งเหมือนกับกุ้งต้ม!
อา! ให้ตายเถอะ! หรงเช่อนี่เอง!