“แต่ผมคิดว่าอันซย่าซย่าไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด… เธอเกลียดแมวผมและเธอก็เกลียดที่ผมเอาโทรศัพท์เธอไป เธอคงไม่มีวันชอบผมหรอก” ฉือหยวนเฟิงกล่าว แล้วเด็กหนุ่มก็ก้มหน้าคอตก แม้แต่เหอจยาอวี๋ก็ไม่รู้ว่าจะปลอบโยนอีกฝ่ายอย่างไรดี
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าซย่าซย่าชอบนายหรือเปล่า ทั้งหมดที่ฉันรู้ก็คือถ้านายชอบเธอ อี่เจ๋อจะต้องหึงอย่างแน่นอน…” เหอจยาอวี๋กล่าวอย่างยอมแพ้
ฉือหยวนเฟิงกะพริบตาก่อนหันมาหาเขา “ถ้างั้นผมจัดการพี่อี่เจ๋อก่อนดีไหม ถ้าแบบนั้นก็จะไม่มีใครมาแย่งซย่าซย่ากับผม!”
เหอจยาอวี๋พูดไม่ออก เอาจริงเหรอ! จัดการเซิ่งอี่เจ๋อ ด้วยแขนแห้งๆ ของนายน่ะนะ
–
อันซย่าซย่ากำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง ชื่นชมกับรูปคู่ของเธอกับหรงเช่อ ดวงตายิ้มราวกับจันทร์เสี้ยวสองดวง
ฮึ่ม! ฉันจะปรินต์ออกมาแล้วแปะให้ทั่วหัวเตียงเลย! ไม่สิ เธอจะแปะไว้ให้ทั่วบ้านเลยต่างหาก!
เด็กสาวยังคงดื่มด่ำอยู่กับความสุขที่ได้เจอกับไอดอลของเธอ ก่อนจะหลับไปด้วยรอยยิ้ม
วันจันทร์
หลังเสร็จจากพิธีเชิญธงแล้ว อันซย่าซย่าก็เม้าท์มอยอย่างออกรสออกชาติกับซูเสี่ยวมั่วก่อนที่จะกลับไปนั่งที่
หญิงสาวหยิบมือถือออกมาอย่างติดเป็นนิสัยและเปิดดูรูป เซิ่งอี่เจ๋อเห็นเข้าตอนที่เขาเดินผ่านแล้วหน้าก็เปลี่ยนสีทันที
อันซย่าซย่าจำใจต้องเก็บโทรศัพท์เมื่อเสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้น
ครู่ใหญ่ๆ หลังจากอาจารย์คณิตศาสตร์เริ่มสอน ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านนอกประตูห้อง
ฉีเหยียนซีเดินผิวปากเข้ามาใกล้
จากนั้นเขาก็เตะประตูเปิดออก อาจารย์คณิตศาสตร์เกือบจะโมโหอยู่แล้วเชียว ทว่าเมื่อเขาเห็นว่าเป็นใคร เขาก็ยิ้มอย่างประจบประแจง “ฉีเหยียนซี เข้ามาสิ”
ฉีเหยียนซียิ้ม เขาดูหล่อแบบร้ายๆ ภายใต้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้น เขาเดินอย่างไม่รีบร้อนเข้ามาในห้องเรียน มองไปรอบๆ จากนั้นก็เดินตรงมาทางอันซย่าซย่า
เขาเคาะโต๊ะนักเรียนทางด้านขวาของเธอ ซึ่งมีนักเรียนชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ “ไป”
นักเรียนคนนั้นผละหนีทันที เอาแขนสองข้างกอดกระเป๋านักเรียนเอาไว้ ฉีเหยียนซีนั่งลงราวกับนั่นเป็นที่นั่งตามสิทธิ์โดยชอบของเขา ก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อันซย่าซย่า “หวัดดี อันซย่าซย่า ฉันจะเป็นเพื่อนข้างโต๊ะเธอจากนี้เป็นต้นไป หวังว่าเราจะเข้ากันได้ดีนะ”
อันซย่าซย่าก้มเอาหน้าผากโขกโต๊ะก่อนยกมือขึ้นปิดหน้า ไม่สนใจเจ้าหมอนี่
ฉีเหยียนซีเบะปาก สายตาเขาพลันสบเข้ากับเซิ่งอี่เจ๋อกลางอากาศ แล้วเส้นกระแสไฟฟ้าก็ดูเหมือนจะปะทุขึ้นระหว่างทั้งสอง
แต่อึดใจต่อมา ทั้งคู่ต่างก็มองไปคนละทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ที่แท่นโพเดียม ครูกำลังสอนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ระหว่างที่อันซย่าซย่าตั้งอกตั้งใจจดตาม แต่ฉีเหยียนซีกลับคอยก่อกวนเธอโดยการขว้างกระดาษขยำเป็นก้อนหรือไม่ก็ยางลบใส่เธอเป็นระยะ
อันซย่าซย่าคิดว่าหมอนี่ทำไปเพราะไม่ชอบเธอ แต่อย่างไรก็ตาม เซิ่งอี่เจ๋อกำปากกาในมือเขาไว้แน่น ตระหนักดีว่าฉีเหยียนซีกำลังท้าทายเขาผ่านอันซย่าซย่า
หึๆ … ตาแก่ที่บ้านคงทำชีวิตเขาลำบากละสิ นี่ลดตัวลงมาใช้มาตรการแบบเด็กๆ ซะแล้ว
หลังจากจบคาบเรียน ระหว่างที่เซิ่งอี่เจ๋อกำลังพยายามหาวิธีแก้ทางฉีเหยียนซี อีกฝ่ายที่ว่าก็ชิงเดินมาทางที่เขานั่งอยู่ก่อน จากนั้นก็ลูบศีรษะอันซย่าซย่าไปมาอย่างเมามัน
ท่าทางแบบนั้นช่างสนิทสนมเสียจนคนที่ไม่รู้เรื่องดี อาจคิดไปอย่างจริงจังว่าเขากับอันซย่าซย่าญาติดีกันแล้ว
หลายคนพากันมองดูภาพนั้นด้วยความตื่นตะลึง
หญิงสาวเวียนหัวจากการเขย่าอย่างหยาบคายของเขา ด้วยความเดือดดาล เธอคว้าแขนเขาอ้าปากยิงฟันแล้วก็งับเข้าให้
แม้แต่กระต่ายยังกัดเมื่อถูกคุกคาม!
ฉีเหยียนซีร้องเสียงหลงกับการจู่โจมแล้วสะบัดอันซย่าซย่าออกไป “เธอเป็นหมารึไง”
เจ็บชะมัดเลย!
อันซย่าซย่านั่งลงบนเก้าอี้ ยังคงเวียนหัวอยู่
เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพลางยิ้ม “รู้สึกไม่สบายหรือเปล่า ให้ฉันพาเธอไปห้องพยาบาลดีไหม”
“อื้อ… ก็ได้” อันซย่าซย่าพยักหน้า ยังรู้สึกงุนงงอยู่