เป็นที่รู้กันดีว่าไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ปัจจุบันหรือย้อนยุคที่หรงเช่อร่วมแสดง และข้อเท็จจริงที่ว่าบรรดาแฟนคลับผู้ซื่อสัตย์ของเขาพากันคลั่งไคล้ในใบหน้าหล่อเหลาเสมอ แต่หรงเช่อก็มีจุดอ่อนร้ายแรง— นั่นคือเขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่อหน้ากล้องไม่เป็น
ใบหน้าเขาจะดูแข็งเกร็งราวกับภาพนิ่ง
หรือจะพูดภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นนักแสดงยอดแย่!
หรงเช่อใบหน้าซีดเผือด แต่อย่างไรก็ตาม เพราะภาพลักษณ์ที่ต้องคอยระลึกไว้ในใจ เขาจึงทำได้แค่เพียงยิ้มตอบเซิ่งอี่เจ๋อ “โชคดีในการถ่ายภาพนะ” จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินไป
อันซย่าซย่ายืนชะเง้อมองตามพลางโบกมือให้เขาอย่างกระตือรือร้น
เรียวคิ้วของเซิ่งอี่เจ๋อขมวดเข้าหากันแน่นกับภาพนั้น เขาจับมือเธอไว้ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ “พอได้แล้วไหม”
“ฮะ” อันซย่าซย่าพึมพำ
“เข้าไป!”
“โอ๊ะ…”
เซิ่งอี่เจ๋อเริ่มถามตัวเองแล้วว่าเขาตัดสินใจถูกหรือเปล่าที่พาอันซย่าซย่ามาด้วย
ภายในห้องแต่งตัว ฉือหยวนเฟิงและเหอจยาอวี๋ก็แต่งหน้าเสร็จแล้วเช่นกัน ตัวละครของฉือหยวนเฟิงเป็นลูกชายของแม่ทัพซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาซึ่งมีนิสัยตลกและร่าเริง ในขณะที่เหอจยาอวี๋แสดงเป็นเซียนเหวินชู—เซียนแห่งการพิเคราะห์และงานวรรณกรรม เป็นผู้ที่สุภาพอ่อนโยน
“ตำนานเทพตกสวรรค์” ถือเป็นซีรีส์โทรทัศน์ที่ลงทุนถ่ายทำสูงสุดซึ่งเว่ยยางเอ็นเตอร์เทนเมนต์เพิ่งแถลงข่าวไปเมื่อเร็วๆ นี้และมีตัวอย่างโปรโมตละครที่ถ่ายทำเพื่อหรงเช่อ สตาร์รี่ไนต์ทั้งสามเป็นนักแสดงสมทบ—จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมผู้จัดการของหรงเช่อถึงได้หยาบคายกับพวกเขานัก
อันซย่าซย่าน้ำลายไหลอีก เธอรู้แหละว่าสตาร์รี่ไนต์ดูดีมากในชุดเสื้อผ้าสมัยใหม่ แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะดูดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในชุดเสื้อผ้าโบราณ! อ๊าย!
หลังจากนั่งส่องหนุ่มหล่อทั้งสามไปได้สักพัก อยู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอยังไม่รู้เลยว่าเซิ่งอี่เจ๋อแสดงเป็นอะไร
“นายแสดงเป็นใครเหรอ”
เซิ่งอี่เจ๋อเหลือบมองเธอด้วยหางตาพลางเย้ยหยัน “ฉันนึกว่าหรงเช่อของเธอจะเป็นคนเดียวที่เธอสนใจซะอีก”
อันซย่าซย่ายิ้มอย่างเก้อๆ เธอได้รับการบอกเล่ามาว่าหรงเช่อได้รับบทนำ เซียนฉางหรง
“พี่อี่เจ๋อแสดงเป็นบุตรชายของเทพเซียนชื่อเยี่ยหวน! เป็นบทสมทบแต่เขาจะแสดงเป็นฝ่ายที่ไม่ถูกกับฉางหรง มันเป็นบทที่เหมือนตัวจริงมากเลย!” ฉือหยวนเฟิงอธิบาย
อันซย่าซย่าแสดงสีหน้าท่าทางว่ารู้แจ้งแล้ว เมื่อกี้ฟังแล้วดูน่าสนใจมากเลย
เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป เซิ่งอี่เจ๋อก็ขมวดคิ้ว “ฉันเข้าไปก่อนละ”
เมื่อเขาเดินผ่านอันซย่าซย่า อากาศเย็นเยียบที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาทำให้เธอสั่นสะท้าน
อันซย่าซย่าคิดว่าเขาโกรธ… แต่เธอไม่รู้เลยว่าเขาโกรธเรื่องอะไร
แปลกจริงๆ เลย!
“อยู่ตรงนี้แหละไม่ต้องไปไหนล่ะ!” เซิ่งอี่เจ๋อสั่งเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็ไปถ่ายรูป
หญิงสาวเบะปากแล้วนั่งพิงผนังพลางเล่นโทรศัพท์มือถือ
หน้าจอของเธอยังอยู่ที่หน้าอัลบั้มรูป ซึ่งเป็นรูปถ่ายที่เธอถ่ายคู่กับหรงเช่อ
เขาซึ่งอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวเตือนให้เธอนึกถึงเซียนผู้ถูกเนรเทศ เห็นเขาแล้วเธอก็หน้าแดงขึ้นมาอีก รูปคู่ที่ดูไม่เข้ากันแต่กลับกลมกลืนกันอย่างไรก็ไม่รู้
อันซย่าซย่าตั้งรูปนั้นเป็นภาพหน้าจออย่างมีความสุข
ฉือหยวนเฟิงคิดว่าเธอกำลังเล่นเกมอยู่ เขาขยับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูแต่กลับเห็นรูปนั้น
สีหน้าเขาเครียดไปในทันที และความโกรธก็เข้ามาครอบงำบนใบหน้าหล่อเหลาน่ามองนั้น
“ซย่าซย่า เธอไปถ่ายรูปกับหรงเช่อได้ยังไง!”
อันซย่าซย่าสะดุ้งตกใจกับอารมณ์ของเขา แต่ก็คิดว่าคำถามนั้นมันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย มันไม่ใช่เรื่องปกติหรือไงที่จะถ่ายรูปคู่กับไอดอลของเธอ
ก่อนที่จะทันได้ตอบอะไรไป ฉือหยวนเฟิงก็คว้าโทรศัพท์เธอไปก่อนจะวิจารณ์ใส่หูเธออย่างแรง “ซย่าซย่า หรงเช่อน่ะไม่ใช่คนดีเลยนะ! อยู่ห่างๆ จากเขาเอาไว้! เขาเป็นเสือผู้หญิงแล้วก็มีแม้กระทั่งข่าวคาวของเขากับดาราผู้หญิง…”
“ฉือหยวนเฟิง! ฉันสอนให้เธอนินทาคนอื่นลับหลังตั้งแต่เมื่อไหร่” หลูเคอดุเสียงดัง
ชายหนุ่มเงียบลงทันที
อันซย่าซย่าแทบน้ำตาตก “นาย… นายไม่ได้ลบรูปของฉันใช่ไหม”